Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

พระวจนะของพระเจ้า กับ คำพูดของมนุษย์

พระวจนะของพระเจ้า กับ คำพูดของมนุษย์
วันที่ 4/2/2009
ขอบคุณพระเจ้าที่วันนี้ฉันได้อ่านเรื่องราวที่ครูแมมได้กรุณาแบ่งปันจากการไป Retreat ของ YWCA เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันจึงขอยกเรื่องราวทั้งหมดจากครูแมมมาเล่าสู่กันฟัง และอ่านต่อๆ กันไปอีกครั้งหนึ่ง…
Possible with GOD โดย อาจารย์อานุภาพ วิชิตนันทน์
Retreat YWCA 30 – 31 มกราคม 2009 คลองทรายรีสอร์ท เขาใหญ่ นครราชสีมา
***************************************************************
30 มกราคม 2009 “การคิดดี พูดดี”
สุภาษิต 4:23 “จงรักษาใจของเจ้าด้วยความระวังระไวรอบด้าน เพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ”
วัฒนธรรมในการคิด
1. เลือกความคิดบวก ทิ้งความคิดลบ สมรภูมิรบคือความคิดของเรา ถ้าเราปล่อยให้ศัตรูยึดความคิดของเรา เราแพ้ ถ้าเราควบคุมความคิดของเราได้ เราชนะ ความคิดมีผลต่อชีวิตโดยรวม ถ้าคิดลบ - ชีวิตแย่ คิดสุข - ชีวิตเป็นสุข คิดท้อ – ชีวิตท้อแท้ และความคิดของเราจดจ่ออยู่กับอะไร เราก็จะเป็นอย่างนั้น
- ความคิดมีผลต่อความสัมพันธ์ คส 3:2 จงเอาใจใส่สิ่งที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่วิ่งที่อยู่ที่แผ่นดินโลก ให้เราคิดถึงสิ่งที่อยู่เบื้องบน สิ่งที่จริง สิ่งที่น่านับถือ ฟป4:8 การจะคิดดี เราต้องฟังสิ่งที่ดี ดูสิ่งที่ดี คิดถึงพระเจ้า
***** เราต้องเลือกสังคมให้กับตัวเอง
2.กล่าวถ้อยคำที่ให้มีชีวิตนิรันดร์ ยอห์น 6:63 จิตวิญญาณเป็นที่ให้มีชีวิต ส่วนเนื้อหนังไม่มีประโยชน์อันใด ถ้อยคำซึ่งเราได้กล่าวกับท่านทั้งหลายนั้น เป็นจิตวิญญาณและเป็นชีวิต”
3. กล่าวถ้อยคำที่เป็นพระพร ประกาศพระพร เราจะเห็นพลังของการอวยพร
* สดด 115:13 “พระองค์จะทรงอำนวยพระพรแก่บรรดาผู้ที่ยำเกรงพระเจ้า ทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่”
* สดด109:17 “เขารักที่จะแช่ง ขอให้คำแช่งตกบนเขา เขาไม่ชอบการให้พร ขอพรจงห่างไกลจากเขา” (*บันทึกเพิ่ม)
30 มกราคม 2009 Possible with GOD มัทธิว 14:25 – 33 พระเยซูทรงดำเนินบนทะเล
- เมื่อเราพยายามทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เราคิดถึงพันธสัญญาของพระเจ้า
- พระเจ้าทรงกระทำสิ่งที่เป็นไปไม่ ให้เป็นไปได้ พระเจ้าทรงให้คนเล็กน้อยเป็นคนยิ่งใหญ่
- พระเจ้าทรงรักษาคนป่วยให้หาย คนตายให้ฟื้น พระเจ้าทรงให้คนบาปรับความรอด
กฎ 4 ประการ สำหรับทุกสิ่งเป็นไปได้สำหรับพระเจ้า
1. อย่าปรึกษาคนที่ไม่มีความเชื่อ ให้ปรึกษาคนที่มีความเชื่อในเรื่องนั้น ๆ
2. อย่าพยายามทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ โดยพึ่งกำลังของตนเอง ให้เราทำเมื่อพระเยซูสั่ง …มาเถิด
3. อย่าได้แต่นั่งอยู่ในเรือ ก้าวออกจากเรือด้วยความเชื่อ มีก้าวที่ 1 จะมีก้าวที่ 2 ตามมา
4. อย่ามองที่สถานการณ์ แต่จงเพ่งมองที่พระเจ้า (…แต่เมื่อเขาเห็นลมพัดแรงก็กลัว)
เราจะขาดสันติสุข
• เมื่อเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น รถติด อยากมีลูก อยากมีคู่พระพร
• เมื่อเราอยู่ใกล้คนที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ การพยายามเปลี่ยนคนอื่น
• เมื่อมีปัญหาที่เราไม่สามารถหาคำอธิบายได้ ไม่เข้าใจ
ยอห์น 14:27 พระเยซูตรัสว่า “เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตก และอย่ากลัวเลย”
ทำอย่างไรให้มีสันติสุขในใจ
• ยอมรับสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ การวิตกกังวลทำให้ขาดสันติสุข การรู้สึกผิด สงสารตนเอง บางครั้งความทุกข์เกิดขึ้นเพราะเราเรียกร้องคำอธิบาย พระเจ้าไม่ได้เป็นหนี้คำอธิบายของเรา และแม้พระองค์อธิบายเราก็ไม่เข้าใจ หรือแม้มีคำอธิบาย ก็ไม่เกิดสันติสุข ให้เราเข้าสู่การประทับอยู่ของพระเจ้าในชีวิตเรา มีบางคนที่รักเรา พระเจ้าอยู่กับเราตลอดเวลา เมื่อโยบสูญเสียลูก ทรัพย์สมบัติ เป็นโรคร้ายแรง ถูกภรรยาสบประมาท ไม่มีคำตอบจากพระเจ้า พระองค์ทรงทดสอบ โยบ หาคำอธิบายไม่ได้ พระเจ้าเงียบถึง 37 บท
• ไว้วางใจในความรัก ความห่วงใยของพระเจ้า อสย 26:3 “ใจแน่วแน่นั้น พระองค์ทรงรักษาไว้ในศานติภาพอันสมบูรณ์ เพราะเขาวางใจในพระองค์ สภษ3:5-6 “จงวางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจของเจ้าและอย่าพึ่งพาความรอบรู้ของตนเอง จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้าและพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น”
ปัญหาเกิดจาก เราอยู่ในโลกที่มีปัญหา เรามีศัตรูคือซาตานที่จ้องทำลาย เราตัดสินใจผิดพลาด
ฟป 4:6-7 “อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใด ๆ แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์”
• ยอมจำนนต่อการควบคุมของพระเจ้า ตัวเราเองคือปัญหาที่ต่อสู้กับพระเจ้า เราทำสงครามกับพระเจ้า พระเจ้าให้เรามีข้อจำกัดในตนเอง เพื่อเราจะยอมจำนนกับพระเจ้า
โรม5:1 “เหตุฉะนั้น เมื่อเราได้เป็นคนชอบธรรมเพราะความเชื่อแล้ว เราจึงมีสันติสุขในพระเจ้าทางพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา”
ประทุม ชัยอักษรเวช
3 กุมภาพันธ์ 2009
เรื่องราวดังกล่าวข้างต้น ทำให้ฉันต้องกลับไปอ่านทบทวนอีกครั้ง และอีกครั้ง และขอบพระคุณพระเจ้าเป็นที่สุดที่พระองค์ทรงเมตตาฉัน ทรงเป็นความช่วยเหลือที่พร้อมเสมอในยามยากลำบาก
ในช่วงวันหรือสองวันนี้ ฉันตกอยู่ในสมรภูมิความคิดที่ไม่อาจชนะได้โดยลำพัง ความเย่อหยิ่งถือดีปิดบังตาใจของฉันไว้ ทำให้ฉันเข้าใจไปเองว่าฉันยอมพระเจ้าแล้วทุกสิ่ง ยอมพระองค์แล้วทุกอย่างจริงๆ แต่เมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นมา และนิ่งใคร่ครวญดู จึงพบว่า ฉันยังไม่ได้ยอมพระเจ้าจริงๆ ยังไม่ได้นำความคิดทุกประการให้ถึงใต้บังคับจนยอมรับฟังพระคริสต์ ฉันยังคงวางแผน ตั้งเป้าหมายโดยกำลังของฉัน ทั้งยังบังคับให้พระเจ้าอวยพรตามที่ใจของฉันปรารถนาอีกด้วย…ขอบคุณพระเจ้า เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ก็ต้องรีบกลับใจโดยพลัน ขอรับพระคุณของพระองค์ ขอรับการเปลี่ยนแปลงโดยพระองค์ ขอทรงขจัดสัตว์ทุ่งออกไปจากจิตใจของฉัน ขอพระองค์เป็นผู้เดียวที่จะครอบครองความคิดของฉัน…ขอบคุณพระเจ้า เหตุการณ์นี้จบลงด้วยชัยชนะที่ถวายเกียรติแด่พระองค์ แต่ในขณะเดียวกันฉันก็ทูลขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะทรงทำให้ดวงตาของฉันกระจ่างแจ้งโดยทันที หากฉันเดินพลาดไปจากน้ำพระทัยของพระองค์
มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ฉันยังไม่หลุดพ้น มันยังเป็นบ่วงมารที่วนเวียนลัก ฆ่า ทำลาย และกัดกินฉันอยู่ คือ เรื่องคำพูดของผู้อื่น การตัดสินหรือพิพากษาที่ผู้อื่นยัดเยียดให้ฉัน ประสบการณ์ที่ฉันพบเจอนั้น ฉันไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของทุกคนหรอก แต่มีบางคนเท่านั้น ที่คำพูดของเขากระทบกับจิตใจของฉันมาก หัวใจฉันโอนไปเอนมา ซัดไปเซมา หันไปเหมาตามคำพูดของเขา โอ้! ช่างเป็นบาปที่ไม่น่าให้อภัยเสียจริง…ฉันได้ลืมไปแล้วว่าพระเจ้าทรงเป็นพระผู้สร้างฉัน ทรงไถ่ฉันไว้แล้วด้วยโลหิตประเสริฐของพระเยซู ทรงปกฉันไว้ด้วยความรักและพระสิริแห่งพระนามของพระองค์ ทรงให้ฉันเติบโตภายใต้การทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยพระวจนะอันทรงฤทธิ์ของพระองค์ พระองค์ทรงสร้างฉัน เป็นเจ้าของฉัน เป็นเพียงผู้เดียวที่มีสิทธิ์เหนือชีวิตจิตใจของฉัน…ความเชื่อและความไว้วางใจของฉันหายไปไหนหรือนี่
ฉันแก้ปัญหาโดยวิธีการวิ่งหนี ด้วยการหลีกเลี่ยงไม่พบปะพูดคุยกับบุคคลผู้นั้น ผู้ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้ฉันผ่านทางคำพูดตัดสินและพิพากษาของเขา ผู้ที่สร้างความกดดันด้วยการบีบบังคับฉัน อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงรักฉันเกินกว่าที่จะให้ฉันแบกแอกแห่งความทุกข์นี้ไว้เนิ่นนาน ทรงปรารถนาที่จะประทานสันติภาพอันบริบูรณ์ให้กับฉัน ทรงฉุดฉันขึ้นจากหลุมเลนตมอันน่าสลด และวางเท้าฉันไว้บนศิลาอันมั่นคง พระองค์นำการรักษาและการเล้าโลมใจมาให้ฉัน
เมื่อได้อ่านสิ่งที่ครูแมมแบ่งปัน ก็มีเรม่าที่แตะต้องจิตวิญญาณของฉัน คือวัฒนธรรมทางความคิด ฉันต้องปรับความคิดของตนเอง ใคร่ครวญตามที่พระเจ้าบัญญัติไว้ มิใช่คิดตามคำพูดของมนุษย์ [ฟป.4:8 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ในที่สุดนี้ขอจงใคร่ครวญถึงสิ่งที่จริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ทรงคุณ คือถ้ามีสิ่งใดที่ล้ำเลิศ สิ่งใดที่ควรแก่การสรรเสริญ ก็ขอจงใคร่ครวญดู] สิ่งนี้ทำให้ฉันระลึกถึงเมื่อครั้งที่พี่ลี่แบ่งปันว่า ได้ตั้งตัวเองตายต่อโลก คือ ไม่ดีใจเมื่อมีคนยกย่องชมเชย และไม่เสียใจเมื่อมีคนวิจารณ์ก่นด่า ฉันต้องกลับใจอีกครั้ง พร้อมทั้งนำความคิดและหัวใจของตนเองจดจ่ออยู่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงองค์เดียว และพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้นที่จะทรงพิพากษาฉัน มิใช่มนุษย์ [1คร.4:3-4 สำหรับข้าพเจ้า การที่ท่านทั้งหลายหรือมนุษย์ผู้ใดจะวินิจฉัยตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ถึงแม้ข้าพเจ้าเองก็มิได้วินิจฉัยตัวข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าไม่รู้ว่าข้าพเจ้ามีความผิดสถานใด ถึงกระนั้นข้าพเจ้าก็ไม่พ้นการพิพากษา ท่านผู้ทรงพิพากษาตัวข้าพเจ้าคือองค์พระผู้เป็นเจ้า]
ความบาปอีกประการที่ฉันต้องรีบกลับใจโดยด่วน ก็คือ การที่ฉันตีค่าราคาพระวจนะของพระองค์ต่ำกว่าคำพูดของมนุษย์ ช่างเป็นความบาปผิดที่ร้ายแรงจนไม่อาจให้อภัยได้ แต่ก็โดยพระคุณอีกนั่นแหละที่ทรงโปรดปรานให้ฉันเป็นลูกที่รักของพระองค์อีกครั้ง ฉันตระหนักแน่ในหัวใจว่าฤทธิ์ของบาปอันนำไปสู่ความเจ็บป่วยฝ่ายวิญญาณ จนถึงขาดสันติสุขนั้น แท้จริงมันฝังอยู่ในมนุษย์เราแต่ละคนตั้งแต่เกิดจากครรภ์มารดา แต่เพราะพระคุณของพระเจ้าเท่านั้นที่จะแก้ฤทธิ์ของบาปนี้ได้ และพระเยซูคริสต์เท่านั้นที่เป็นทางผ่าน เป็นทางเดียว เป็นทางนั้น และเป็นความจริง โดยรอยแผลเฆี่ยน โดยรอยตะปู โดยโลหิตประเสริฐ โดยไม้กางเขนนั้น ฉันจึงได้รับการรักษาให้หาย รับการกู้ไถ่ด้วยปากและด้วยใจของฉัน ฉันขอรับการเปลียนแปลงใหม่ จากคนที่ใส่ใจต่อคำพูดของมนุษย์มากเกินไป ก็ต้องเปลี่ยนเป็นให้พระเจ้าเป็นที่หนึ่ง ยกชูพระวจนะของพระองค์เหนือชีวิต รับการช่วยกู้จากพระองค์ [สดุดี 107 : 20 พระองค์ทรงใช้พระวจนะของพระองค์ไปรักษาเขา และทรงช่วยกู้เขาจากหลุมของเขา]

ไม่มีความคิดเห็น: