Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เพราะเธอ…น้ำเต้าหู้

เพราะเธอ…น้ำเต้าหู้
วันที่ 20/2/2009
เช้าวันพุธที่ผ่านมาฉันมีความสุขเป็นที่สุด โอ้ลั่นล้าออกจากบ้านมาเจอร้านน้ำเต้าหู้ ซึ่งก็นึกในใจเหมือนกันว่าน้ำเต้าหู้ร้านนี้จะสะอาดหรือเปล่านะ ไปซื้อเจ้าอื่นดีกว่ามั้ง แต่ อ่ะ อ่ะ ไม่ได้นะ เพราะมีร้านเดียวแถวนั้น เอาน่า ซื้อไปดีกว่า…เช้านั้นจึงได้น้ำเต้าหู้มาสมใจ แต่ได้กินอีกทีก็ช่วงบ่ายแล้ว พอกินไปสักพักอาการแบบว่า เอ่อ ท้องเสีย ก็กำเริบ จากนั้นก็เข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น เพื่อนบางคนรู้ว่าฉันท้องเสียก็ดีใจ เอ้ย! ก็หัวเราะ เพราะเขาเห็นเป็นเรื่องขำๆ ท้องเสียเดี๋ยวก็หาย แต่คนที่มีอาการท้องเสียนี่สิ ไม่สนุกด้วยเลย พอพี่อิ๋วรู้ว่าฉันท้องเสียก็ถามสาเหตุ จนได้รู้ว่าเป็นเพราะเจ้าน้ำเต้าหู้นั่นแหละ ซื้อมาแต่เช้าแล้วไม่ได้แช่ตู้เย็น แล้วเมืองไทยอากาศร้อน ที่ Office เองก็ไม่ได้เย็นฉ่ำชื่นจิต เจ้าแบคทีเรียทั้งหลายเลยออกมาเริงร่าในน้ำเต้าหู้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจึงกลายเป็นศัตรูที่ต้องกำจัด เป็นเหตุให้ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ฉะนี้แล
ผู้เชี่ยวชาญด้านการกินน้ำเต้าหู้ก็เริ่มสาธยายว่า น้ำเต้าหู้แต่ละร้านไม่เหมือนกัน เราไม่รู้ว่าเขาทำตั้งแต่เมื่อไร ถ้าซื้อมาตอนเช้าแล้วยังไม่ได้กิน ก็ควรนำเข้าตู้เย็น (จริงๆ ก็กะแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่าตอนซื้อมายังร้อนอยู่ เลยไม่ได้เอาเข้าตู้เย็น และมารู้ตัวอีกทีก็เที่ยงซะแล้ว…แฮะ แฮะ ลืมจ๊ะ) และน้ำเต้าหู้ก็ควรจะกินวันต่อวัน ไม่ควรค้างคืน มิเช่นนั้นมันจะสูญเสียคุณค่าทางอาหาร และจะบูดได้…จ้า ทราบแล้วเปลี่ยน (พฤติกรรม)
เย็นวันนั้นจึงต้องรีบกลับบ้านโดยด่วน ไม่สามารถอยู่ Office อีกต่อไปได้ เพราะเพลียมาก ต้องรีบเข้านอนโดยด่วนเช่นกัน…เมื่อตื่นเช้ามาก็ยิ่งเพลียหนักขึ้นไปอีก แต่ก็ต้องบังคับตนเองให้ลุกขึ้นมา เพราะงานเยอะเหลือเกิน หยุดไม่ได้เด็ดขาด
วันนี้วันศุกร์แล้ว แต่อาการเพลียยังคงอยู่ต่อเนื่อง ทำให้ยิ่งระลึกถึงคำเตือนสติในพระคัมภีร์ พระเจ้าทรงสั่งสอนและตักเตือนเราไว้มากมาย
พระเจ้าทรงสอนให้เราระวังระไวอยู่เสมอ [1ปต.5:8 ท่านทั้งหลายจงสงบใจจงระวังระไวให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงห์คำรามเที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้] หากกินโดยไม่ระวังก็เป็นช่องให้มารซาตานโจมตีเอาได้
ทรงสอนให้เราฉลาด [มธ.10:16 "ดูเถิด เราใช้พวกท่านไปดุจแกะอยู่ท่ามกลางหมาป่า เหตุฉะนั้นจงฉลาดเหมือนงู และไม่มีภัยเหมือนนกพิราบ] เราต้องฉลาดและอ่อนโยนในทุกจังหวะชีวิต
ทรงสอนให้เราเป็นคนดีรอบคอบ [มธ.5:48 เหตุฉะนี้ท่านทั้งหลายจงเป็นคนดีรอบคอบ เหมือนอย่างพระบิดาของท่าน ผู้ทรงสถิตในสวรรค์เป็นผู้ดีรอบคอบ]

ทรงสอนให้เรากินและดื่มโดยถวายเกียรติแด่พระเจ้า [1คร.10:31 เหตุฉะนั้นเมื่อท่านจะรับประทานจะดื่ม หรือจะทำอะไรก็ตาม จงกระทำเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า]
ทรงสอนให้เราดูแลร่างกาย ดูแลวิหารของพระองค์ [1คร.3:16-17 ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านเป็นวิหารของพระเจ้า และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในท่าน ถ้าผู้ใดทำลายวิหารของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำลายผู้นั้น เพราะวิหารของพระเจ้าเป็นที่บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ และท่านทั้งหลายเป็นวิหารนั้น]
และอีกสารพัดที่พระองค์ทรงสอน แต่ฉันสิ กลับละเลยซะได้ คิดแค่ว่า มันจะเสียหรือเปล่านะ เมื่อดมกลิ่นดูก็ปกติดีนี่ อธิษฐานแล้วก็กินสบายใจเฉิบ มารู้ตัวอีกทีก็… ก็จู๊ด จู๊ด ไง
พี่น้องขา อย่าเป็นอย่างฉันนะคะ จะกินจะดื่มอะไรก็กรุณาชวนด้วย เอ้ย! แหะ แหะ เห็นแก่กินอีกแล้ว…หากจะกินดื่มอะไรก็คำนึงคุณประโยชน์และความสะอาดด้วยนะคะ และที่สำคัญคือ ราคาต้องเหมาะสมด้วยนา
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น คือ การดื่มกินที่ไม่มีวันเกิดผลร้าย การดื่มกินที่มีแต่ความบริสุทธิ์ ก็คือการดื่มกินพระคำของพระเจ้า พระวจนะของพระองค์
มธ.4:4 ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า "มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า "มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำ ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น: