Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

ตั้งขอบ แล้วขอบพระคุณ

ตั้งขอบ แล้วขอบพระคุณ
วันที่ 8/3/2009
วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2553 ณ คริสตจักรนิมิตใหม่ เราได้รับเกียรติจาก Dr.Ned Stewart อาจารย์จากโรงเรียนคริสต์ศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์ สวนพลู มาเป็นผู้เทศนาเรื่อง “การรักเงินทอง” โดยอาจารย์นำหลักการจากพระคัมภีร์เกี่ยวกับเรื่องการเงินมาถ่ายทอดยังพวกเรา
หลักการในพระคัมภีร์เกี่ยวกับเรื่องการเงิน
1. พระเจ้าเป็นเจ้าของทุกสิ่ง เราเป็นเพียงผู้อารักขาทรัพย์สินของพระเจ้า (เราเป็นคนต้นเรือน) สดด.50:10-12 [10เพราะสัตว์ทุกตัวในป่าเป็นของเรา ทั้งสัตว์เลี้ยงบนภูเขาตั้งพันยอด 11เรารู้จักบรรดานกแห่งภูเขาทั้งหลาย และบรรดาสัตว์ในนาเป็นของเรา12ถ้าเราหิว เราจะไม่บอกเจ้า เพราะพิภพและสารพัดที่อยู่ในนั้นเป็นของเรา]
2. การขโมยเป็นสิ่งที่ผิด
มก.12:17 [17พระเยซูจึงตรัสแก่เขาว่า "ของของซีซาร์จงถวายแก่ซีซาร์ และของของพระเจ้าจงถวายแด่พระเจ้า" ฝ่ายเขาก็ประหลาดใจในพระองค์ยิ่งนัก]
3. การโลภเป็นสิ่งที่ผิด
อพย.20:17 [17"อย่าโลภครัวเรือนของเพื่อนบ้าน อย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสทาสีของเขา หรือโค ลาของเขา หรือสิ่งใดๆ ซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน"]
4. การพยายามอย่างไม่ลดละ (ไม่รู้จบ) ที่จะแสวงหาความร่ำรวยเป็นสิ่งที่อันตราย
สภษ.23:4-5 [4อย่าทำงานเพื่อเห็นแก่ทรัพย์ศฤงคาร จงฉลาดพอที่จะยับยั้งไว้ 5เจ้าจะเพ่งตาของเจ้าอยู่ที่ของอนิจจังหรือเพราะทรัพย์สมบัติมีปีกแน่นอนทีเดียว มันจะบินไปในท้องฟ้าเหมือนนกอินทรี]
5. การให้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
มก.12:41-44 [41พระเยซูได้เสด็จประทับตรงหน้าตู้เก็บเงินถวาย ทรงสังเกตประชาชนเอาเงินมาใส่ไว้ในตู้นั้น และคนมั่งมีหลายคนเอาเงินมากมาใส่ในที่นั้น 42มีหญิงม่ายคนหนึ่งเป็นคนจนเอาเหรียญทองแดงสองอัน มีค่าประมาณสลึงหนึ่งมาใส่ไว้ 43พระองค์จึงทรงเรียกเหล่าสาวกมาตรัสแก่เขาว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า หญิงม่ายจนคนนี้ได้ใส่ไว้ในตู้เก็บเงินถวายมากกว่าคนทั้งปวงที่ใส่ไว้นั้น 44เพราะว่าคนทั้งปวงนั้นได้เอาเงินเหลือใช้ของเขามาใส่ไว้ แต่ผู้หญิงนี้ขัดสนที่สุด ยังได้เอาเงินที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตของตนมาใส่จนหมด"]
6. การจัดการเรื่องการเงินเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
มธ.25:14-29 [14"และยังเปรียบเหมือน ชายผู้หนึ่งจะออกเดินทางไป จึงเรียกพวกทาสของตนมาฝากทรัพย์สมบัติไว้ 15คนหนึ่งท่านให้ห้าตะลันต์ {เงินหนึ่งตะลันต์ มีค่าประมาณสองหมื่นบาท} คนหนึ่งสองตะลันต์ และอีกคนหนึ่งตะลันต์เดียว ตามความสามารถของแต่ละคนแล้วท่านก็ไป 16คนที่ได้รับห้าตะลันต์นั้นก็เอาเงินนั้นไปค้าขายทันที ได้กำไรเท่าตัว 17คนที่ได้รับสองตะลันต์นั้นก็ได้กำไรเท่าตัวเหมือนกัน 18แต่คนที่ได้รับตะลันต์เดียวได้ขุดหลุมซ่อนเงินของนายไว้ 19ครั้นอยู่มาช้านานนายจึงมาคิดบัญชีกับทาสเหล่านั้น 20คนที่ได้รับห้าตะลันต์ก็เอาเงินกำไรอีกห้าตะลันต์มาชี้แจงว่า "นายเจ้าข้า ท่านได้มอบเงินห้าตะลันต์ไว้กับข้าพเจ้า ดูเถิด ข้าพเจ้าได้กำไรมาอีกห้าตะลันต์" 21นายจึงตอบว่า "ดีแล้ว เจ้าเป็นทาสดีและสัตย์ซื่อ เจ้าสัตย์ซื่อในของเล็กน้อย เราจะตั้งเจ้าให้ดูแลของมาก เจ้าจงปรีดีร่วมสุขกับนายของเจ้าเถิด" 22คนที่ได้รับสองตะลันต์มาชี้แจงด้วยว่า "นายเจ้าข้า ท่านได้มอบเงินสองตะลันต์ไว้กับข้าพเจ้า ดูเถิด ข้าพเจ้าได้กำไรมาอีกสองตะลันต์" 23นายจึงตอบว่า "ดีแล้ว เจ้าเป็นทาสดีและสัตย์ซื่อ เจ้าสัตย์ซื่อในของเล็กน้อย เราจะตั้งเจ้าให้ดูแลของมาก เจ้าจงปรีดีร่วมสุขกับนายของเจ้าเถิด" 24ฝ่ายคนที่ได้รับตะลันต์เดียวมาชี้แจงด้วยว่า "นายเจ้าข้า ข้าพเจ้ารู้อยู่ว่าท่านเป็นคนใจแข็ง เกี่ยวผลที่ท่านมิได้หว่าน เก็บส่ำสมที่ท่านมิได้โปรย 25ข้าพเจ้ากลัวจึงเอาเงินตะลันต์ของท่านไปซ่อนไว้ใต้ดิน ดูเถิด นี่แหละเงินของท่าน" 26นายจึงตอบว่า "อ้ายข้าชั่วช้าและเกียจคร้าน เจ้าก็รู้หรือว่าเราเกี่ยวที่เรามิได้หว่าน เก็บส่ำสมที่เรามิได้โปรย 27เหตุฉะนั้นเจ้าควรเอาเงินของเราไปฝากไว้ที่ธนาคาร เมื่อเรามาจะได้รับเงินของเราทั้งดอกเบี้ยด้วย 28เพราะฉะนั้น จงเอาเงินตะลันต์เดียวนั้นจากเขาไปให้คนที่มีสิบตะลันต์ 29ด้วยว่าผู้ใดมีอยู่แล้วจะเพิ่มเติมให้ผู้นั้นจนมีเหลือเฟือ แต่ผู้ที่ไม่มี แม้ว่าซึ่งเขามีอยู่ก็จะต้องเอาไปจากเขา]
ข้อพระคัมภีร์ที่ยกมาข้างต้นนั้น เชื่อว่าพี่น้องรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว จึงไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียดในที่นี้ ทว่า เราต่างได้รับพระพรจากพระคำของพระองค์เสมอ ฉันจึงอดไม่ได้ที่จะมองย้อนกลับไปถึงการเบิกตาจากพระองค์แก่ฉันในเรื่องนี้
ช่วงแรกของการเป็นคริสเตียน ฉันเป็นคนที่ล้มเหลวทางด้านการเงิน เป็นคนที่ไม่สัตย์ซื่อในการถวายสิบลด โดยจะนำเงินไปใช้อย่างอื่นก่อน เมื่อเหลือแล้วจึงถวาย ถ้าไม่เหลือก็ไม่ถวาย ฉันไม่ได้ถวายผลแรก ไม่ได้นำส่วนที่ดีที่สุดมาถวายพระเจ้า ซึ่งฉันก็มีเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองว่า รายได้น้อย ต้องผ่อนบ้าน ต้องเลี้ยงดูแม่ ต้องส่งตัวเองเรียน ใช้หนี้ และอีกสารพัดจะอ้าง
ถ้าคิดเสมอว่าเราพอ เราจะไม่ยากจนเลย
ช่วงหนึ่งได้รู้จักกับน้องไก่จันทวรรณผ่านการแนะนำของ Jim & Judy มิชชันนารีชาวอเมริกัน ซึ่งเมื่อได้เห็นชีวิตของน้องไก่ที่เดินอยู่บนความเชื่อ และตั้งมั่นอยู่ในความสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า ก็เป็นแรงดลใจให้ฉันปรารถนาที่จะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน ยังจำได้เสมอกับคำพูดประโยคหนึ่งจากน้องไก่ “ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่เรามีล้วนมาจากพระเจ้า พระเจ้าให้เราถวายคืนกลับเพียง 10% เท่านั้น ทำไมเราจะทำไม่ได้” และ ตั้งแต่นั้นมา ฉันจึงตั้งใจว่าจะถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยการสัตย์ซื่อในเรื่องสิบลด
ฉันเชื่อว่าพี่น้องในพระคริสต์สัตย์ซื่อในการถวายสิบลด แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ พี่น้องหลายท่านถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยการถวายมากกว่าสิบลด กล่าวคือ มิเพียงถวายแด่พระเจ้าในแต่ละสัปดาห์ที่คริสตจักร แต่ยังได้สงเคราะห์คนยากจน ถวายเพื่อพันธกิจต่างๆ และถวายเพื่อผู้รับใช้ของพระเจ้าด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นการถวายเกียรติแด่พระองค์นั่นเอง
ตั้งขอบแล้วอย่าตกขอบ
อ.เน็ดกล่าวเตือนว่า ให้เราตั้งขอบในการใช้เงินของเรา เช่น อาจจะใช้เพียง 80% เพื่อที่จะมีเงินเพียงพอสำหรับถวายพระเจ้า และช่วยเหลือผู้อื่น…ฉันเองนั้นเคยตกขอบมานักต่อนักแล้ว มิเพียงใช้เงินเกิน 80% แต่ยังใช้เงินเกินขอบเขต 100% ใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่มีเข้ามา บัตรเครดิตนั่นแหละ ตัวดีนักเชียว! … ฉันฉ้อพระเจ้าอีกแล้ว เอาเงินสิบลดไปชำระบัตรเครดิตก่อน “ยืมก่อนนะคะ พระเจ้า เดี๋ยวใช้คืน เพราะว่าพระเจ้าไม่คิดดอก” ว้า แย่จัง ไปโทษบัตรเครดิตก็ไม่ได้อีกนั่นแหละ ต้องโทษตัวเองตัวต้นเหตุ ซึ่งพระเจ้าก็ทรงให้โอกาส ให้พระคำของพระองค์นำฉันกลับใจ ลืมสิ่งที่ผ่านพ้นไป โน้มตัวไปข้างหน้า อ่ะฮ้า คราวนี้จะใช้หนี้พระเจ้าก่อนหนี้ทางโลก และจะไม่ใช้บัตรเครดิตจนเกินความสามารถในการจ่าย เมื่อมีรายได้เข้ามา ก็จะถวายพระเจ้าก่อน แล้วที่เหลือจึงนำไปจัดสรรตามความจำเป็นต่างๆ แน่นอนว่าภาระยังคงมีเช่นเดิม และดูเหมือนจะมากขึ้นด้วย ทว่า แอกนั้นก็พอเหมาะเสมอ ในหลายครั้งดูเหมือนไม่มีอะไรเลย แต่ก็ไม่เคยขัดสน ด้วยแนวคิดที่ว่าพระเจ้าจะทรงเลี้ยงดู
การแลกเปลี่ยนอันเต็มด้วยสง่าราศี
เมื่อคุณยอมปลดปล่อยสิ่งสำคัญของคุณ ซึ่งได้แก่ ตะลันต์ ความสามารถ หรือสิ่งที่ได้มาโดยความพยายาม คุณก็กำลังปลดปล่อยส่วนหนึ่งของชีวิตออกไป เช่นกัน เมื่อคุณถวายเงิน เวลา หรือคำอธิษฐาน อย่างเต็มที่ให้แก่พันธกิจหนึ่ง คุณก็กำลังประกาศว่า “พระเจ้าทรงเป็นแหล่งของฉัน ทรงเป็นพระเจ้าสูงสุด ผู้ครอบครองสวรรค์และโลก ความวางใจของฉันไม่ได้อยู่ในสิ่งที่มี แต่อยู่ในพระผู้สร้างสิ่งสารพัด” (คัดลอกจาก หนังสือ เมล็ดพืชที่สำคัญ การเก็บเกี่ยวนิรันดร์ หน้า 15 โดย ริค โธมัส จัดพิมพ์และเผยแพร่โดย Bangkok Translation Centre)
จงให้ และจงมั่นใจว่าเรามีเพียงพอ
ใช้เวลานานพอดูในการเคลียร์บัตรเครดิตและหนี้สินต่างๆ ให้ลงตัว แต่กระนั้น ก็มิเคยขัดสน หากยังมีเพียงพอเสมอมา โดยมีข้อแม้คือ พึ่งพาพระเจ้าอย่างมาก และสัตย์ซื่อในการกลับใจของตนเอง ไม่หันกลับไปทำบาปเดิมๆ อีก
พระเจ้าเป็นแหล่งทรัพยากรของผู้รับใช้
ช่างน่ายกย่องยิ่งนักที่ผู้รับใช้พระเจ้าเต็มเวลาจำนวนมาก อยู่ได้โดยไม่พึ่งเงินเดือนจากต้นสังกัด แต่พึ่งพระบิดาผู้ทรงเป็นจอมของสิ่งสารพัด เดินอยู่บนความเชื่อในพระเจ้าผู้เที่ยงแท้ มิใช่ลำพังตนเองเท่านั้น แต่คนในครอบครัว (บางคนยังไม่เชื่อพระเจ้าด้วยซ้ำ) ต้องเดินบนทางความเชื่อเดียวกัน พี่น้องท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ต้องหา Sponsor ถึง 50 คนทีเดียว ส่วนพี่น้องอีกท่านหนึ่งก็เล่าว่า ตอนนี้มี Sponsor 30 คนแล้ว แต่ก็ไม่แน่นอน ขึ้นๆ ลงๆ ตามภาวะเศรษฐกิจ
เมื่อได้อ่านหนังสือเรื่อง “ผจญภัยโดยการถวาย” ของ บิล ไบลท์ ผู้ก่อตั้งแคมปัสครูเสด ครานี้ฉันก็ถึงบางอ้อแล้วว่า นี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้บุตราบุตรีทั้งหลายของพระองค์รับพระพร ให้โอกาส คริสเตียนทั้งหลายดูแลผู้รับใช้พระเจ้าเต็มเวลา เพื่อที่พระเจ้าจะได้อวยพรผู้ที่ให้นั้นอย่างเต็มขนาด ทั้งยังอวยพรผู้รับใช้เต็มเวลาให้รับใช้พระเจ้าด้วยความเต็มใจเต็มกำลัง โดยไม่ต้องกังวลใดๆ





บิล ไบลท์

เปลี่ยนแปลงการถวายของคุณให้เป็นการผจญภัยที่
ตื่นเต้นด้วยพระวิญญาณ
-เตรียมตัวที่จะผจญภัยโดยการถวาย
-รับพระพรล้นเหลือจากพระเจ้า
-เป็นอิสระทางการเงิน
-ไว้วางใจพระเจ้าในเรื่องเงิน






ฟป.4:15-17[15และพวกท่านชาวฟีลิปปีก็ทราบอยู่แล้วว่า การประกาศข่าวประเสริฐในเวลาเริ่มแรกนั้น มาตอนเมื่อข้าพเจ้าออกไปจากแคว้นมาซิโดเนีย ไม่มีคริสตจักรใดมีส่วนร่วมกับข้าพเจ้าในรายรับรายจ่ายเลย นอกจากพวกท่านพวกเดียวเท่านั้น 16ถึงแม้เมื่อข้าพเจ้าอยู่ที่เมืองเธสะโลนิกา พวกท่านก็ได้ฝากของมาช่วยหลายครั้งหลายหน 17มิใช่ว่าข้าพเจ้าปรารถนาจะได้รับของให้ แต่ว่าข้าพเจ้าอยากให้ท่านได้ผลกำไรในบัญชีของท่านมากขึ้น] เปาโลกำลังสื่อสารว่า “ข้าพเจ้าปรารถนาให้จิตวิญญาณยากจนได้รับความรอด และชีวิตมากมายได้รับการเปลี่ยนแปลง และท่านได้ให้ ไม่ใช่เพราะว่าข้าพเจ้าไม่มีอาหารหรือเครื่องนุ่งห่ม แต่เพราะท่านต้องการให้ข้าพเจ้าสามารถเผยแพร่พระกิตติคุณได้ และทางเดียวที่ข้าพเจ้าจะกระทำเช่นนั้นได้ก็คือ เมื่อความจำเป็นของข้าพเจ้าได้รับการตอบสนอง” (คัดลอกจาก หนังสือ เมล็ดพืชที่สำคัญ การเก็บเกี่ยวนิรันดร์ หน้า 23 โดย ริค โธมัส จัดพิมพ์และเผยแพร่โดย Bangkok Translation Centre) เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่หนอนกล้วยน้ำว้าแนะนำให้อ่านนะคะ แต่ไม่มีปกมาโชว์ค่ะ หาไม่เจอ ส่วนหนอนกล้วยนั้น มีคนซื้อให้คะ (อิอิ) ขอบคุณพระเจ้า
พระวิญญาณแห่งปัญญา
ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงเบิกตาให้พี่น้องได้เห็นคุณค่าและไขว่คว้าหาขุมทรัพย์แห่งพระเจ้า ซึ่งมีค่ายิ่งเหนือสิ่งใดๆในโลก นั่นคือ ความรู้ถึงพระปัญญาของพระเจ้า อันเป็นขุมทรัพย์นิรันดร์ ด้วยการแสวงหาพระเจ้าอย่างสุดหัวใจ และรักในพระบัญญัติของพระองค์ ในขณะเดียวกัน ก็มิลืมที่จะดูแลผู้รับใช้พระเจ้าเต็มเวลา ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงเรียกมาทำงานเพื่อข่าวประเสริฐแห่งพระองค์
หว่านเมล็ดพืชในแผ่นดินของพระเจ้า
การถวายทรัพย์เป็นการหว่านเมล็ดพืชแห่งความเชื่อลงในแผ่นดินของพระเจ้า ยิ่งเมื่อถวายให้กับผู้รับใช้ ถวายให้กับงานประกาศ พร้อมทั้งปกคลุมด้วยการอธิษฐาน จะก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวในฝ่ายวิญญาณอย่างเหนือระดับ นำมาซึ่งการฟื้นฟูที่สดเสมอ และไฟที่ไม่รู้ดับ
ในนามของคริสตจักรนิมิตใหม่ได้มีการถวายเพื่อสนับสนุนผู้รับใช้ และพันธกิจประกาศ ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่าปีใดๆ ที่ผ่านมา และการอัศจรรย์เรื่องการเงินก็เกิดขึ้นกับคริสตจักร มีผู้ถวายเข้ามาเป็นจำนวนมากเช่นกัน และแผ่นดินของพระเจ้าก็ขยายมากขึ้น แผ่นดินสวรรค์มาตั้งอยู่ในโลกแล้วจริงๆ
ดังนี้แล้ว ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำพาพี่น้องให้หว่านเมล็ดพืชลงในดินที่ดี จะเป็นแผ่นดินแห่งใดก็ตาม ทั้งใกล้และไกล เพื่อแผ่นดินของพระเจ้า เพื่อการเก็บเกี่ยวนิรันดร์
เริ่มต้นวันนี้!
หากว่าได้เริ่มต้นแล้ว…ขยายดินแดนมากขึ้น!
หากว่าได้ขยายดินแดนมากขึ้นแล้ว…ขยายดินแดนมากขึ้นกว่าเดิม

ฟป.4:19 และพระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานสิ่งสารพัดที่พวกท่านขาดอยู่นั้น จากทรัพย์อันรุ่งเรืองของพระองค์ในพระเยซูคริสต์

ฟป.2:10 เพื่อเพราะพระนามนั้น ทุกเข่า ในสวรรค์ ที่แผ่นดินโลก ใต้พื้นแผ่นดินโลก จะคุกลงกราบ พระเยซู

ไม่มีความคิดเห็น: