Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2552

พระวจนะ

พระวจนะ
วันที่ 27/1/2009
[ยน.1:1] ในปฐมกาลพระวาทะดำรงอยู่ และพระวาทะทรงสถิตอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า
[ยน.1:3] พระเจ้าทรงสร้างสิ่งทั้งปวงขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นมานั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่ได้เป็นมานอกเหนือพระวาทะ
ด้วยคำนิยมของครูแมมที่หนุนใจให้อ่านหนังสือเรื่อง “พระวจนะ พระนาม พระโลหิต” ของ Joyce Myer จึงอดไม่ได้ที่จะวางหนังสือบางเล่มลงชั่วคราว แล้วอ่านเล่มนี้แทนโดยเร็วพลัน และก็พบพระพรมากมายซึ่งเปิดเผยไว้ในหนังสือเล่มนี้
มาอ่านคำนิยมของครูแมมกัน
ท่านเคยเป็นแบบนี้ไหม? อ่านพระคัมภีร์ เรียนพระคัมภีร์ ฟังเทศนา ร่วมการฟื้นฟู รับพระวจนะมาเต็ม ๆ แต่ก้าวยังไม่พ้นวัน ลืมไปหมดเลย
ข้าพเจ้าพบว่า แท้ที่จริงแล้ว มีมารมาขโมยไปนี่เอง
"..พระวจนะที่หว่านแล้ว และเมื่อบุคคลได้ฟังในทันใดนั้นซาตานก็มาชิงเอาพระวจนะซึ่งหว่านถูกใจเขานั้นไปเสีย"
แล้วทำไงดี เพราะมารจ้องทำลายไม่ให้พระวจนะอยู่ในชีวิตเรา มารกลัวพระวจนะ (ฮีบรู4:12 ยอห์น1:1,4,5)
ลองไปอ่านใน 2 คร10:4-5 ดูนะ
วันนี้บทเฝ้าเดี่ยวพลานุภาพ โยชูวา6:1-21 ก็ถามว่าทำไมให้เรามีเวลาเงียบ ไม่ส่งเสียง เพราะพระเจ้ากำลังกระทำการแทนเรา
อยากรู้เรื่องมากกว่านี้ ขอแนะนำให้ไปหาหนังสือ พระวจนะ พระนาม พระโลหิต โดย จอยซ์ ไมเออร์ ดูนะ อ่านแล้วนั่งไม่ลง(ฝ่ายวิญญาณ) มันตื่นเต้นเต็มล้นนะค่ะ ขอบอก ขอบอก
ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับ เจ้าหนอนยาโคบ ที่ส่งมาให้อ่านนะ รักทุกคนเลย
หนังสือแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ซึ่งผู้เชื่อจะขาดเสียมิได้คือ การพึ่งพา พระวจนะ พระนาม พระโลหิต…ขณะนี้ฉันอ่านจบไปเพียงส่วนเดียวคือ “พระวจนะ”
ยิ่งอ่านก็ยิ่งค้นพบความมหัศจรรย์ล้ำลึกแห่งพระคำมากขึ้น และรักที่จะอ่านและดื่มด่ำกับพระคัมภีร์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ฉันอธิษฐานขอพระเจ้าตามที่กล่าวไว้ใน 2 ทธ .2:15 เสมอ [2 ทธ.2:15] จงอุตส่าห์สำแดงตนว่าได้ทรงพิสูจน์แล้วเป็นคนงานที่ไม่ต้องอาย ใช้พระวจนะแห่งความจริงอย่างถูกต้อง ทั้งยังต้องขอพระเมตตาจากพระครู พระวิญญาณ ให้มาสอนพระคำแก่ฉัน [สดด.119:18] ขอเบิกตาข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะเห็นสิ่งมหัศจรรย์จากพระธรรมของพระองค์ เพราะปัญญาของฉันนั้น จำกัดจริงๆ
บ้างก็เรียกพระคัมภีร์ว่า “จดหมายรักจากพระเจ้า” บ้างก็เรียก “หนังสือแห่งชีวิต” บ้างก็เรียก “แผนที่ชีวิต” บ้างก็เรียก “พระคำ” บ้างก็เรียก “พระวาทะ” บ้างก็เรียก “พระวจนะ” อย่างไรก็ตาม คำที่ใช้เรียกขานคงมิสำคัญหรือดังไปกว่าการน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะพระคัมภีร์เขียนขึ้นโดยพระวิญญาณ [2คร.3:3] ท่านปรากฏเป็นหนังสือของพระคริสต์ ซึ่งเราได้เขียนไว้มิใช่ด้วยน้ำหมึก แต่ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ และมิได้เขียนไว้ที่แผ่นศิลา แต่เขียนไว้ที่แผ่นดวงใจมนุษย์
เมื่อฉันรักพระเจ้า ฉันก็ต้องรักพระคำของพระองค์ และใช้เวลากับพระองค์มากขึ้น ให้สมกับความรักที่พระองค์ทรงมีต่อฉัน และเพื่อเป็นการบอกรักพระองค์ และเนื่องด้วยความจำกัดของมนุษย์ ฉันก็อาจจะรักพระเจ้าน้อยเกินไป ฉันจึงขอพระองค์เสมอที่จะทรงช่วยฉันให้รักพระองค์มากยิ่งขึ้น โดยรักพระองค์ทุกประการด้วยวิญญาณและความจริง มิใช่เลือกรักตามใจปรารถนาฝ่ายเนื้อหนังของฉัน
ฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยพูดว่า “รักพระเจ้ามาก” แต่มิได้รักพี่น้องตามแบบอย่างพระคริสต์
ฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยพูดว่า “รักพระเจ้ามาก” แต่ไม่ชอบอ่านพระคัมภีร์
ฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยพูดว่า “รักพระเจ้ามาก” แต่ไม่สัตย์ซื่อในการถวายสิบลด
ฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยพูดว่า “รักพระเจ้ามาก” แต่ไม่ชอบอธิษฐาน
ฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยพูดว่า “รักพระเจ้ามาก” แต่ไม่ชอบไปโบสถ์
ฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยพูดว่า “รักพระเจ้ามาก” แต่ยังคงพูดโกหกอยู่
แล้วก็…อีกสารพัดที่ฉันบอกว่าฉันรักพระเจ้ามาก แต่ฉันไม่ได้ทำตามน้ำพระทัยพระเจ้า ฉันเป็นคนบาปที่ทำให้พระเจ้าเสียพระทัยหลายเรื่องด้วยกัน…อย่างไรก็ตาม ฉันขอการยกโทษจากพระองค์ และพระองค์ก็ทรงอภัยให้ฉัน ให้โอกาสฉันบอกรักพระองค์
ทุกวันนี้ฉันก็ยังทำผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งจำเป็นต้องกลับใจอยู่ทุกวัน ต้องระวังระไวรอบด้าน น้อมยอมใจฟังพระเจ้า ไม่กลับไปทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก
(ฟป.2:16) จงยึดมั่นในพระวาทะแห่งชีวิต เพื่อข้าพเจ้าจะมีที่อวดในวันของพระคริสต์ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้วิ่งเปล่าๆและไม่ได้ทำงานโดยเปล่าประโยชน์ พระวจนะหนุนใจให้ฉันรับใช้พระองค์ตามของประทาน และมิใช่เพื่ออวดสิ่งใด นอกจากอวดถึงเรื่องไม้กางเขนของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสัญญาว่าสิ่งที่ผู้เชื่อได้กระทำเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์นั้น มิใช่เรื่องเปล่าประโยชน์เลย หากว่าทรงจัดเตรียมบำเหน็จบนสวรรค์ไว้ให้แล้ว
หากไม่มีพระวจนะของพระองค์ ฉันก็คงพินาศ คงไม่สามารถมานั่งหน้าแป้นคอมพิวเตอร์ได้ พระวจนะของพระองค์มีชีวิตและทรงพลานุภาพ [ฮบ.4:12] เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตายและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆแทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย
ฉันต้องเรียนรู้อย่างจริงจังต่อไปเกี่ยวกับข้อความล้ำลึกแห่งพระวจนะของพระองค์ และเพื่อที่จะใช้พระวจนะแห่งความจริงได้อย่างถูกต้อง มิใช่เพื่อประโยชน์แห่งตนเอง แต่เป็นไปโดยพระองค์และเพื่อพระองค์
ฉันพบเห็นการใช้พระวจนะของพระองค์ไปในทางที่ผิด ซึ่งทุกท่านก็ทราบดีว่า แม้แต่มารก็ยังรู้พระวจนะและใช้พระวจนะ และมารนั้นฉลาด รู้พระวจนะมากกว่าฉันเสียอีก อย่างไรก็ดี ฉันรู้ว่าฉันอ่อนแอและมีปัญญาเพียงเล็กน้อย ฉันจึงขอพึ่งองค์พระเจ้า และเชื่อว่าเมื่อพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายฉันแล้ว พระองค์ก็จะทรงกระทำให้สำเร็จทุกสิ่งตามน้ำพระทัยของพระองค์
ฉันเคยถูกผู้อื่นใช้พระวจนะของพระเจ้าต่อว่าฉัน เคยถูกผู้อื่นอธิษฐานตัดสินและกล่าวโทษฉัน ซึ่งในขณะนั้น ฉันรู้สึกท้อใจมาก พระวจนะของพระเจ้านั้นทรงพลานุภาพอย่างที่ทราบแล้ว เมื่อใช้ไปในทางหนุนใจ ก็จะก่อเกิดประโยชน์ที่ประเสริฐมหาศาล แต่เมื่อใดที่มีการนำพระวจนะของพระเจ้ามาใช้ในทางที่ผิด ใช้ตามเนื้อหนังของตน ก็จะนำมาซึ่งความสูญเสียมากมายเช่นกัน…โดยพระวจนะเช่นกันที่ทำให้ฉันเป็นไท ฉันเป็นอิสระจากการกล่าวโทษของผู้อื่น เป็นอิสระจากการถูกตัดสินโดยผู้อื่น เพราะฉันไม่สนใจคนเหล่านั้นแล้ว ฉันปฏิเสธสิ่งที่ผู้อื่นยัดเยียดให้ ฉันมีพระคริสต์เป็นที่หนึ่งในชีวิตของฉัน
อีกประการหนึ่งซึ่งพบเห็นบ่อยครั้งก็คือ การนำพระวจนะมาใช้อย่างไม่ถูกต้อง นำมาใช้ไม่หมด นำมาเพียงเศษเสี้ยวเดียว ซึ่งนำไปสู่การตีความพระวจนะเข้าข้างตนเอง เช่น หญิงสาวคนหนึ่งที่ตกหลุมรักชายหนุ่ม ในขณะที่ชายหนุ่มมิได้มีใจให้เธอแบบคนรักเลย แต่เธอก็ยังแสดงออกหลากหลายวิธีที่ค่อนข้างจะล้ำขอบเขตและเกินงามไป เช่น การโทรศัพท์หรือส่งข้อความให้ชายหนุ่มยามวิกาล การให้ของขวัญของกำนัลที่เกินความพอดี เป็นต้น ทั้งนี้ ใครตักเตือนก็ไม่ฟัง แต่กลับอ้างว่าตนเองได้ถามพระเจ้าแล้ว เธอหารู้ไม่ว่าเธอได้ใช้พระวจนะอย่างผิดบริบท นำมาแก้ต่างเพื่อตัวเองเท่านั้น เช่น พระเจ้าทรงเป็นความรัก พระองค์ทรงตรัสให้เราทั้งหลายรักกันและกัน ความรักที่สมบูรณ์ย่อมต้องแสดงออกเป็นการกระทำ จึงทำให้เธอยิ่งเข้าหาชายหนุ่มผู้นั้นในเชิงรุกมากขึ้น เธอมุ่งไขว่คว้าหาวิธีการมากมายเพื่อมัดใจชายหนุ่ม มากกว่าที่จะแสวงหาความชอบธรรมและแผ่นดินของพระเจ้าก่อน เธอหมดเปลืองเวลาไปกับการรอคอยชายหนุ่ม มากกว่ารอคอยพระเจ้า ทั้งยังนำข้อพระคัมภีร์ที่ว่า ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้สำหรับพระเจ้า มาหนุนใจตนเองให้เชื่อว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวเป็นน้ำพระทัยพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าจะทรงกระทำให้ความรักของเธอประสบความสำเร็จ เป็นต้น …ดังนั้น การนำพระวจนะมาใช้จึงต้องพึ่งพระวิญญาณล้วนๆ โดยไม่มีความคิดของเราปะปนเลย และเมื่อความคิดของเราเต็มไปด้วยพระวจนะ เราจะมีปัญหาน้อยลง…พระวจนะของพระเจ้ามีฤทธิ์เดชที่จะปลดปล่อยให้ทุกคนเป็นไทอย่างแท้จริง
ซาตานเกลียดและกลัวพระวจนะเป็นอย่างมาก เพราะพระวจนะของพระเจ้าเป็นความสว่างซึ่งมีชัยเหนือความมืด พระวจนะของพระเจ้าเป็นชีวิต และมีชัยเหนือความตาย (Joyce Meyer)
พระแสงของพระวิญญาณ คือ พระวจนะของพระเจ้าซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งสถิตอยู่ในผู้เชื่อทรงทราบดีว่าจะใช้ข้อพระคัมภีร์ตอนไหนในแต่ละสถานการณ์ การรู้จักพระวจนะจะปกป้องและช่วยให้ผู้เชื่อมีชัยชนะ จงดำเนินในความสว่าง แล้วศัตรูก็จะมองไม่เห็นว่าคุณอยู่ตรงไหน (Joyce Meyer)
ไม่เพียงแต่เราสามารถพูดพระวจนะเหนือชีวิตของเราเองเท่านั้น เรายังสามารถเป็นนักอธิษฐานวิงวอนที่เกิดผลได้ โดยการพูดและอธิษฐานตามพระวจนะของพระเจ้าเหนือชีวิตของผู้อื่น (Joyce Meyer)
การอธิษฐานตามพระวจนะเป็นศาสตราวุธฝ่ายวิญญาณที่จะช่วยให้เรามีชัยในสงครามฝ่ายวิญญาณ การอธิษฐานจะปิดประตูนรกและเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ (Joyce Meyer)
จงเรียนรู้พระวจนะของพระเจ้าและยอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ในตัวคุณกวัดแกว่งถ้อยคำนั้น หรือพระแสงของพระวิญญาณ โดยการพูด ร้องเป็นเพลงหรือภาวนาบทตอนจากพระคัมภีร์ที่คุณรู้สึกว่าพระองค์ได้บรรจุไว้ในใจของคุณ (Joyce Meyer)
[คส.3:16] จงให้พระวาทะของพระคริสต์ดำรงอยู่ในตัวท่านอย่างบริบูรณ์ จงสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น จงร้องเพลงสดุดีเพลงนมัสการ และเพลงสรรเสริญด้วยใจโมทนาขอบพระคุณพระเจ้า
อย่าลืมอ่านหนังสือเรื่อง “พระวจนะ พระนาม พระโลหิต” นะคะ
พระวจนะ พระนาม พระโลหิต B120.00





ชื่อหนังสือ พระวจนะ พระนาม พระโลหิต

สำนักพิมพ์ เฟื่องฟ้าการพิมพ์
ชื่อผู้แต่ง จอยซ์ ไมเออร์
ชื่อผู้แปล/เรียบเรียง ประพันธ์ หน่อราช
จำนวนหน้า 144 หน้า
รายละเอียดของหนังสือเล่มนี้
พระเจ้าได้ประทานศาสตราวุธที่จำเป็นแก่เราแล้ว เพื่อทำให้ซาตานอยู่ฐานะที่มันควรอยู่ นั่นคือ ผู้แพ้ ในหนังสือเล่มนี้เธอได้เผยถึงกุญแจในการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งบนพระวจนะพระเจ้า,การใช้สิทธิอำนาจในพระนามของพระเยซูอย่างถูกต้อง,และการเข้าใจถึงฤทธิ์เดชที่เรามีอยู่โดยทางพระโลหิตของพระเยซู พระเจ้าทรงประสงค์ให้คุณมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอิสระและมีเสรีภาพอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อคุณนำหลักการจากหนังสือเล่มนี้ไปใช้ คุณจะได้เรียนรู้ถึงวิธีใช้ศาตราวุธที่พระเจ้าทรงมอบให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีชีวิตในชัยชนะ

ไม่มีความคิดเห็น: