Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

หมดใจ

วันที่ 11/8/2011

เพียงระยะเวลาสองสามเดือนที่ผ่านมา ฉันก็ประสบกับภาวะหมดกำลังใจถึงขีดสุด และหมดกำลังกายถึงขีดสุด อ้าว! ไหงเป็นงั้นล่ะ?

สาเหตุสำคัญของอาการหมดแรงกาย หมดแรงใจ นั้น สามารถสรุปได้ง่ายๆ ว่า เกิดจากภาวะขาดความสมดุลย์ คือ มีบางสิ่งบางอย่างหรือหลายอย่างที่บกพร่องไป หรือไม่เป็นอย่างที่ควรเป็นนั่นเอง ซึ่งหากจะกล่าวถึงอาการหมดแรง ก็เพราะว่าใช้แรงมากเกินไป มากเกินกว่าขีดความสามารถของตนเอง ร่างกายจึงขาดความสมดุลย์ ส่วนอาการหมดแรงใจ ก็เกิดจากหัวใจไม่แข็งแรง ไม่พร้อมที่จะรับกับสภาพความเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถเผชิญเหตุการณ์หรือผู้คนมากมายที่รุมเร้า เพราะหัวใจไม่ได้สมดุลย์กับหัวใจพระเยซู
หมดแรงกายนี่ยังพอไหว เพราะพักผ่อนก็หาย แต่หมดแรงใจนี่สิ งานเข้า!!!

หากไม่มีพระเจ้า ชีวิตคงไร้ซึ่งความหมาย หากไม่มีพระองค์ ฉันคงจมลงกับความทุกข์ความบาปแห่งความท้อใจ แน่นอนว่าในช่วงชีวิตของเราย่อมมีวาระแห่งความท้อใจบ้าง แต่เมื่อเราตั้งพระเจ้าไว้ตรงหน้าเสมอ เราก็สามารถชนะความท้อใจนั้นได้ ทว่า ในแต่ละครั้งที่รู้สึกท้อใจนั้นพระเจ้าก็ทรงฉุดฉันขึ้นมาจากหลุมเลนตมอันน่าสลดด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน โดยในครั้งนี้ พระองค์ทรงนำให้ค้นพบหนังสือเล่มหนึ่งคือ “คำอธิษฐานเพื่อเสริมชีวิตภายในให้เข้มแข็ง” ของ ไมค์ บิคเคิล หนังสือเล่มบางๆ แต่เนื้อหาอัดแน่นไปด้วยพลัง
ฉันขอคัดลอกข้อความบางส่วนจากท่านไมค์ มานำเสนอ ดังนี้

“เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงคุกเข่าต่อพระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ครอบครัวทั้งหมดในสวรรค์และแผ่นโลกก็ได้ชื่อมาจากพระองค์ ขอให้พระองค์ทรงโปรดประทานกำลังเรี่ยวแรงมากฝ่ายจิตใจแก่ท่าน โดยเดชพระวิญญาณของพระองค์ ตามความไพบูลย์แห่งสง่าราศีของพระองค์” (อฟ.3:14-16)

หลักการพื้นฐานในแผ่นดินของพระเจ้า คือ ที่พระเจ้าจะเสริมชีวิตภายในของเราให้เข้มแข็งขึ้น ถ้าเราขอจากพระองค์ ในเอเฟซัส 3:16 เปาโลขอให้พระเจ้าเสริมเรี่ยวแรงชีวิตภายในของผู้เชื่อชาวเอเฟซัส เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่เราต้องเข้าใจคำอธิษฐานนี้ เพราะนี่เป็นคำอธิษฐานหนึ่งที่สำคัญที่สุดเท่าที่เราจะอธิษฐานได้ ชีวิตภายในของเรา คือ วิญญาณของเราซึ่งประกอบไปด้วยความคิด อารมณ์ และความตั้งใจ นี่เป็นที่ที่เราเชื่อมสัมพันธ์และมีปฏิสัมพันธ์กับพระเยซูโดยตรง

การอธิษฐานเพื่อสิ่งภายนอก เช่น งานรับใช้ ความก้าวหน้าด้านการเงิน ครอบครัว หรือความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตก็เป็นไปตามหลักการพระคัมภีร์ อย่างไรก็ตาม หลายคนไม่เคยมีเวลาได้อธิษฐานเพื่อชีวิตภายในของตนให้เข้มแข็งขึ้น กำลังกายของเราเพิ่มหรือลดลงได้ฉันใด กำลังฝ่ายวิญญาณก็เช่นกัน เราอาจจะแยกแยะไม่ได้เสมอไปว่า พระวิญญาณเสริมกำลังเราเมื่อไรแน่ เพราะปกติพระองค์ทำทีละนิดๆ ถ้าเราขอจากพระเจ้าสม่ำเสมอ พระวิญญาณจะปลดปล่อยกำลังของพระองค์ให้ทีละเล็กละน้อย และเมื่อเวลาผ่านไปเราจะรู้สึกได้ถึงกำลังใหม่ที่เกิดขึ้น

เข้าสู่การอธิษฐานอันลึกซึ้ง…ส่วนสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา คือ ชีวิตภายในของเรา นี่จึงควรเป็นจุดเน้นหลักจริงๆ เมื่อเราอธิษฐานเผื่อชีวิตส่วนตัวของเรา พระเจ้าปรารถนาจะอวยพรชีวิตภายในของเราให้มีกำลังและฤทธิ์เดช แต่พระองค์รอคอยให้เราขอจากพระองค์ กำลังนี้จำเป็นต่อหัวใจเรา เพื่อช่วยเราดำเนินชีวิตที่ชอบธรรมต่อหน้าพระเจ้า และให้ยืนหยัดต่อต้านการประนีประนอมได้

หนังสือของท่านไมค์แบ่งเป็น หัวข้ออธิษฐานแรก คือ คำอธิษฐานสิบประการเพื่อรับกำลังสำหรับชีวิตภายใน หัวข้ออธิษฐานที่สองมีประโยคสั้นๆ ที่ท่านใช้เวลาพูดคุยกับพระวิญญาณ นอกจากนั้น ท่านยังได้เพิ่มหลักการอธิษฐาน 3 ประการ ที่ใช้อธิษฐานเรื่องคำบรรยายถึงพระลักษณะของพระเยซูที่ท่านพบในพระคัมภีร์

ท่านไมค์แนะนำด้วยว่า ให้เราอธิษฐานอย่างมีเสรีภาพ โดยหนุนใจให้เราทำตามลมแห่งการดลใจเวลาอธิษฐาน เมื่อเราอธิษฐานยาวขึ้น นานขึ้น และเปลี่ยนไปตามกาลเวลา พระเจ้าจะสัมผัสเราและนำเราไปในทิศทางแห่งน้ำพระทัยของพระองค์

เราถวายรักหมดใจแด่องค์พระเจ้า แต่เราอย่าเป็นคนใจหมดรัก อย่าให้ใจหมดแรง เพราะหากเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับคนหมดลม (หายใจ)…สู้โว้ย!


ไม่มีความคิดเห็น: