Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แบ่งปันภาระใจ

วันที่ 9/12/2010

“การอุทิศถวายชีวิตเพื่อเป็นศิษยาภิบาล หรือมิชชันนารียังไม่เป็นที่นิยมในคริสตจักรไทย เพราะภาพที่เห็นชีวิต ศิษยาภิบาลยากไร้และยากลำบาก ไม่มีครอบครัวใดที่อยากจะให้ลูกของตนไปเป็นผู้รับใช้พระเจ้า แต่คริสตจักรไทยเป็นของพระเจ้า และพระเยซูคริสต์สละพระองค์เองเป็นมิชชันนารีและเป็นผู้เลี้ยงอันดี และพระองค์มีพระมหาบัญชาให้คริสตจักรไทยประกาศและทำพันธกิจโลก (ประกาศกับคนต่างชาติ)” [คัดลอกจาก "ทำอย่างไรประเทศไทยจะไม่ขาดผู้รับใช้พระเจ้า" โดย ศจ.ดร.ศึกษา เทพอารีย์]

มิชชันนารี คือ ผู้ที่ถูกส่งออกไปทำงานมิชชั่น (ความหมายแบบง่าย) ทั้งนี้ สามารถแบ่งระดับของมิชชันนารีออกได้ตามลักษณะของการทำงาน แต่มิใช่ทุกคนที่พระเจ้าจะทรงเรียกให้เป็นมิชชันนารี และมิใช่ทุกคนที่ได้รับการทรงเรียกจะตอบสนอง ดังนั้น ผู้ที่ตอบสนองการทรงเรียกโดยการถวายตัวเป็นมิชชันนารี จึงเป็นผู้ที่น่ายกย่องมากทีเดียว

ถึงแม้ว่าพระเจ้าไม่ได้เรียกทุกคนให้เป็นมิชชันนารี ทว่า เป็นพระประสงค์ของพระองค์ที่จะให้ผู้เชื่อทุกคนมีส่วนร่วมกับพันธกิจโลก ตามพระมหาบัญชาของพระองค์ [มธ.28:19-20 “เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค"] การเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ในทุกด้านของชีวิต คือ กุญแจที่จะนำเราไปสู่การมีประสบการณ์กับการทรงสถิตอยู่ด้วยของพระคริสต์และความชื่นชมยินดีแห่งแผ่นดินสวรรค์ (หนังสือผจญภัยโดยการถวาย หน้า 33 โดย บิล ไบรท์)

ภาระใจประการหนึ่งของฉันคือ “การได้เห็นมิชชันนารีผู้สัตย์ซื่อสามารถทำงานรับใช้พระเจ้าตามการทรงเรียกของแต่ละคนโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้และความเป็นอยู่” เราทั้งหลายทราบและรู้แน่ประการหนึ่งว่าผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกให้เป็นมิชชันนารีนั้น จะมิได้คำนึงถึงปัจจัยเรื่องเงิน ตลอดจนความเป็นอยู่อื่นใดเลย ด้วยว่าเขาแน่ใจในพระองค์ผู้ทรงใช้พวกเขาไปว่าพระองค์ผู้ทรงรักและทรงสัตย์ซื่อ จะทรงจัดเตรียมเลี้ยงดูอย่างมิต้องขัดสน พวกเขาต้องดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อล้วนๆ “โดยเริ่มต้นก็ความเชื่อ สุดท้ายก็ความเชื่อ” [รม.1:17]

ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าภาระใจนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด แน่นอนว่าทั้งสิ้นล้วนมาจากพระเจ้า แต่ถ้าให้กล่าวถึงแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับภาระใจนี้ ก็สามารถสรุปได้เช่นกัน คือ
1.ฉันได้รับข่าวประเสริฐโดยการประกาศของมิชชันนารีที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาสอนภาษาอังกฤษที่ BSC
2.ฉันได้เห็นแบบอย่างชีวิตการรับใช้ที่สัตย์ซื่อ ด้วยความรัก เสียสละ อดทน และถ่อมใจของมิชชันนารีจำนวนมาก
3.อาจารย์น้อย ชนัดดา ไชยสาคร ได้ใส่ภาระใจในการดูแลผู้รับใช้พระเจ้าไว้ ผ่านการเรียนพระคัมภีร์เสมอมา
4.ได้เรียนรู้จักจากหนังสือมหัศจรรย์ “พระคัมภีร์ไบเบิ้ล” ซึ่งเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุด (ขอบคุณพระครู)

การรับใช้พระเจ้าของยุคคริสตจักรหรือยุคพระคัมภีร์ใหม่นั้น ไม่มีการแบ่งแยกว่าใครเป็นผู้รับใช้แบบอาชีพ (เต็มเวลา) ใครเป็นผู้รับใช้ฆราวาส ทุกคนเป็นผู้รับใช้พระเจ้าเหมือนกัน โดยเป็นการรับใช้พระเจ้าตามของประทานที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานให้ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ (คส.4:12)…ผู้รับใช้พระเจ้าแบบมืออาชีพ คือ คนที่อุทิศตัวรับใช้พระเจ้าในงานพันธกิจอย่างเต็มที่ โดยมุ่งหวังที่จะเลี้ยงชีพจากงานพันธกิจเพียงอย่างเดียว ไม่เลี้ยงชีพจากการหารายได้ทางอื่น นอกเสียจากไม่มีทางเลือกจริงๆ ส่วนผู้รับใช้ฆราวาสก็คือคนที่อุทิศตัวรับใช้พระเจ้าเช่นกัน แต่ไม่ได้มุ่งหวังจะเลี้ยงชีพจากงานพันธกิจ ยังมีใจที่จะเลี้ยงชีพด้วยการหารายได้ทางอื่นอยู่ (หนังสือ การตัดสินใจและน้ำพระทัยพระเจ้า หน้า 22-23 โดย ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์)

ในยุคพระคัมภีร์เดิมพระเจ้าทรงกำหนดให้เผ่าเลวีเป็นผู้รับใช้พระเจ้าโดยไม่ต้องทำมาหากินอย่างอื่น แต่อยู่ได้ด้วยการถวายของเผ่าต่างๆ ในยุคนี้ก็เช่นเดียวกัน ผู้รับใช้พระเจ้าเต็มเวลาก็ไม่จำเป็นต้องประกอบอาชีพอื่น แต่อยู่ได้ด้วยการถวายของคริสตจักรและคนของพระเจ้า ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์เคยยืนยันไว้ว่า “อาชีพรับใช้พระเจ้าเป็นอาชีพที่มั่นคงที่สุด” ก็เห็นจะจริงดังที่อาจารย์ว่า เพราะพระเจ้าทรงดำรงอยู่ตั้งแต่นิรันดร์กาลจนถึงนิรันดร์กาล ผู้รับใช้รุ่นแล้วรุ่นเล่าก็ลาลับโลกไป แต่อาชีพรับใช้พระเจ้าก็ยังคงอยู่ เพราะพระเจ้ายังทรงอยู่

จากประสบการณ์ของตนเอง พบว่าคริสตจักรไทยจำนวนมากให้ความสำคัญกับผู้รับใช้พระเจ้าเต็มเวลาด้วยการสนับสนุนและถวายอย่างเต็มกำลัง แต่การตระหนักถึงความสำคัญของมิชชันนารีหรือพันธกิจโลกนั้น ยังคงมีน้อยอยู่

ศจ.ยินดี จัง ได้แบ่งปันว่า ปัจจุบันเกาหลีใต้ได้ส่งมิชชันนารีออกไปทั่วโลกกว่า 20,000 คน ยังผลให้คริสตจักรเกาหลีเติบโตและมั่งคั่ง…แล้วประเทศไทยละคะ ปรารถนาที่จะเติบโตเช่นนั้นบ้างไหม?

ศจ.ดร.นรินทร์ ศรีทันดร กล่าวไว้ในบทความ “ทำไมต้องพันธกิจโลก” ว่า “จะเห็นว่าทุกคริสสตจักรที่ส่งมิชชันนารีมีฐานะการเงินดีขึ้น” เข้ากฏที่ว่า “ยิ่งจำหน่ายยิ่งมั่งคั่ง” (สภษ.11:24)

ดร.บิล ไบรท์ ผู้ก่อตั้งองค์การแคมพัสครูเสดฟอร์ไครส์ท กล่าวไว้ในหนังสือผจญภัยโดยการถวาย บทที่ 2 ว่า “พระเจ้าทรงมุ่งหมายให้การถวายด้วยความเชื่อเป็นสิทธิพิเศษอันน่าตื่นเต้น เมื่อคุณถวายพระเกียรติและสรรเสริญพระเจ้าด้วยการทุ่มเทชีวิตของคุณ และด้วยการเชื่อฟังในฐานะผู้อารักขา พระองค์ก็จะทรงชโลมคุณด้วยความชื่นชมยินดี พระองค์จะทรงเปลี่ยนการถวายของคุณให้กลายเป็นการผจญภัย ที่น่าตื่นเต้นในชีวิตคริสเตียน

หกขั้นตอน ในการรับพระพรเหลือล้นจากพระเจ้า
1.ยอมรับว่าทุกสิ่งที่คุณมีนั้น แท้จริงแล้วเป็นของพระเจ้า (สดด.24:1)
2.ตระหนักว่าการให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ (กจ.20:35)
3.ถวายด้วยความเชื่อ (ฟป.4:19)
4.ตระหนักว่าคุณหว่านสิ่งใด ก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น (ปฐก.1:11, กท.6:7,8)
5.ถวายเพื่อพระเจ้าจะได้รับเกียรติ
6.ถวายจากใจ…แรงจูงใจที่พระเจ้าพอพระทัยนั้นเกิดจากหัวใจที่รักพระเจ้าและชื่นชมยินดีในพระองค์ เราถวายเพื่อให้พระเจ้าพอพระทัย และเพื่อแสดงความรักต่อพระองค์ เราถวายเพราะเราเชื่อฟังพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเราที่ให้เราสะสมทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์ เราถวายเพื่อเป็นช่องทางนำทรัพย์อันอุดมของพระเจ้าไปสู่โลกที่ขัดสน เราถวายเพื่อช่วยให้พระมหาบัญชาสำเร็จ และเมื่อเราทำเช่นนั้น เราก็จะช่วยนำโลกนี้มารู้จักพระคริสต์ (หน้า 19)

พี่น้องหลายท่านที่รู้จักฉันดีจะทราบว่าฉันมีชีวิตที่ยากลำบาก จนเมื่อได้พบพระเยซู พระองค์ก็ทรงยกระดับชีวิตและจิตวิญญาณให้สูงขึ้นตามลำดับ จากผู้ที่ทนทุกข์ กลับกลายเป็นผู้มีสันติสุขในพระคริสต์ จากผู้ที่ขาดแคลนแถมมีหนี้สินรุงรัง กลับกลายเป็นผู้ได้รับความอิสระทางด้านการเงิน จากผู้ที่สมควรตกอยู่ในบึงไฟนรก กลับกลายเป็นผู้ได้รับความรอด ฉันจึงเป็นหนี้ของพระคริสต์มากจนไม่อาจบรรยายได้ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ ฉันก็เคยเดินผิดพลาดมาก่อน กล่าวคือ ฉันเคยฉ้อพระเจ้า เมื่อครั้งยังทำงานเต็มเวลาเป็นเจ้าหน้าที่ในคริสตจักรแห่งหนึ่ง ฉันไม่ได้ถวายสิบลดอย่างเต็มขนาด คือ ถวายบ้าง ไม่ถวายบ้าง ด้วยคิดไปเองว่า ฉันได้ทำงานเต็มเวลาและรับใช้พระเจ้าเต็มที่แล้ว ต่อมา เมื่อเปลี่ยนงานและฐานะการเงินยังคลอนแคลนอยู่ก็ไม่ได้ถวายเต็มสิบลดอีก ถวายห้าลดบ้าง แปดลดบ้าง แต่ต่อมาก็เริ่มพัฒนาขึ้น โดยได้ถวายสิบลดอย่างเต็มจำนวน ทว่า เมื่อเดือนไหนเกิดอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง ก็ทูลกับพระเจ้าว่า “ขอยืมก่อนนะคะ เดี๋ยวเดือนหน้าคืนให้” (มีแบบนี้ด้วย) ช่วงหลังพอได้เงินเดือนมาจึงรีบถวายสิบลดทั้งจำนวนเป็นอันดับแรกทันที เพื่อกันไม่ให้ตัวเองทำบาป แม้ว่าจะมีบ้านที่ต้องผ่อน มีบัตรเครดิตอีกหลายใบที่ต้องชำระ มีหนี้ที่ต้องใช้คืน มีดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย และมีครอบครัวที่ต้องดูแล…พระเจ้าต้องมาก่อนเสมอ!

ขอบคุณพระเจ้า ที่ทรงโปรดให้ฉันได้เรียนรู้และตระหนักว่าสิ่งสารพัดทั้งสิ้นเป็นของพระเจ้า พระเจ้าทรงอนุญาตให้ฉันอารักขาทั้ง 100% ดังนั้น การชักสิบลดจึงเป็นเพียงการคืนให้กับพระองค์เท่านั้น…เมื่อกลับใจและตั้งใจที่จะถวายอย่างสัตย์ซื่อ ทั้งกับการคืนสิบลดให้กับพระองค์ ตลอดจนการถวายเพื่อพันธกิจและเพื่อผู้รับใช้พระเจ้าตามการดลใจจากพระองค์ สันติสุขก็เอ่อล้นใจ ได้รับการปลดปล่อยจากหนี้สินในเวลาต่อมา “แป้งในหม้อก็ไม่หมด น้ำมันในไหก็ไม่ขาด” [1พกษ.17:16]

มิชชันนารีเปรียบเสมือนโยชูวาที่ออกไปยังสนามรบ มีความท้าทาย อันตรายและอุปสรรครออยู่ (ทำให้นึกถึงอาจารย์เปาโลที่เต็มใจจากเอเฟซัสไปเยรูซาเล็ม ทั้งที่รู้ว่าเครื่องจำจองและความยากลำบากคอยท่าอยู่ ท่านก็จะไป และจะทำหน้าที่ให้สำเร็จ…กจ.20:22-24) ดังนั้น คุณพร้อมใช่ไหมที่จะร่วมเป็นหนึ่งในการนำชัยชนะมาสู่แผ่นดินของพระเจ้า ด้วยการปรนนิบัติรับใช้ร่วมกับมิชชันนารี (ดัดแปลงมาจากความรู้ที่ได้รับในห้องเรียนวิชาการแนะนำพันธกิจโลก)

1.การอธิษฐานเผื่อ บางคราคุณอาจรับบทบาทของโมเสส บางคราอาจเป็นเฮอร์หรืออาโรน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร คุณเป็นคนสำคัญยิ่ง…เบื้องหลังความสำเร็จและชัยชนะล้วนมาจากคำอธิษฐานทั้งสิ้น (ยชว.17:11-13)
2.การถวายสิ่งของที่จำเป็น หากพระเจ้าทรงนำให้คุณได้รู้ถึงความจำเป็นบางประการของมิชชันนารีหรือองค์กรพันธกิจโลก คุณก็มีส่วนร่วมได้ เช่น การถวายพระคัมภีร์ วรรณกรรมคริสเตียน คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ทั้งนี้ รวมถึงการถวายเวลาเพื่อการหนุนใจ การออกไปเยี่ยมเยียนมิชชันนารี การช่วยดูแลครอบครัวเบื้องหลังของมิชชันนารี และการรณรงค์เกี่ยวกับงานมิชชันด้วย
3.การถวายทรัพย์ (ส่งมิชชันนารี)…ผู้ที่เป็นมิชชันนารีนั้น ล้วนวางใจว่าพระเจ้าจะทรงจัดเตรียมเงินทองที่จำเป็นในแต่ละวัน ผ่านทางผู้คนที่เดินในทางของพระเจ้า ถ้าพวกเราถวายส่วนหนึ่งของทรัพยากรของเราอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน และส่งไปยังสถานที่ซึ่งต้องการทรัพยากรนั้นมากที่สุด ถวายแก่พันธกิจโลกทั้งในและต่างประเทศ จะทำให้ประชากรโลกจำนวนมากได้ยินพระนามของพระเยซู (บางส่วนจาก ผจญภัยโดยการถวาย,ดร.บิล ไบรท์)

ข้าแต่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด พระสิริของพระองค์เต็มแผ่นดินโลก ขอประกายไฟแห่งงานมิชชั่นลุกโชติช่วงขึ้นทั่วผืนแผ่นดินไทย ขอที่ประเทศไทยจะส่งมิชชันนารีออกไปเป็นจำนวนมาก ทั้งในประเทศไทยและจนสุดปลายแผ่นดินโลก ขอทรงโปรดอวยพรผู้เชื่อที่มีภาระใจและได้ถวายอย่างสัตย์ซื่อเสมอมา พระองค์เจ้าข้า ขอทรงโปรดหนุนใจ เติมภาระใจแก่ผู้เชื่อทุกคนเพื่อสนับสนุนงานของมิชชันนารีและพันธกิจโลก ขอทรงโปรดนำเราให้กำหนดยุทธวิธีส่วนตัวสำหรับการถวาย ดลใจเราให้ได้พบกับพันธกิจและบุคคลที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้ให้เรามีส่วนร่วมในงานอันยิ่งใหญ่นี้ และขอทรงโปรดเทพระพรและของประทานอันดีทุกอย่างจากฟ้าสวรรค์ลงมายังชีวิตของผู้เชื่อที่สัตย์ซื่อของพระองค์ ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้เพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ โดยพระองค์ และเพื่อพระองค์! เอเมน!