Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

ทูลขอสิ่งใหญ่

ทูลขอสิ่งใหญ่

วันที่ 30/4/2009
บนเวทีนางงามจักรวาล พิธีกรหนุ่มหล่อถามผู้เข้าประกวดว่า หากคุณสามารถขอพรได้เพียง 1 ประการ คุณจะขออะไร และคำตอบที่ฮิตติด Chart ก็คือ “ขอให้โลกมีสันติสุข” ว้าว! ไม่รู้ใครสอนเธอมา แต่ถ้าเธอหมายความเช่นนั้นจริงๆ ก็ฮาเลลูยา
บนธรรมมาสก์ ผู้นำรายการได้ใช้คำถามเดียวกันกับเวทีข้างต้น ซึ่งคำตอบก็หลากหลาย บ้างก็ว่า ขอให้พระคริสต์เสด็จกลับมาเร็วๆ แต่บ้างก็ต้องร้องไอ๋หยา! อย่าเพิ่งเสด็จมานะ ข้าพระองค์ยังไม่พร้อม บ้างก็ว่า ขออยู่ในพระนิเวศของพระองค์ เพราะดีกว่าพันวันหมื่นวันในที่ใดๆ บ้างก็ว่า ขอให้ชีวิตนี้เป็นพรกับทุกคน และก็…นานาความคิดเห็น
ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงใหญ่ยิ่งสูงสุดเหนือสิ่งทั้งปวงที่ผู้ใดได้เคยกล่าวมาแล้ว และรวมถึงสิ่งที่จะกล่าวในเบื้องหน้า พระองค์ทรงพระคุณอย่างไม่จำกัด ซึ่งแน่นอนว่า เราทั้งหลายซึ่งเป็นลูกของพระองค์ ก็ได้รับพระคุณความรักจากพระองค์แบบไม่จำกัดเช่นกัน ดังนั้น เราจึงสามารถทูลขอจากพระองค์ได้อย่างไม่จำกัด เราสามารถเรียกสิ่งที่ไม่มีให้มีขึ้นได้ …ฮาเลลูยา [รม.4:17 ตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า เราได้ให้เจ้าเป็นบิดาของมวลประชาชาติ ต่อพระพักตร์พระองค์ที่ท่านเชื่อ คือพระเจ้าผู้ทรงให้คนที่ตายแล้วฟื้นชีวิตขึ้นมา และทรงเรียกสิ่งของที่ยังมิได้มี ให้มีขึ้น] แสนวิเศษจริงๆ เลยใช่ไหมคะ ท่านผู้ชม
[สดด.139:17-18 ข้าแต่พระเจ้า พระดำริของพระองค์ประเสริฐแก่ข้าพระองค์จริงๆ รวมกันเข้าก็ไพศาลนักหนา ถ้าข้าพระองค์จะนับก็มากกว่าเม็ดทราย เมื่อข้าพระองค์ตื่นขึ้น ข้าพระองค์ก็จะยังอยู่กับพระองค์] พระคุณพระเจ้านั้นแสนชื่นใจ ความรักของพระองค์ก็ใหญ่ยิ่ง แล้วเราจะตอบแทนพระองค์ได้อย่างไรเล่า [สดด.116:12 ข้าพเจ้าจะเอาอะไรตอบแทนพระเจ้าได้ เนื่องจากบรรดาพระราชกิจอันมีพระคุณต่อข้าพเจ้า] เราทั้งหลายเป็นหนี้ความรักของพระองค์ เป็นหนี้ความรักต่อพี่น้องผู้เชื่อและผู้ที่ยังไม่เชื่อ เหตุฉะนั้นเราจึงต้องดำเนินชีวิตในความรัก ดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระองค์
น้ำพระทัยของพระองค์ประการหนึ่งในชีวิตของเรานั้น พระองค์ประสงค์ให้เราเป็นนักอธิษฐานวิงวอน เพื่อยืนอยู่ในช่องโหว่ต่อหน้าพระองค์ [อสค.22:30 และเราก็แสวงหาสักคนหนึ่งในพวกเขาซึ่งจะสร้างกำแพงและยืนอยู่ในช่องโหว่ต่อหน้าเราเพื่อแผ่นดินนั้น เพื่อเราจะมิได้ทำลายมันเสีย แต่ก็หาไม่ได้สักคนเดียว] โอ้! พี่น้องที่รัก อย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย อย่าให้พระเจ้าทรงเสียพระทัยที่พระองค์หาผู้ที่ยืนอยู่ในช่องโหว่ไม่ได้สักคนเดียว…แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะการณ์จะกลับตรงกันข้ามในยุคที่แผ่นดินสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้วนี้ เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรมา ก็ทรงประหลาดพระทัยยิ่งนัก ด้วยทรงพบว่ามีผู้เชื่อมากมายอธิษฐานทูลขอต่อพระองค์
คุณครูผู้สอนพระคัมภีร์สอนฉันให้จดบันทึกคำอธิษฐาน ทั้งยังได้รับการหนุนใจให้นับพระพรของพระเจ้าดูทีละอัน นับกันทุกๆ วัน นับกันตลอดชีวิต แต่ก็พบว่า หลายครั้งฉันลืมพระเจ้าบ่อยๆ ในขณะที่พระองค์มิเคยทรงลืมฉัน เพราะแม้แต่ความฝันเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งฉันเคยคาดฝันไว้เมื่อครั้งยังเด็ก และบัดนี้ก็ลืมไปแล้ว แต่พระเจ้าก็มิทรงลืม ทรงสร้างความฝันเล็กๆ ของฉันให้กลายเป็นความจริงขึ้นมา ฉันเชื่อว่าพี่น้องหลายท่านก็มีประสบการณ์ทำนองนี้เช่นเดียวกัน
คริสเตียนกับการอธิษฐานเป็นของคู่กัน แต่ก็สารภาพตามตรงว่า ฉันเองนั้นจำไม่ได้ทั้งหมดหรอกว่าอธิษฐานอะไรไปบ้าง เพราะบางครั้งก็จด บางครั้งก็ไม่ได้จด บางครั้งก็จำ บางครั้งก็ลืม แต่ขอบคุณพระเจ้า ฉันไม่อาจลืมพระพรที่พระองค์ทรงมีต่อฉัน [สดด.103:2 จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า และอย่าลืมพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์] ฉันทูลขอพระองค์ทุกกรณี ทั้งสิ่งเล็กน้อย และสิ่งใหญ่ ซึ่งทั้งหมดนั้น ไม่มีอะไรยากสำหรับพระองค์…พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์สูงสุดของเรา
แล้วการอธิษฐานทูลขอที่ใหญ่ที่สุดซึ่งคุณได้ทูลต่อพระเจ้าล่ะ คืออะไร…แน่นอนว่าคำตอบย่อมไม่เหมือนกัน บ้างก็ทูลขอโลกทั้งใบให้เจ้านายผู้เดียว (เจ้านายบนสวรรค์) บ้างก็ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ บ้างก็ขอให้พระคริสต์เสด็จกลับมาเร็วๆ…เอาเป็นว่า เราต่างล้วนทูลขอสิ่งใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น
ฉันเองก็ทูลขอสิ่งใหญ่เหมือนกัน ฉันถูกท้าทายโดยผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณท่านหนึ่งให้ทูลขอประเทศไทยต่อพระเจ้าทุกวัน ประเทศของเรากำลังบอบช้ำจากสาเหตุหลายประการดังที่เราทราบกันอยู่ ประเทศของเราต้องการความรอด ประเทศของเราต้องการการเปลี่ยนแปลง ประเทศของเราต้องการข่าวประเสริฐ ประเทศของเราต้องการพระเจ้า!…หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ทูลขอประเทศไทยต่อพระองค์อยู่แล้ว ฉันสมัครร่วมขอด้วยอีก 1 คน เป็นประจำทุกวัน นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป แต่ถ้าหากคุณยังไม่เคยทูลขอเช่นนี้ โปรดได้รับการดลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อทูลขอประเทศไทยร่วมกัน [ลก.16:16 "มีธรรมบัญญัติและผู้เผยพระวจนะมาจนถึงยอห์น ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า และคนทั้งปวงก็ชิงกันเข้าไปในแผ่นดินนั้น] เพื่อคนไทยจะชิงกันเข้าแผ่นดินสวรรค์ คนไทยจะนมัสการพระองค์ คนไทยจะถวายเกียรติแด่พระเจ้าผู้เที่ยงแท้แต่เพียงองค์เดียว
[สดด.2:8]
จงขอจากเราเถิด และเราจะมอบบรรดาประชาชาติให้เป็นมรดกของเจ้า ตลอดทั้งแผ่นดินโลกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552

พันธกิจประตูน้ำ

พันธกิจประตูน้ำ

วันที่ 24/4/2009

เมื่อวันพุธที่ 22/4/2009 ที่ผ่านมา มีโอกาสเข้าร่วมกลุ่มเซลประตูน้ำที่ประตูน้ำเซ็นเตอร์ ซึ่งในวันดังกล่าวมีพี่น้องมาร่วมสามัคคีธรรมหลายคนด้วยกัน คือ พี่สุเนตร พี่อรรคเดช พี่ปุ้ย พี่อิ๋ว และพี่เล็ก (ผู้เชื่อใหม่)

เราเริ่มต้นนมัสการพระเจ้าด้วยความซาบซึ้งในพระคุณความรักของพระองค์ และสนุกสนานไปกับความร่าเริงในกันและกัน ทั้งยังมีการหนุนใจด้วยคำพยานชีวิตของแต่ละคน

พี่สุเนตร รับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด เนื่องจากชีวิตครั้งวัยรุ่นรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด ประกอบกับชีวิตที่ยากลำบาก ดิ้นรนต่อสู้ไขว่คว้าด้วยตัวเองมาตลอด สุดท้ายจึงยึดพระเจ้าไว้ ตั้งพระองค์ไว้ตรงหน้า โดยจะไม่หันหลังกลับเป็นอันขาด

พี่อรรค ด้วยแสวงหาใครสักคนที่สามารถเป็นที่พึ่ง ที่พักพิงใจได้ และสุดท้ายก็พบว่าองค์พระเยซูทรงเป็นทางเดียว ทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ซึ่งพี่อรรคขอถวายตัวรับใช้พระองค์ตลอดชีวิต

พี่ปุ้ย การจากไปของคุณยายซึ่งเป็นคริสเตียน ทำให้มีโอกาสร่วมพิธีศพของคุณยายที่คริสตจักร และได้อธิษฐานทูลขอต่อพระเจ้าเกี่ยวกับหน้าที่การงาน ซึ่งพระองค์มิทรงรอช้า ทรงตอบคำอธิษฐานของพี่ปุ้ยด้วยความรัก พี่ปุ้ยจึงมอบชีวิตไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า มอบบัลลังก์ใจไว้ให้พระองค์ทรงครอบครองแต่เพียงองค์เดียว

พี่อิ๋ว เป็นคนที่ค้นหาความหมายของชีวิตมาโดยตลอด เป็นคนชอบอ่านหนังสือ เมื่อได้อ่านพระคัมภีร์ ในพระธรรมสดุดี ก็พบว่าเป็นหนังสือที่ดีที่สุดในโลก ดีที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยพบเจอ อีกทั้ง เรื่องราวทางบ้านก็ยิ่งเป็นเหตุให้พี่อิ๋วแสวงหาพระเจ้ามากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่า พระองค์ทรงเป็นคำตอบ เป็นความงดงาม เป็นผู้เดียวที่พี่อิ๋วนมัสการ เป็นพระบิดาเที่ยงแท้ผู้ทรงพระคุณที่สุดในหัวใจของพี่อิ๋ว

พี่เล็ก พระวิญญาณทรงดลใจให้มาเรียนภาษาอังกฤษที่ประตูน้ำ และแน่นอนว่า คำพยานจากผู้เชื่อที่ร้อนรนก็เร้าใจให้พี่เล็กปรารถนาที่จะพักพิงในพระเจ้า มอบทุกสิ่งไว้กับพระองค์ พี่เล็กรู้แน่ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้เดียวที่ฟังพี่เล็กอยู่เสมอด้วยความรักและเมตตาเป็นที่ยิ่ง

ส่วนฉันนั้น เห็นคำพยานที่มีชีวิตจากพี่น้องคริสเตียนที่ BSC โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจารย์มิชชันนารีที่สอนภาษาอังกฤษทั้งหลาย ฉันซาบซึ้งในความรักความจริงใจของพี่น้องเหล่านั้น จนเป็นเหตุให้อยากรู้จักพระเจ้าผู้ทรงเป็นต้นกำเนิดแห่งความรักในพี่น้องเหล่านั้น และเมื่อได้ยินเสียงเพลงที่เหล่าผู้เชื่อทั้งหลายเปล่งเสียงสรรเสริญพระองค์ ฉันก็ปรารถนาที่จะรู้จักพระองค์มากขึ้น และฉันก็ได้พบ พระเยซูผู้เป็นที่รักของฉัน

พันธกิจประตูน้ำดำเนินอยู่บนพระดำรัสของพระเจ้า ในห้องขนาดสี่เหลี่ยมทั้งหมด 4 ห้อง ซึ่งถูกสร้างไว้เพื่อเป็นแหล่งค้าขายหรือเปิดกิจการ แต่โดยพระคุณพระเจ้า พี่สุเนตรของเราได้มาฟรีๆ จากเจ้าของซึ่งไม่ได้เป็นคริสเตียนแต่อย่างใด…ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรเจ้าของผู้นั้น

โดยความโปรดปรานของพระเจ้า เราเชื่อแน่ว่า พระเจ้าทรงบังคับบัญชาพระพรที่นี่ “คริสตจักรนิมิตใหม่ ประตูน้ำ” จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในระยะเวลาไม่กี่ปีนี้ จึงขอพี่น้องจะอธิษฐานเผื่อสำหรับคริสตจักรของพระเจ้าแห่งนี้ด้วย

โปรดอธิษฐานเผื่อ สำหรับ

1. พี่สุเนตร กำลังจะเดินทางไปเข้าหลักสูตร Child Care Courses ที่ Australia โดยใช้เวลาอยู่ที่นั่น 1 ปี ขอพี่น้องอธิษฐานเผื่อสำหรับการเตรียมตัวเดินทาง ได้แก่ การหาคนมาเช่าคอนโด การเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า รวมถึงภารกิจที่ยังคั่งค้างต่างๆ ตลอดจนการเดินทางในวันที่ 8/5/2009 นี้ และอธิษฐานเผื่อสำหรับพี่สุเนตรและสามี สำหรับการใช้ชีวิตอยู่ในแดนจิงโจ้ การรับใช้ การทำงาน การเลี้ยงดูของพระเจ้า…อ่อ และพี่สุเนตรจะเป็นพยานที่ คจ.นิมิตใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 26/4/2009 ที่จะถึงนี้ พร้อมกันนั้น ในช่วงบ่าย พี่น้องบางส่วนจากนิมิตใหม่จะไปเยี่ยมเยียนอธิษฐานอวยพรพันธกิจประตูน้ำด้วยนะคะ

2. พี่อรรค ผู้รับใช้พระเจ้าเต็มเวลาที่พันธกิจประตูน้ำ ขอพระเจ้าทรงโปรดให้เข้มแข็งในฝ่ายวิญญาณมากขึ้น เต็มไปด้วยสติปัญญาจากพระเจ้า มีพระคุณของพระองค์ปกคลุมอยู่เหนือชีวิต มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น รวมถึงการบริหารงานในขณะที่พี่สุเนตรไม่อยู่ การจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็น และการเลี้ยงดูจากพระองค์

3. คุณ David Cavanaugh และ คุณ Christian Beuggert ครูอาสาสมัครชาวต่างชาติ

4. ขอพระเจ้าส่งคนงานของพระองค์ คือ ผู้ประกาศข่าวประเสริฐ พยานทั้งหลายของพระองค์ ผู้รับใช้ในด้านต่างๆ ตามของประทาน ครูอาสาสมัครคนไทย เพื่อมาช่วยเก็บเกี่ยวผลในทุ่งนาของพระองค์

5. ผู้สนับสนุนการเงิน

ขอพี่น้องดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากเอกสาร pdf. ที่แนบมานะคะ

สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น ก็ด้วยปรารถนาที่จะอวดองค์พระเจ้า อวดอ้างถึงสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อพวกเราทุกคน ซึ่งเป็นบุตรที่รักของพระองค์ พระองค์ทรงกระทำมาแล้ว และพระองค์จะทรงกระทำอีก โดยเราทั้งหลายนั้นจะเล็กน้อยลง เพื่อพระองค์จะทรงยิ่งใหญ่ขึ้น…ทั้งหมดทั้งสิ้นถวายเกียรติแด่พระองค์…ฮาเลลูยา

ขอพระเจ้าทรงโปรดอวยพรทุกท่านค่ะ

ด้วยรักในพระคริสต์

วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2552

โดยรอยแผล

วันที่ 2/4/2009

เมื่อวันที่ 29/3/2009 ที่ผ่านมา พวกเราชาวนิมิตใหม่บางส่วนที่ถูกเรียกว่า “ป้าอนุชน” อะจึ๋ย อันนี้พี่แขกตั้งฉายาให้ ด้วยว่าอายุอานามก็ขึ้นเลขสามกันแล้ว…วี๊ดปิ้ว เป็นไงเป็นกัน เราไม่หวั่นแม้วันอายุมาก!

เรื่องของเรื่องคือ พี่น้องชาวนิมิตใหม่ช่างมนุษยสัมพันธ์ดีเหลือหลาย รู้จักพี่น้องจากคริสตจักรอื่นๆ ทั่วราชอาณาจักร อาณาเขตความสัมพันธ์และคำอธิษฐานกว้างไกลจนสุดปลายแผ่นดินโลก ฉันไม่ได้อวด และไม่ได้โม้ถึงผู้ใด แต่กำลังจะอวดเรื่องของพระเจ้า กำลังอวดถึงไม้กางเขนของพระเยซูคริสต์ที่ตรึงโลกใบนี้ไว้ด้วยความชอบธรรม

พี่แขกกับพี่จบของเรารู้จักสนิทสนมและสามัคคีธรรมกับพี่น้องคริสตจักรวัฒนาเสมอมา เหตุผลหนึ่งของความสนิทสนมคือ การที่ลูกสาวของแต่ละครอบครัวอยู่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยเหมือนกัน และก็ได้สนิทสนมกันมากขึ้นจากการเข้าร่วมค่าย ESC เมื่อปีที่แล้ว ครอบครัวที่ฉันจะกล่าวถึงคือ ครอบครัวของพี่ต้อมและพี่แหม่ม

ขอบอกกล่าวเล่าขานย้อนไปนิดหนึ่งนะคะว่า พี่แหม่มนั้นรับเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าก่อน ซึ่งเมื่อรับเชื่อแล้ว ชีวิตก็เปลี่ยนไป พฤติกรรมใหม่เกิดขึ้นละม้ายคล้ายคลึงพระเยซูขึ้นทุกวัน ทุกวัน จนกระทั่งคุณสามีมองเห็นพระเยซูในชีวิตของภรรยาสุดที่รัก เป็นเหตุให้รับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด เป็นจริงดังพระคัมภีร์ว่า เมื่อเรารอด ครอบครัวของเราจะรอดด้วย [กจ.16:31 … "จงเชื่อและวางใจในพระเยซูเจ้า และท่านจะรอดได้ทั้งครอบครัวของท่านด้วย"] นับแต่นั้น ครอบครัวนี้ก็เป็นครอบครัวที่ยำเกรงพระเจ้า เข้มแข็งทางความเชื่อเสมอมา ในวันนั้นพี่แหม่มใส่เสื้อสุดเทห์ บ่งบอกถึงหัวใจซึ่งเต้นโลดอยู่ภายใน ด้วยข้อความที่ว่า [ยชว.24:15] … แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า เราจะปรนนิบัติพระเจ้า"]

การสามัคคีธรรมท่ามกลางธรรมชาติในเขตพระประแดง ซึ่งโอบล้อมไปด้วยอ้อมรักขององค์พระเจ้า เราทั้งหลายจึงชื่นชมยินดี เราเปรมปรีด์ในพระองค์ ทุกคนต่างมีส่วนร่วมในสวนองุ่นแห่งนั้น บ้างก็ปิ้งข้าวโพด ปิ้งบาร์บีคิว บ้างก็ปอกผลไม้ บ้างก็ตำส้มตำ บ้างก็เตรียมจานชาม เป็นต้น

เด็กๆ และอนุชนใส่เสื้อชูชีพ พายเรือไปเก็บหอยกันกลางลำน้ำ เมื่อไปถึงช่วงกลางน้ำ ทุกคนสามารถลงไปเก็บหอยในน้ำตื้นได้ พวกเราจึงได้ทานหอยแครง และกุ้งสดๆ เอร็ดอร่อยดุจดังอยู่ในดินแดนคานาอัน [ฉธบ.26:9 พระองค์ทรงนำเรามาที่นี่และประทานแผ่นดินนี้แก่เรา เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์]

และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ก็ใครซะอีกล่ะ พี่อิ๋วของเรานี่เอง พายเรือไปส่งน้องๆ กลางลำน้ำ แต่ตอนขากลับไม้พายกับมือเกี่ยวกันอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่สร้างรอยแผลให้พี่อิ๋ว เห็นเนื้อฉีกออกมาเป็นก้อนเลย พี่อิ๋วร้องจ๊าก แต่เสียงร้องของคนที่เห็นเหตุการณ์ดังกว่า กลบเสียงพี่อิ๋วไว้ได้ พี่ต้อมเจ้าบ้านรีบนำเบทาดีนมาทำแผล พี่อิ๋วเจ็บมากจนต้องกัดผ้าเช็ดหน้าไว้ ครูแมมและอีกหลายๆ คนก็ช่วยกันอธิษฐานเป็นการใหญ่ พี่อิ๋วเจ็บมาก หน้าซีด นอนแผ่หลาเลย…ขอบคุณพระเจ้าสำหรับหัวใจที่แข็งแกร่ง พี่เราฟื้นสภาพอย่างรวดเร็ว และไปโอ้ลั่นล้าต่อได้ นำความสนุกสนานไปให้ผู้อื่น แม้ว่าตนเองจะยังเจ็บอยู่…พี่อิ๋วเล่าให้ฟังภายหลังว่า เหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้ระลึกถึงพระเยซูที่ทรงถูกตะปูตอกเข้าไป ตอกเข้าไป ระลึกถึงรอยแผลของพระองค์ที่ถูกโบยในแต่ละครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งนั้นได้จิกเนื้อของพระองค์ขึ้นมาด้วย ระลึกถึงพระโลหิตของพระองค์ที่หลั่งชะโลม ไหลรดความบาปผิดให้กับพวกเรา…ขอบคุณพระเยซู สำหรับบทเรียนก่อนวันอีสเตอร์

สันติสุขจงดำรงอยู่ ณ บ้านของพี่ต้อมพี่แหม่มเถิด…ก่อนจากกันในวันนั้น หนึ่งได้นำทุกคนร้องเพลงอวยพรเจ้าของบ้าน ครูแมมนำพวกเราอธิษฐาน พวกเราล้อมวงร้องเพลงด้วยกันอีกครั้ง ก่อนลาจากเจ้าของบ้านด้วยความขอบคุณ

วันรุ่งขึ้น คุณหมอจับพี่อิ๋วเย็บถึง 4 เข็ม โดยต้องขูดแผลให้สดใหม่ ก่อนที่จะทำการเย็บ อู้ย! เจ็บจริงๆ…พี่อิ๋วรู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนรับรู้ถึงความทนทุกข์ขององค์พระเยซู แม้ว่าสิ่งที่พี่อิ๋วประสบอยู่นั้นจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวในสิ่งที่พระองค์ทรงเผชิญ แต่สิ่งนี้ก็ทำให้พี่อิ๋วรู้สึกขอบคุณพระองค์มากขึ้น และรักพระองค์มากขึ้น ทุกวัน และทุกวัน…ตอนนี้ แผลของพี่อิ๋วดีขึ้นตามลำดับแล้ว เนื้อเริ่มติดสนิทกันดังเดิม ดุจดังพระสัญญาของพระองค์ [อสย.58:8 แล้วความสว่างจะพุ่งออกมาแก่เจ้าอย่างอรุณและแผลของเจ้าจะเรียกเนื้อขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ความชอบธรรมของเจ้าจะเดินนำหน้าเจ้า และพระสิริของพระเจ้าจะระวังหลังเจ้า]

พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์มาอย่างแปลกประหลาด เมื่อเกิดบาดแผลขึ้น พระองค์ทรงรักษาให้หาย ทั้งนี้รวมถึงสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างทั้งปวง พระองค์มิเพียงสร้างเท่านั้น แต่ทรงเลี้ยงดูปกปักรักษา ดังเช่นที่ทรงรักษามนุษย์เมื่อมีบาดแผล กลไกในร่างกายจะทำงานอย่างอัศจรรย์ และทำให้แผลนั้นหายไปในที่สุด สิ่งนี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับสัตว์หรือพืชพันธุ์ต่างๆ ที่พระองค์ทรงสร้าง โดยบาดแผลของพระองค์ ทรงรักษาเราให้หาย และพระองค์มิเพียงรักษาบาดแผลทางกายเท่านั้น หากทรงรักษาบาดแผลทางใจให้กับเราด้วย [สดด.147:3 พระองค์ทรงรักษาคนที่ชอกช้ำระกำใจ และทรงพันผูกบาดแผลของเขา]

ถึงฉันจะไม่ได้พบกับอุบัติเหตุแบบพี่อิ๋ว แต่ฉันรู้สึกได้ถึงพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และอ่อนโยนของพระองค์ที่ได้ยื่นมาสู่ฉัน พันบาดแผลให้กับฉัน เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าองค์มหิทธิฤทธิ์ ทรงแบกรับความบาปแห่งโรคภัยไข้เจ็บ ความขมขื่นชอกช้ำระกำใจ ความยากจน และบาปช้าเลวทรามอื่นๆ ไว้ทั้งสิ้นแล้ว [1ปต.2:24 พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ ที่ต้นไม้นั้น เพื่อว่าเราทั้งหลายจะได้ตายจากบาปได้ และดำเนินชีวิตตามคลองธรรม ด้วยบาดแผลของพระองค์ ท่านทั้งหลายจึงได้รับการรักษาให้หาย]

พระเยซูสิ้นพระชนม์แล้วบนไม้กางเขน และทรงเป็นขึ้นมาแล้วเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่พี่น้องบางคนที่รับรู้ถึงพระกิตติคุณประการนี้ดี แต่ยังดำเนินชีวิตราวกับว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ไปแล้วเท่านั้น ลืมไปแล้วหรือไรว่าพระองค์มิได้อยู่ในอุโมงค์แล้ว พระองค์ทรงเป็นขึ้นในวันที่ 3 และพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ พระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ในเราทุกคน [รม.6:5 เพราะว่าถ้าเราเข้าสนิทกับพระองค์แล้วในการตายอย่างพระองค์ เราก็จะเข้าสนิทกับพระองค์ ในการเป็นขึ้นมาอย่างพระองค์ได้ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายด้วย] ดังนั้น ต้องระลึกไว้เสมอว่า เราเป็นขึ้นจากความบาปและความตายในฝ่ายวิญญาณแล้ว และเรานั้นจะดำเนินชีวิตให้สมกับพระคุณความรักของพระองค์ [2คร.5:15 และพระองค์ได้ทรงวายพระชนม์เพื่อคนทั้งปวง เพื่อคนเหล่านั้นที่มีชีวิตอยู่จะมิได้อยู่เพื่อประโยชน์แก่ตัวเองอีกต่อไป แต่จะอยู่เพื่อพระองค์ผู้ทรงสิ้นพระชนม์ และทรงเป็นขึ้นมาเพราะเห็นแก่เขาทั้งหลาย]

He is Risen!

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2552

บัพติศมาเดียว

บัพติศมาเดียว
วันที่ 8/4/2009
ด้วยแรงดลใจจากภายในที่ปรารถนาจะเรียนรู้ลึกซึ้งในพระคำของพระเจ้ามากขึ้น ประกอบกับมีพี่น้องรอบข้างฉันหลายคน เรียนจบหรือกำลังเรียนที่โรงเรียนคริสต์ศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์ สวนพลู จึงเกิดแรงบันดาลใจปรารถนาที่จะเรียนพระคัมภีร์ที่โรงเรียนบ้าง พี่อิ๋วก็ร่วมมือเป็นอย่างดี นำใบสมัครมาให้ ซึ่งฉันต้องรวบรวมเอกสารต่างๆ ให้ครบถ้วน แต่ว่าขาดใบรับรองบัพติศมา จึงยังไม่ได้สมัครสักที จนกระทั่งคุณแม่หอบหิ้วใบบัพติศมาจากที่บ้านมาให้ คราวนี้ฉันก็พร้อมแล้วสำหรับการสมัครเป็นนักศึกษาอีกครั้งหนึ่ง
ฉันรับบัพติศมาที่ คริสตจักรนิมิตใหม่ ในนามของพระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2000 โดยมี ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์เป็นประธานคริสตจักร และมี ศบ.พงษ์ศักดิ์ อังศ์ธราธร เป็นผู้ให้ศีลบัพติศมา เมื่อได้ใบรับรองบัพติศมาแล้ว ฉันก็เก็บไว้รวมกับเอกสารสำคัญอื่นๆ อาทิ ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน และใบสำคัญต่างๆ โดยไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญกับใบบัพติศมาไปมากกว่านั้น
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่นันท์ ซึ่งเป็นผู้เชื่อใหม่และรับบัพติศมาที่ Evangelical Church of Bangkok พี่นันท์เล่าว่าในวันรับบัพติศมา ได้กล่าวคำพยานบนเวที โดยคำพยานดังกล่าวมีพี่น้อยชนัดดาเป็นผู้ขัดเกลาให้ เมื่อคำพยานพรั่งพรูออกมาจากปากของพี่นันท์ น้ำตาของหลายคนในที่ประชุมก็เอ่อคลอ ออกมาเช่นเดียวกัน และในขณะรับบัพติศมา พี่นันท์ก็ตื่นเต้นมาก และรู้สึกถึงสันติสุขที่เปี่ยมล้นอยู่ภายใน สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระเยซูรับบัพติศมา ก็ประดุจดังว่าเกิดขึ้นกับพี่นันท์เช่นเดียวกัน สิ่งที่พระบิดาทรงตรัสกับองค์พระเยซู ก็ประดุจว่าทรงตรัสกับพี่นันท์เช่นเดียวกัน [มธ.3:17 …มีพระสุรเสียงตรัสจากฟ้าสวรรค์ว่า "ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก"] พี่นันท์ตื่นเต้นกับใบบัพติศมาที่ได้รับจากคริสตจักร พี่นันท์เคยซาบซึ้ง ตื่นเต้น และภาคภูมิใจกับใบปริญญาบัตรต่างๆ ที่เคยได้รับ แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่พี่นันท์จะซาบซึ้ง ตื่นเต้น ภาคภูมิใจ และมีความหมายเท่ากับครั้งนี้ซึ่งได้รับใบบัพติศมาจากคริสตจักร เพราะนั่นหมายถึงการประกาศตัวในฐานะผู้เชื่ออย่างสมบูรณ์ต่อหน้าสาธารณชน และต่อบรรดาทูตสวรรค์ทั้งปวง พี่นันท์จึงเก็บรักษาใบบัพติศมานั้นไว้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งเดินหน้ามุ่งมั่นไปสู่หลักชัยที่องค์พระคริสต์ได้ทรงสัญญาไว้ให้พี่นันท์ไปรับ [ฟป.3:14 ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบน ให้เราไปรับ] ท่านใดที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ขอได้รับการหนุนใจให้ระลึกถึงพี่นันท์ในคำอธิษฐานด้วยนะคะ
คำพยานจากพี่นันท์ทำให้ฉันกลับมามองใบบัพติศมาด้วยความลึกซึ้งยิ่งขึ้น และก็อดขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ หากไม่มีพระองค์ฉันจะอยู่ได้อย่างไร และฉันก็ระลึกถึงวันที่ฉันรับบัพติศมา ในวันนั้น…ถึงฉันจะไม่ได้รู้จักใครมากนัก ถึงแม้ไม่มีแม่บังเกิดเกล้าของฉันอยู่ด้วย แต่มี Roger & Anne และ Rex & Terry ซึ่งเป็นพ่อแม่ทางจิตวิญญาณของฉันมาร่วมแสดงความยินดีด้วย ทั้งยังมี Sherilyn ซึ่งเป็นทั้งครูและเพื่อนสนิท และมีพี่สุภารัตน์ พี่เลี้ยงคนเก่งของฉัน คอยให้กำลังใจ เราทั้งหลายมีบัพติศมาเดียวร่วมกันแล้ว และยิ่งไปกว่านั้น ฉันรู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงทอดพระเนตรดูฉัน และทรงแย้มพระสรวลมาจากเบื้องบน [อฟ.4:1-6 1เหตุฉะนั้นข้าพเจ้า ผู้ถูกจำจองเพราะเห็นแก่องค์ พระผู้เป็นเจ้า ขอวิงวอนท่านให้ดำเนินชีวิตสมกับพันธกิจอันเนื่องจากการทรงเรียกท่านนั้น 2คือจงมีใจถ่อมลงทุกอย่าง และใจอ่อนสุภาพอดทนนาน และอดกลั้นต่อกันและกัน ด้วยความรัก 3จงเพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งพระวิญญาณทรงประทานนั้นด้วยสันติภาพเป็นพันธนะ 4มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว เหมือนมีความหวังใจอันเดียวที่เนื่องในการที่ทรงเรียกท่าน 5มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว 6พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของคนทั้งปวง ผู้ทรงอยู่เหนือคนทั้งปวง และทั่วคนทั้งปวง และในคนทั้งปวง]
ในวันนี้ ใบบัพติศมาจึงมิได้เป็นแค่กระดาษหรือประกาศนียบัตรใบหนึ่งที่ฉันรับมา หากว่าเป็นใบบัพติศมาจากศิษยาภิบาลผู้ซึ่งมีสิทธิอำนาจที่พระคริสต์ได้ทรงเจิมตั้งไว้ และเป็นการบัพติศมาในพระวิญญาณ ซึ่งมีพระคริสต์เป็นองค์ประธาน และยิ่งไปกว่านั้นคือ เป็นพันธสัญญาอีกบทหนึ่งซึ่งผูกพันฉันให้ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ให้สมกับเป็นบุตรที่รักของพระองค์ [อฟ.5:1-2 1เหตุฉะนั้นท่านจงเลียนแบบของพระเจ้า ให้สมกับเป็นบุตรที่รัก 2และจงดำเนินชีวิตในความรัก เหมือนดังที่พระคริสต์ได้ทรงรักเราทั้งหลาย และทรงประทานพระองค์เองเพื่อเรา ให้เป็นเครื่องถวายและเครื่องบูชาอันเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า]