ก๊าก ก๊าก ก๊าก!!!…ขออนุญาตขำก่อนนะคะ ก็คุณครูแมมนะสิ วันก่อนนี้โทรศัพท์คุยกัน คุยไปคุยมาเสียงก็ยิ่งเบาลง เบาลง จนแทบจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ครูแมมก็บอกว่า “พูดดังขึ้นหน่อย ครูแมมไม่ค่อยได้ยิน” ฉันก็พยายามพูดดังขึ้น แต่ก็ต้องบอกครูแมมด้วยว่า “ครูแมมพูดดังขึ้นหน่อยสิคะ” เรื่องที่คุยกันก็จับใจความได้คะ แต่ว่าวิธีที่ดีที่สุดก็วางสายกันไปก่อนละกัน
วันรุ่งขึ้นครูแมมก็เฉลยว่า สาเหตุที่คุยกันไม่ค่อยได้ยินนั้นเป็นเพราะว่าครูแมมถือโทรศัพท์ผิดด้าน! (แป่ว)
ครูแมมบอกว่าเอาเรื่องของครูแมมไปเขียนได้นะ เพราะว่าเหตุการณ์และผู้คนรายรอบตัวเรา ล้วนมีเรื่องราวให้เราฉุกคิดได้ทั้งนั้น ครูแมมกล่าวว่า “เมื่อมาคิดถึงชีวิตหลายๆ ครั้งเราก็ทำอะไรผิดทาง โดยเฉพาะความคิด แทนที่จะคิดบวก เรากลับคิดลบ จะทำอะไรก็ต้องใช้อวัยวะให้ถูกต้องตามหน้าที่ เอาปากฟัง เอาหูพูดจึงยุ่งกันเจรจาไม่รู้เรื่องเลย”
ฉันเลยได้โอกาสนำเรื่องครูแมมมาเป็นบทเรียนสำหรับตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
เนื่องจากเราเป็นมนุษย์ เราจึงไม่สมบูรณ์ เราจึงมีข้อบกพร่องผิดพลาดหลายประการ ทั้งความไม่สมบูรณ์ในด้านลักษณะนิสัย ด้านความรู้ความสามารถ และด้านอื่นๆ อีกหลายประการ คนเราผิดพลาดผลั้งเผลอได้ตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนถึงเรื่องใหญ่ ความผิดพลาดบางประการก็แก้ไขได้ บางประการก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ความผิดพลาดบางประการจึงเป็นเรื่องขำๆ ในขณะที่ความผิดพลาดบางประการก็รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตหรือทรัพย์สินกันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี เราขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า พระบิดาผู้ทรงสมบูรณ์งดงามหมดจดทุกประการ ทรงบริบูรณ์ด้วยความยิ่งใหญ่ พระสิริ ชัยชนะ ความโอ่อ่าตระการ พระคุณ ความรัก และอีกนับไม่ถ้วน ดังนั้น โดยลำพังผงคลีดินอย่างเราจึงไม่สามารถเข้าไปถึงพระบิดาได้ ทว่า เราก็ขอบคุณพระเจ้าอีกนั่นแหละที่พระองค์ทรงมีทางเลือกให้กับเรา เพื่อให้สามารถไปถึงพระองค์ได้ “โดยพระเยซู”
[ยน.14:6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า "เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา]
ในทางอื่นๆ เราอาจจะมีผิดพลาดหรือบกพร่องบ้าง แต่ในทางสวรรค์ เรามาถูกทางแล้ว! ฮาเลลูยา!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น