Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Praise And Pray

Praise And Pray
วันที่ 27/6/2009

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและขอบคุณพระเจ้า เนื่องในโอกาสที่คริสตจักรนิมิตใหม่ครบรอบ 27 ปี ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ จึงกำหนดให้มีรายการ Praise And Pray ทุกวันเสาร์ เวลา 18.00 น. ไปจนกระทั่งถึงวันครบรอบวันเกิด แต่ในวันนี้มีสมาชิกมาร่วมค่อนข้างน้อย เนื่องจากขาประจำส่วนหนึ่งไปเข้าค่าย Alpha Weekend ที่พัทยา
หนึ่งนำเราทุกคนนมัสการพระเจ้า พวกเราดื่มด่ำไปกับพระคุณความรักและการทรงสถิตของพระองค์ โลดแล่นไปกับเสียงเพลงแห่งการนมัสการที่เราน้อมถวายเป็นเครื่องบูชาที่บริสุทธิ์แด่พระองค์ แต่เราชื่นใจยิ่งกว่านั้นอีก เมื่อรู้ว่าพระองค์ทรงร้องเพลง [ศฟย.3:17] “พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าอยู่ท่ามกลางเจ้า เป็นนักรบผู้ประทานความมีชัย พระองค์ทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดี พระองค์จะทรงรื้อฟื้นเจ้าใหม่ด้วยความรักของพระองค์ พระองค์จะทรงเริงโลดเพราะเจ้าด้วยร้องเพลงเสียงดัง”
ศบ.พงษ์ศักดิ์แบ่งปันเราด้วยพระวจนะจากพระธรรมสดุดี 102 “คำร่ำร้องในยามทุกข์ใจ” เราทุกคนล้วนมีความทุกข์ใจในช่วงเวลาหนึ่งเวลาใดด้วยกันทั้งสิ้น บางครั้งก็มิได้ทุกข์ใจเพราะเรื่องของตนเอง แต่ทุกข์ใจเพราะเหตุแห่งคนที่เรารัก หรือทุกข์ใจกับเรื่องสำคัญที่ห่างไกลเราออกไปหลายพันหมื่นไมล์ แต่ขอที่เรานั้นจะไม่ท้อแท้ในการอธิษฐาน แม้ว่าหลายครั้งดูเหมือนพระเจ้าจะมิทรงตอบ เนิ่นนานเหลือเกินพระองค์เจ้าข้า! ทว่าเราก็ชื่นใจที่พระองค์ฟังคำอธิษฐานของเรา ทรงฟังคำร้องทูลของเราเสมออย่างมิเบื่อหน่าย พระองค์ทรงอยู่ และพระองค์ยังทรงเหมือนเดิมเสมอนิรันดร์
[สดุดี 102] 1ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ขอเสียงร้องของข้าพระองค์มาถึงพระองค์ 2ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์จากข้าพระองค์ในวันทุกข์ใจของข้าพระองค์ ขอทรงเงี่ยพระกรรณฟังข้าพระองค์ ขอทรงตอบข้าพระองค์โดยเร็วเมื่อข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์ 3เพราะวันของข้าพระองค์สิ้นไปอย่างควัน และกระดูกของข้าพระองค์ไหม้อย่างเตาไฟ 4จิตใจของข้าพระองค์ถูกนาบเหมือนหญ้าและเหี่ยวไป ข้าพระองค์ลืมรับประทานอาหารของข้าพระองค์ 5เหตุด้วยเสียงร้องครางของข้าพระองค์ กระดูกของข้าพระองค์เกาะติดเนื้อของข้าพระองค์ 6ข้าพระองค์เป็นเหมือนนกกระทุงที่ในถิ่นทุรกันดารดุจนกเค้าแมวในที่ร้างเปล่า 7ข้าพระองค์นอนไม่หลับ ข้าพระองค์เหมือนนกโดดเดี่ยวบนหลังคาเรือน 8ศัตรูของข้าพระองค์เยาะหยันข้าพระองค์วันยังค่ำผู้ที่คลั่งใส่ข้าพระองค์ใช้ชื่อข้าพระองค์แช่ง 9เพราะข้าพระองค์กินขี้เถ้าต่างอาหาร และเจือน้ำตาเข้ากับเครื่องดื่ม10เหตุด้วยความพิโรธและความกริ้วของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงชูข้าพระองค์ขึ้นและโยนข้าพระองค์ทิ้งไปเสีย 11วันเวลาของข้าพระองค์เหมือนเงาเวลาเย็น ข้าพระองค์เหี่ยวไปเหมือนหญ้า 12ข้าแต่พระเจ้า แต่พระองค์ประทับบนบัลลังก์เป็นนิตย์พระนามของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วชาตพันธ์ 13พระองค์ทรงลุกขึ้นสงสารศิโยน เพราะถึงเวลาที่จะทรงพระกรุณาเธอ เออ เวลากำหนดมาถึงแล้ว 14เพราะผู้รับใช้ของพระองค์รักซากก้อนหินของเธอนัก และสงสารผงคลีของเธอ 15บรรดาประชาชาติจะกลัวพระนามของพระเจ้า และบรรดาพระราชาของแผ่นดินโลกกลัวพระสิริของพระองค์ 16เพราะพระเจ้าจะทรงสร้างศิโยน พระองค์จะทรงปรากฏด้วยพระสิริของพระองค์ 17พระองค์จะสนพระทัยในคำอธิษฐานของคนสิ้นเนื้อประดาตัว และจะไม่ทรงดูหมิ่นคำอธิษฐานของเขา 18ขอบันทึกเรื่องนี้ไว้ให้ชาตพันธุ์ที่จะมีมา เพื่อประชาชนที่ยังจะทรงสร้างมานั้นจะได้สรรเสริญพระเจ้า 19บันทึกว่า พระองค์ทอดพระเนตรลงมาจากที่สูงอันบริสุทธิ์ของพระองค์ จากฟ้าสวรรค์ พระเจ้าทอดพระเนตรแผ่นดินโลก 20เพื่อทรงฟังเสียงร้องครางของเชลย เพื่อทรงปล่อยคนที่ต้องถึงตายให้เป็นอิสระ 21เพื่อมนุษย์จะประกาศพระนามของพระเจ้าในศิโยนและกล่าวสรรเสริญพระองค์ในเยรูซาเล็ม 22ขณะเมื่อชนชาติทั้งหลายรวบรวมกัน ทั้งบรรดาราชอาณาจักรเพื่อนมัสการพระเจ้า 23พระองค์ทรงหักกำลังของข้าพเจ้ากลางทาง พระองค์ทรงกระทำให้วันเวลาของข้าพเจ้าสั้นเข้า 24ข้าพเจ้าว่า "ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขออย่าทรงนำข้าพระองค์ไปเสีย ในกึ่งกลางวันเวลาของข้าพระองค์ พระองค์ ผู้ปีเดือนดำรงอยู่ตลอดทุกชั่วชาตพันธุ์" 25เมื่อเดิมพระองค์ทรงวางรากฐานของแผ่นดินโลกและฟ้าสวรรค์เป็นพระหัตถกิจของพระองค์ 26สิ่งเหล่านี้จะพินาศ แต่พระองค์จะทรงดำรงอยู่ สิ่งเหล่านี้จะเก่าไปเหมือนเครื่องนุ่งห่ม พระองค์ทรงเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้เหมือนเสื้อผ้า แล้วมันก็สิ้นไป 27แต่พระองค์ยังคงเดิม และปีเดือนของพระองค์ไม่สิ้นสุด 28ลูกหลานของบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์จะอยู่มั่นคง และพงศ์พันธุ์ของเขาจะได้รับการสถาปนาต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์
พระเจ้าทรงเรียกชนชาติอิสราเอลว่า “ประชากรของเรา” ดังปรากฏใน อพย.3:7-10 เมื่อครั้งที่ชาวอิสราเอลตกเป็นทาสของอียิปต์ และได้ร้องทูลความทุกข์ใจต่อพระเจ้า พระองค์ทรงเห็นความทุกข์ของชาวอิสราเอล 7พระเจ้าตรัสว่า "เราเห็นความทุกข์ของประชากรของเราที่อยู่ในประเทศอียิปต์แล้ว เราได้ยินเสียงร้องของเขา เพราะการกดขี่ของพวกนายงาน เรารู้ถึงความทุกข์ร้อนต่างๆ ของเขา 8เราลงมาเพื่อจะช่วยเขาให้รอดจากมือชาวอียิปต์ และนำเขาออกจากประเทศนั้น ไปยังแผ่นดินที่อุดมกว้างขวาง เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนม และน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ คือไปยังที่อยู่ของชาวคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส 9บัดนี้คำร่ำร้องของชนชาติอิสราเอลมาถึงเราแล้ว ทั้งเราได้เห็นการบีบคั้นซึ่งชาวอียิปต์กระทำต่อเขาแล้ว 10เราจะใช้เจ้าไปเฝ้าฟาโรห์ เพื่อจะได้พาประชากรของเราคือชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์"
ช่างน่าชื่นใจนักที่เราเป็นประชากรของพระองค์ ลองฟังพระสุรเสียงของพระองค์ชัดๆ อีกครั้งสิคะ
“เจ้าเป็นประชากรของเรา”
1. ทรงเห็น พระเจ้าทรงสร้างเรามา ทรงเห็นชีวิตของเรา เราจะหนีไปไหนให้พ้นพระเจ้า แม้ในที่ลึกแห่งทะเลไกลโพ้น [สดด.139:9-10] “ถ้าข้าพระองค์จะติดปีกแสงอรุณ และอาศัยอยู่ที่ส่วนของทะเลไกลโพ้น แม้ถึงที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์จะนำข้าพระองค์และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะยึดข้าพระองค์ไว้”
2. ทรงได้ยิน พระกรรณของพระองค์สดับคำวอนของเราเสมอ ทรงสนพระทัยคำอธิษฐานของคนสิ้นเนื้อประดาตัว
3. ทรงรู้ พระเจ้าทรงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรา พระเจ้าทรงรู้ใจของเรา และทรงยินดียิ่งนักเมื่อเราเข้าไปหาพระองค์ แม้เราไม่ต้องเอ่ยปากอะไร พระองค์ก็ทรงรู้หมดสิ้น
4. ทรงลงมา โดยพระคุณของพระองค์ ทรงส่งพระบุตรองค์เดียวลงมาจากฟ้าสวรรค์ เพื่อช่วยเราให้รอด
5. เราจะใช้เจ้าไป พระองค์ทรงเรียกเราให้รับใช้พระองค์ ตามพระประสงค์ของพระองค์ ดังนั้น หากเราตั้งใจรับใช้พระเจ้า เราก็ไม่ต้องกลัวอะไร พระองค์สัญญาว่าพระพรจะตกไปถึงลูกหลาน แม้ว่าตอนนี้เราจะรับใช้ด้วยความทุกข์เพียงใดก็ตาม (สดด.102:18)
ฮาเลลูยา!
เราได้ร่วมใจกันอธิษฐานเผื่อสำหรับผู้เจ็บป่วยคือ คุณพ่อของพี่หมู-สมภพ น้องยุ้ย-ลูกสาวคุณสุภาพ ซี อธิษฐานสำหรับ Alpha Weekend ที่กำลังดำเนินการอยู่ ณ พัทยา อธิษฐานเพื่อประเทศไทย อธิษฐานเพื่องานครบรอบ 27 ปีของคริสตจักร และอธิษฐานสำหรับทีมนมัสการ

ไม่มีความคิดเห็น: