Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

หวังใจ

วันที่ 26/1/2010

“สาธุการแด่พระเจ้าพระบิดาแห่งพระเยซูคริสตเจ้าของเรา ผู้ได้ทรงพระมหากรุณาแก่เรา ทรงโปรดให้เราบังเกิดใหม่ เข้าสู่ความหวังใจอันมีชีวิตอยู่ โดยการคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์” (1 ปต.1:3)

ฉันเคยผิดหวังเสียใจและนึกตำหนิกับบรรดาผู้นำคริสตจักร ผู้สอนพระคัมภีร์ ตลอดจนผู้รับใช้พระเจ้าจำนวนมาก ทั้งๆ ที่บางคนนั้น ฉันก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว เพียงแต่ได้ยินและรับทราบเรื่องราวความผิดพลาดของพวกเขาเท่านั้น

ตรงกันข้าม ฉันไม่เคยผิดหวังหรือนึกตำหนิในการกระทำเดียวกัน ลักษณะเดียวกัน หากเกิดขึ้นในคนทั่วไป ทำให้ต้องกลับมาถามตัวเองว่า เป็นเพราะเหตุใดกันแน่…และก็ได้คำตอบว่า ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นเกี่ยวข้องกับการคาดหวัง เมื่อเราคาดหวังกับผู้คนหรือสถานการณ์ใดแล้ว แต่ผู้คนหรือสถานการณ์นั้นไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังหรือคิดไว้ จึงนำมาซึ่งความผิดหวัง…เมื่อคาดหวังมาก ก็ผิดหวังมาก เมื่อคาดหวังน้อย ก็ผิดหวังน้อย เมื่อไม่คาดหวัง ก็ไม่ต้องผิดหวัง

ความผิดหวังนำมาซึ่งความเสียใจ เมื่อเสียใจมาก ดวงใจก็แตกสลาย ไม่มีสันติสุขทั้งภายนอกและภายใน [สภษ.15:13 ใจที่ยินดีกระทำให้ใบหน้าร่าเริง แต่โดยความเสียใจดวงจิตก็สลายลง] ฉันไม่ชอบอยู่กับความเสียใจ ฉันจึงพยายามอย่างมากที่ผ่านพ้นช่วงเลวร้ายนั้นไปให้ได้ บ่อยครั้งที่ฉันร้องไห้ออกมา และฉันก็บ่นด้วย (การบ่นไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องนะคะ โปรดอย่าเลียนแบบ) พระเจ้าไม่ชอบคนบ่น เพราะนั่นหมายถึงการไม่วางใจ แต่พระองค์ทรงปรารถนาให้เราระบายความในใจต่อพระองค์ [สดด.62:8 ประชาชนเอ๋ย จงวางใจในพระองค์ตลอดเวลา จงระบายความในใจของท่านต่อพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา]

อย่างไรก็ดี ความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้าก็มีประโยชน์ กระทำให้เกิดความกระตือรือร้น ขวนขวายที่จะแก้ตัวใหม่ [2คร.7:10 เพราะว่าความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้า ย่อมกระทำให้กลับใจใหม่ ซึ่งนำไปถึงความรอดและไม่เป็นที่น่าเสียใจ แต่ความเสียใจอย่างโลกนั้นย่อมนำไปถึงความตาย]

แน่นอนว่ามีหลายวิธีในการรับมือกับความเสียใจ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและสถานการณ์ เพียงแต่ฉันขอแบ่งปันวิธีการรับมือกับความเสียใจในผู้คนและสถานการณ์ที่ไม่เป็นไปดังที่คาดหมายไว้ ดังนี้

1.สารภาพบาปต่อพระองค์ ที่มีใจนึกตำหนิ และคิดล้ำหน้าพระเจ้า ขอการยกโทษและชำระใจจากพระองค์ ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะไปตำหนิผู้อื่น หรือคาดหวังจนเกินความจำเป็น [สดด.51:10 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสร้างใจสะอาดภายในข้าพระองค์และฟื้นน้ำใจที่หนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์]
2.อธิษฐานอวยพรผู้คนและสถานการณ์ที่ทำให้เราเสียใจ
3.เปลี่ยนจากคาดหวังเป็นหวังใจ [รม.5:5 และความหวังใจมิได้ทำให้เกิดความเสียใจเพราะผิดหวัง เพราะเหตุว่าความรักของพระเจ้าได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเรา โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว]
4.มีความอดทนเพื่อให้เกิดความหวังใจ [รม.5:4 และความอดทนทำให้เห็นว่าเราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้ และการที่เราเห็นเช่นนั้นทำให้เกิดมีความหวังใจ]
5.หวังใจในพระเจ้า มิใช่คาดหวังในมนุษย์ [สดด.33:22 ข้าแต่พระเจ้า ขอความรักมั่นคงของพระองค์ จงอยู่เหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย ตามที่ข้าพระองค์หวังใจในพระองค์] พระเจ้าไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ในขณะที่มนุษย์อาจทำให้เราผิดหวังได้
6.รอคอยพระเจ้า [พคค.3:26 เป็นการดีที่จะหวังใจและรอคอย ความรอดจากพระเจ้า] ปลูกความเชื่อที่มีต่อพระเจ้าผู้ทรงไม่ประจักษ์แก่ตา [รม.8:24-25 เหตุว่าเราทั้งหลายรอดแม้เป็นเพียงความหวังใจ แต่ความหวังใจในสิ่งที่เราเห็นได้ หาเป็นความหวังใจไม่ ด้วยว่าใครเล่าจะยังหวังในสิ่งที่เขาเห็น แต่ถ้าเราทั้งหลายคอยหวังใจในสิ่งที่เรายังไม่ได้เห็น เราจึงมีความเพียรคอยสิ่งนั้น]
7.ทำงานอย่างเต็มกำลัง ท้อได้แต่ไม่ถอย [1ทธ.4:10 เหตุที่เราตรากตรำทำงานและทนสู้ ก็เพราะว่าเรามีความหวังใจในพระเจ้าผู้ดำรงพระชนม์ พระผู้ช่วยให้รอดของคนทั้งปวง โดยเฉพาะของผู้ที่เชื่อในพระองค์]

พระเจ้าตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ เพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า” (ยรม.29:11)

ไม่มีความคิดเห็น: