Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

The Pilot: Session One โดย อ.วีระชัย โกแวร์

วันที่ 29/03/2010

“ข้าแต่พระเจ้า คือพระองค์เอง ผู้ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกด้วยฤทธานุภาพใหญ่ยิ่งของพระองค์ และด้วยพระหัตถ์ซึ่งเหยียดออกของพระองค์ สำหรับพระองค์ไม่มีสิ่งใดที่ยากเกิน” (ยรม.32:17)
พระวจนะแสนหวานจากพระเจ้าผ่านทางพี่อ้อยมาถึงเราในเช้าวันที่ 27/3/2010 ณ คริสตจักรนิมิตใหม่ ในโครงการ The Pilot-episode 1 เอ๊ะ!จะเรียกอะไรดีละพี่อ้อย…ภาค 1, บทที่ 1, ฉากที่ 1 อาฮ่า แล้วแต่จะเรียกละกัน

ศบ.พงษ์ศักดิ์ของเรามาด้วยมาด องอาจดุจดังนักรบ ด้วยหัวใจเข้มแข็งและกล้าหาญ ซึ่ง ศบ.ก็ย้ำแล้วย้ำอีกกับพวกเราทุกคนว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด จงลุกขึ้น ก้าวไป และเหยียบลง” พวกเราอ่านพระธรรม ยชว.1:1-11 ด้วยกันอีกรอบ ชนชาติอิสราเอลรอนแรมอยู่ในถิ่นทุรกันดารถึง 40 ปี แต่เมื่อถึงคราต้องข้ามไปสู่ดินแดนพันธสัญญานั้น พระเจ้าทรงรับสั่งให้หามหีบพันธสัญญาข้ามแม่น้ำจอร์แดน ภายในเวลา 3 วัน อุปมาดั่งนิมิตใหม่ซึ่งมีนิมิต 10-100-1000 กล่าวคือ 10 คริสตจักรลูก, 100 กลุ่มย่อย และ 1,000 สมาชิก ภายในปี 2010…อันว่าเวลานั้นก็ล่วงเลยมา 9 ปีแล้ว แต่ก็ยังเงี้ยบเงียบ จนขึ้นสู่ปีที่ 10 นี้เองจึงเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรมขึ้นมา ซึ่งก็มิได้หมายความว่าที่ผ่านมา 9 ปีนั้นไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะพระเจ้าทรงจัดเตรียมพวกเราทุกคนตั้งแต่ผู้นำสูงสุดไปจนถึงสมาชิกทุกคนให้มีความพร้อมก่อนที่จะเข้าสู่ดินแดนพันธสัญญา…คุณเองก็พร้อมที่จะขยายเขตแดนและครอบครองร่วมกันแล้วใช่ไหม?

พี่วิไลมาไกลจากกลางดง มานั่งอยู่กลางกรุงกับพวกเราด้วย แต่ที่มาไกลกว่าก็คือพี่น้องจากบ้านน้ำยืน ซึ่งแม่ทัพแมมพาไปสัมผัสพระเจ้าที่ค่าย Encounter ที่คริสตจักรเสรีภาพนู้น มีเพียง Presentation มาเป็นตัวแทนให้เราระลึกถึง…พี่วิไล พี่ต่าย พี่โอ พี่อ้อย พี่สุภาพ พี่อ้อย ศบ.พงษ์ศักดิ์ และ ดร.สมนึก ออกมาเล่าเรื่องคริสตจักรลูกให้เราฟังอย่างตื่นเต้น

บรมครูผู้มีประสบการณ์ในการบุกเบิกคริสตจักรอีกท่านหนึ่งในประเทศไทย นามว่า ศจ.ดร.วีระชัย โกแวร์ ลุกขึ้นมาแบ่งปันประสบการณ์กับพวกเราบ้าง อืม อาจารย์วีระชัยขา นามสกุลอาจารย์นี่น่ารักมากเลย “Go where” จะไปไหนดีละ แต่วันนี้อาจารย์รู้แล้วว่าจะไปที่ไหน ก็มาที่นิมิตใหม่นี่ไง

อ.วีระชัยก็ให้กำลังใจพวกเราอีกว่า โดยความเป็นมนุษย์นั้นเรามักอยากเห็นผลทุกอย่างเร็วๆ ทว่า ในทุกอย่างนั้นมีกระบวนการ ดุจดั่งต้นไม้ที่ต้องการเวลาสำหรับการเจริญเติบโต หรือการเลี้ยงลูกก็เช่นเดียวกัน ที่ต้องการเวลาสำหรับการเติบโต เนื่องจากกระบวนการเติบโตนั้นเป็นธรรมชาติที่พระเจ้าทรงสร้างไว้ ดังนั้น ทุกอย่างจะเริ่มจากจุดเล็กๆ ก่อน อย่าด่วนใจร้อน ข้ามขั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานของพระเจ้า เพราะพระองค์เป็นผู้ทรงให้เกิดผล เราเองนั้นเป็นเพียงผู้กระทำตามเท่านั้น
เนื่องจาก อ.วีระชัย มีเวลาน้อย จึงได้ให้หลักการกว้างๆ ไว้กับพวกเรา ส่วนฉันก็สติปัญญาน้อย ก็จดจำมาได้แค่นี้เหมือนกันคะ
หากเปรียบชีวิตคริสเตียนเป็นดั่งต้นไม้ ก็จะประกอบด้วย ราก ลำต้น กิ่งก้านใบ ชะช่า ใบก้านกิ่ง และผลของมัน แต่กว่าต้นไม้จะออกผลที่ดีได้นั้น ต้องมีองค์ประกอบที่ดีด้วย

กระบวนการเติบโตของชีวิตคริสเตียน
1.เจริญลง: จ๊าก! ฟังแรกๆ แล้วหนาว ในความรู้เดิมนั้น ถ้ามีใครมาบอกว่า ขอให้เจริญลง ฉันก็คงปฏิเสธ เพราะถ้าคนพูดไม่บ้า ก็ต้องมีเจตนาไม่ดีแน่ๆ เลย บางทีก็มีการประชดให้เจริญลงด้วย แต่ถ้าจะเจริญลงในความหมายของ อ.วีระชัยละก็ รับคะรับ ฉันปรารถนาที่จะเจริญลง เพราะนั่นหมายถึงการหยั่งรากลึกลงในฝ่ายวิญญาณกับพระเจ้า เป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคง อันเกิดจากการสามัคคีธรรมกับพระเจ้าเป็นการส่วนตัว ฉะนี้แล้วเราก็จะมีรากที่หยั่งลงยึดแน่น เมื่อมีพายุอุปสรรคใดเข้ามา ก็มิอาจล้มเราลงได้
2.เจริญขึ้น: ตอนนี้นะรากก็ค่อยๆ หยั่งลึกลงเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน ลำต้นก็ค่อยๆ เจริญเติบโตขึ้น ซึ่งการเติบโตนี้ จำเป็นอย่างยิ่งต้องเติบโตอย่างยั่งยืน
3.เจริญออก: แช่วับ วับวับ แช่วับ คราวนี้ก็เริ่มเป็นกลุ่มเป็นก้อนแล้ว เจริญออกเป็นกลุ่มเซลล์ หรือกลุ่มเล็ก กลุ่มย่อยต่างๆ ดุจดังต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านใบ ขยายออก ขยายออก
4.เจริญผล: รากก็ลึก ลำต้นก็แข็งแรง กิ่งก้านใบก็ขยายเต็มที่ ก็ถึงคราวเกิดดอกออกผลแล้วสินะ ถึงครานี้ การงานทุกอย่างที่เราทำโดยพระคุณของพระเจ้านั้น เราก็เกิดผลทุกประการ
5.เจริญพันธุ์: วี๊ด บึ้ม! พันธุ์อะไรล่ะ ก็เจริญพันธุ์ตาม DNA ของมันไง เกิดผลตามชนิดของมัน ไปตกที่ไหนก็งอกที่นั่น ดุจดังพี่น้องของเราหลายคนที่แม้ว่าจะไปอยู่ในที่อื่นๆ แล้ว ก็เจริญพันธุ์ กระทำตามพระมหาบัญชา ด้วยยึดพระมหาบัญญัติ ก่อเกิดเป็นคริสตจักรลูก และพี่น้องหลายคนก็เจริญพันธุ์ในรูปแบบอื่น เช่น พี่สาวในพระคริสต์ท่านหนึ่ง มีของประทานในการนมัสการ ดังนั้น ไม่ว่าคุณเธอจะไปที่ไหน เมล็ดหัวใจแห่งการนมัสการของเธอก็ถูกปลูกและงอกขึ้นที่นั่น
วิธีการพัฒนาคริสตจักรให้เจริญ

เมื่อแต่ละคนเจริญลง เจริญขึ้น เจริญออก เจริญผล เจริญพันธุ์แล้ว ก็กลายเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้คริสตจักรเจริญ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประการ ด้วยกัน
1.เจริญภายใน: คือ การเจริญเติบโตในฝ่ายวิญญาณ (Inner Growth) เป็นความสัมพันธ์กับพระเจ้าจากภายใน ด้วยการพัฒนาลักษณะนิสัยภายใน การตั้งมั่นคงอยู่กับคำสอนของพระเจ้า ให้พระเจ้าเป็นหนึ่ง ให้พระคริสต์เป็นเอก ให้พระเยซูเป็นใหญ่ในชีวิต
•ในความบาปของเรานั้น มีตัวกูเป็นใหญ่ (sIn)
•ให้พระเยซูเป็นผู้นำเราออกจากความบาปนั้น (sOn)
2.เจริญจำนวน: คริสตจักรจะเจริญด้านจำนวนได้ก็ด้วยคนนี่แหละ เพราะคนย่อมดึงดูดคน ดังนั้นแล้ว เราก็จะเป็นสมาชิกที่นิ่งไม่ได้ เราต้องเป็นสมาชิกที่ออกนำวิญญาณ เป็นสมาชิกที่ถวาย เป็นสมาชิกที่รับใช้…กล่าวกันว่า 80% ของคนที่มาโบสถ์นั้น เพราะมิตรภาพ ความรัก และการรับภาระซึ่งกันและกัน ส่วนอีก 20% นั้น มาโบสถ์เพราะติดใจนักเทศน์ หากนักเทศน์คนโปรดไม่อยู่แล้ว สมาชิกประเภทนี้ก็พร้อมที่จะย้ายไปโบถส์อื่น…สมาชิกนั้นสามารถเพิ่มได้โดยการทวีจำนวนลูกหลานคริสเตียนในโบสถ์นั่นแหละ ส่วนอีกประเภทหนึ่งคือ กลุ่มที่กลับใจใหม่ ทั้งนี้ คริสตจักรต้องจัดสรรทรัพยากรและงบประมาณให้กับทั้ง 2 กลุ่ม อย่างสมดุลย์
3.เจริญข้ามเขต: คือ การบุกเบิกคริสตจักรใหม่ เพิ่มจำนวนคริสตจักร ทั้งนี้ เราต้องเป็นผู้มองการณ์ไกล มี Vision ที่ไกลออกไป คริสตจักรไทยหลายแห่งที่มีอยู่ทุกวันนี้ เป็นผลจากการมองการณ์ไกลของมิชชันนารียุคแรก แล้วเราเองล่ะ ได้มองการณ์ไกลไว้สำหรับชนรุ่นหลังเพียงใด
4.เจริญข้ามวัฒนธรรม: คือ พันธกิจโลก ถ้าเราไม่มีมิชชันนารียุคแรกมาประกาศที่เมืองไทย เราจะรอดได้อย่างไร ดังนั้น เมื่อเรารอดแล้ว เราต้องออกไปมีส่วนกับพันธกิจโลกด้วย เริ่มต้นวันนี้ และทำมากขึ้น ด้วยการอธิษฐาน การถวาย และการรับใช้

ข้อควรคำนึงในการตั้งคริสตจักร
1.การบุกเบิกคริสตจักรนั้นยาก แต่ ทำได้!
2.การบุกเบิกคริสตจักรต้องทำผ่านคริสตจักร (เรียนรู้จาก อ.เปาโล) อย่าทำอะไรที่เป็นอิสระ เพราะจะไม่อยู่ยั่งยืน
3.มีความสมดุลย์ระหว่างการวางแผนของเรา และการทรงนำของพระเจ้า เราต้องวางแผนด้วยสติปัญญาที่พระเจ้าใส่ไว้ให้ และพร้อมเสมอที่จะเปลี่ยนทิศทางไปตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์
4.ศึกษาวัฒนธรรมของกลุ่มคนที่เราจะไปตั้งคริสตจักร เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา
5.ต้องมีทีม: การเลือกทีมสำคัญมาก ให้เลือกทีมที่มีภาษาความฝันเดียวกัน (ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าทีมที่เราไม่เลือก หรือทีมที่ไม่เลือกเรานั้นไม่ดี)

ถ้าพระเจ้ายังไม่ได้บอกว่าให้เราไปที่ไหน --> ก็จงไปในที่ๆ เราชอบ (เป็นการรอคอยพระเจ้า)
เมื่อพระเจ้าบอกว่าให้ไปที่ไหน --> ก็จงไปที่นั่น อย่ารอช้า!
อ.วีระชัยคะ Go Where?

นิมิตใหม่เอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า
น้ำยืนเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า
บางใหญ่เอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า
อัมพวาเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า
300 เอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า
กลางดงเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า
“สาธุการแด่พระเจ้าจากศิโยน พระองค์ผู้ทรงพำนักอยู่ในเยรูซาเล็ม จงสรรเสริญพระเจ้าเถิด” (สดด.135:19-21)

ไม่มีความคิดเห็น: