Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มีทำนองเพลงบรรเลงอยู่ภายใน

มีทำนองเพลงบรรเลงอยู่ภายใน
วันที่ 14/7/2009

“มีทำนองเพลงบรรเลงอยู่ภายใน พระเยซูกระซิบในใจ” เป็นประโยคซึ่งพี่สาวที่รักในพระคริสต์ท่านหนึ่งเขียนอีเมล์มาให้เมื่อหลายเดือนก่อน เป็นประโยคสั้นๆ ที่ทำให้ฉันเกิดความปลื้มปิติในใจเป็นอย่างมาก และแล้วพี่สาวก็เฉลยว่าประโยคนั้นเป็นท่อนหนึ่งของบทเพลง “มีทำนองเพลงบรรเลงอยู่ภายใน” Wow! แต่งมาได้อย่างไรนี่ ช่างสัมผัสแตะต้องใจยิ่งนัก ว่าแล้วเราสองพี่น้องก็ร่วมกันร้องเพลงนี้กันอย่างครื้นเครงเมื่อยามที่เราเจอหน้ากัน ต่อมาไม่นาน พี่สาวก็นำเรื่องราวของผู้แต่งเพลงนี้ คือ Luther Burgess Bridgers มาให้อ่าน เขาแต่งเมื่อปี 1910 ในชื่อภาษาอังกฤษว่า “He keeps me singing”
โดยปกติแล้ว เราจะสามารถร้องเพลงได้อย่างชื่นบานเมื่อหัวใจมีความยินดี แต่ยามใดที่หัวใจขมขื่นเจ็บปวดล่ะ เราจะยังสามารถร้องเพลงได้ด้วยหัวใจยินดีอยู่หรือไม่…คำตอบคือ คงร้องเพลงเช่นนั้นไม่ได้แน่ หากปราศจากพระเจ้า…ลูเธอร์ก็เช่นเดียวกัน เขาแต่งเพลงนี้ในยามที่ชีวิตแทบไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากพระเจ้า…ฉันขอหยิบยกเรื่องราวของลูเธอร์ซึ่งเขียนไว้ในหนังสือ “เพลงสร้างชีวิต” มาให้ทุกท่านอ่านอย่างย่อๆ อีกครั้ง
ลูเธอร์ บริดเจอร์ส เกิดในปี 1884 มีคุณแม่เป็นคริสเตียนที่ร้อนรน ซึ่งส่งผลต่อชีวิตของลูเธอร์มาก โดยเฉพาะเรื่องการเตรียมตัวเป็นผู้รับใช้เต็มเวลา ลูเธอร์เริ่มเป็นผู้รับใช้เต็มเวลาด้วยอายุ 17 ปี และเขาก็แต่งงานกับซาราห์ ในปี 1910 ลูเธอร์ได้รับเชิญให้ไปจัดการประกาศข่าวประเสริฐ 2 สัปดาห์ ลูเธอร์จึงพาภรรยาและลูกๆ ไปพักกับพ่อแม่ของภรรยา สองสัปดาห์แห่งการประกาศผ่านไปอย่างยอดเยี่ยม มีการเคลื่อนไหวของพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างมากมาย คนบาปกลับใจ คริสเตียนเข้มแข็งขึ้น
แล้ว…ในทันทีทันใด ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถเข้าใจได้อธิบายก็ไม่ได้ ในช่วงที่ชีวิตรับใช้ที่กำลังประสบความสำเร็จสูงสุด แต่ลูเธอร์กลับพบโศกนาฏกรรมในชีวิต กล่าวคือ ไฟไหม้ที่บ้านพ่อตา ไหม้ราบราบ และพรากชีวิตภรรยาและลูกทั้งสามคนจากไป
พิธีฝังศพผ่านไป คืนอันมืดมิดยังคงอยู่ในจิตใจของลูเธอร์ แต่พลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำการอัศจรรย์แห่งพระคุณในจิตใจของเขา ลูเธอร์เริ่มร้องเพลงแห่งค่ำคืนที่ทำให้กำแพงคุกแห่งความโศกเศร้าของเขาพังทลายลง และเขาก็สามารถมีชัยชนะและเดินเข้าไปสู่แสงสว่างแห่งอิสรภาพของลูกของพระเจ้า ลูเธอร์ระลึกถึงความทรงจำในอดีต และการมองถึงพระสัญญาในอนาคต เขาก็เขียนคำร้องและทำนองเพลงที่บรรยายถึงชีวิตจิตวิญญาณของเขาเอง และในนั้นเองที่ซ่อนเคล็ดลับแห่งชัยชนะฝ่ายจิตวิญญาณ เนื้อเพลงแปลเป็นภาษาไทยไว้ ดังนี้
มีทำนองเพลงบรรเลงอยู่ภายใน พระเยซูกระซิบในใจ อย่ากลัวเพราะเราอยู่ด้วยจงชื่นใจ สุขหรือทุกข์สบายหรือไข้…(ร้องรับ: พระเยซู พระเยซู พระองค์ผู้ประเสริฐ พระนามนี้ ข้าชูเชิด ดลใจให้ร้องเพลงล้ำเลิศ)…ชีวิตข้าเคยชอกช้ำเพราะทำบาป จิตใจข้าเดือดร้อนวุ่นวาย พระเยซูอวยพร ทุกข์ร้อนผ่อนคลาย ใจสบายจึงอยากร้องเพลง…บางครั้งทรงนำให้ผ่านแม่น้ำใหญ่ ต้องข้ามห้วยเขาลำเนาไพร บางทีต้องสู้ศึกลองใจหลายหน แต่ข้าเดินตามพระองค์ไป…ไม่ช้านานพระองค์เสด็จกลับมา ต้อนรับข้าขึ้นไปเมืองฟ้า เมื่อนั้นข้าจะติดตามพระองค์ไป ครอบครองเมืองแมนงามวิไล
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับชีวิตและผลงานของลูเธอร์ ในวันนี้ที่ฉันป่วยอยู่บ้านด้วยไข้หวัด (แต่ไม่ใช่ไข้หวัด 2009 นะคะ…ไม่ต้องกลัว…บังเอิญไปติดน้องคนหนึ่งในที่ทำงานน่ะค่ะ น้องเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ขอบคุณพระเจ้า ฉันเป็นไข้หวัดธรรมดา) พระคุณของพระเจ้าก็ยังค้ำชูฉันอยู่ แม้ว่าฉันจะเหนื่อยล้าทางกาย แต่พระเจ้าทรงชูใจฉันไว้ด้วยคำรักมากมายในพระวจนะของพระองค์ และด้วยบทเพลงรักมากมายจากผู้รับใช้ของพระองค์…มีทำนองเพลงบรรเลงอยู่ภายใน จึงเป็นอีก 1 บทเพลง ที่พระเจ้าทรงเล้าโลมใจฉันในวันนี้
การสรรเสริญพระเจ้า เป็นเคล็ดลับอันมหัศจรรย์จริงๆ นับวันก็ยิ่งเห็นความมหัศจรรย์มากขึ้น พระเจ้าสอนเราให้นมัสการพระองค์ ด้วยทรงประสงค์จะเทพระพรของพระองค์ลงมายังเรา เมื่อเราเปิดใจต่อพระองค์ พระองค์จะสอนเราอธิษฐาน และนมัสการพระองค์ในวิถีซึ่งทำสงครามฝ่ายวิญญาณในสถานฟ้าอากาศ พระองค์ทรงฝึกมือของเราให้ทำสงคราม ฝึกนิ้วมือของเราให้ทำศึก และฝึกใจของเราให้เข้มแข็งกล้าหาญ และในขณะที่เราเต้นโลด ตบมือ ชูมือ ขับร้อง เล่นดนตรีสรรเสริญพระองค์อยู่นั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเทฤทธิ์เดชของพระองค์ลงมา เทการเจิมของพระองค์ลงมา นำการเยียวยาและปลดปล่อยลงมายังบรรดาประชาชาติของพระองค์ นำมาซึ่งการสรรเสริญพระองค์สืบต่อๆ ไปเป็นนิตย์
สดด.40:3 พระองค์ทรงบรรจุเพลงใหม่ในปากข้าพเจ้า เป็นบทเพลงสรรเสริญพระเจ้าของเรา คนเป็นอันมากจะเห็นและเกรงกลัว และวางใจในพระเจ้า
สดด.47:5-9 5พระเจ้าเสด็จขึ้นด้วยเสียงโห่ร้อง พระเจ้าเสด็จขึ้นด้วยเสียงแตร 6จงร้องเพลงสรรเสริญถวายพระเจ้า จงร้องเพลงสรรเสริญเถิด จงร้องเพลงสรรเสริญถวายพระมหาราชาของเรา จงร้องเพลงสรรเสริญเถิด 7เพราะพระเจ้าทรงเป็นพระราชาเหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น จงร้องเพลงสรรเสริญด้วยบทสดุดี 8พระเจ้าทรงครอบครองนานาประชาชาติ พระเจ้าทรงประทับบนพระที่นั่งบริสุทธิ์ของพระองค์ 9บรรดาเจ้านายของชนชาติทั้งหลายประชุมกัน เป็นประชากรของพระเจ้าแห่งอับราฮัม เพราะบรรดาโล่ของแผ่นดินโลกเป็นของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นที่ยกย่องอย่างสูง
สดด.56:3-4,10 3เมื่อข้าพระองค์กลัว ข้าพระองค์วางใจในพระองค์ 4ในพระเจ้า ผู้ที่ข้าพระองค์สรรเสริญพระวจนะของพระองค์ ในพระเจ้า ข้าพระองค์วางใจอย่างปราศจากความกลัว เนื้อหนังจะกระทำอะไรแก่ข้าพระองค์ได้ 10ในพระเจ้าผู้ซึ่งข้าพระองค์สรรเสริญพระวจนะของพระองค์ ในพระเป็นเจ้า ผู้ซึ่งข้าพระองค์สรรเสริญพระวจนะของพระองค์
สดด.63:1-7 1ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์แสวงพระองค์ จิตวิญญาณของข้าพระองค์กระหายหาพระองค์ เนื้อหนังของข้าพระองค์กระเสือกกระสนหาพระองค์ ในดินแดนที่แห้งและอ่อนโหย ที่ที่ไม่มีน้ำ 2เช่นนั้นแหละ ข้าพระองค์จึงเคยเห็นพระองค์ในสถานนมัสการ เห็นฤทธานุภาพและพระสิริของพระองค์ 3เพราะว่าความรักมั่นคงของพระองค์ดีกว่าชีวิต ริมฝีปากของข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ 4เช่นนั้นแหละ ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ ตราบเท่าชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ชูมือต่อพระนามของพระองค์ 5จิตใจของข้าพระองค์จะอิ่มหนำดังกินเนื้ออย่างดีและไขมัน และปากของข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วยริมฝีปากที่ชื่นบาน 6เมื่อข้าพระองค์คิดถึงพระองค์ขณะอยู่บนที่นอนและภาวนาถึงพระองค์ทุกๆ ยาม 7เพราะพระองค์ทรงเป็นความอุปถัมภ์ของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เปรมปรีดิ์อยู่ในร่มปีกของพระองค์

ไม่มีความคิดเห็น: