วันที่ 16/4/2011
เหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่นทำให้คนทั่วโลกได้ทึ่งกับคุณภาพประชากรของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งฉันจะไม่กล่าวซ้ำอีกในที่นี้ แต่สิ่งที่ประทับใจอีกประการและอดจะแบ่งปันไม่ได้คือ การที่คนงานจำนวนหนึ่งต้องกลับไปทำงานในเขตกัมมันตภาพรังสีต่อไปอีกเป็นแรมปี และสิ่งหนึ่งที่พวกเขาทำ คือ การนำเซลล์เม็ดเลือดไปฝากไว้ที่โรงพยาบาล ก่อนที่จะเข้าไปทำงาน เพื่อว่าเมื่อเขาต้องเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวขึ้นมาละก็ เซลล์เม็ดเลือดที่ฝากไว้ก็จะนำมารักษาตัวเองได้!
ทึ่งไหมละคะ ทั้งๆ ที่รู้ว่าอันตรายมาก ก็ยอมเสี่ยงชีวิตเข้าไปทำงาน ด้วยตระหนักในหน้าที่และความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและต่อสังคม
อดไม่ได้ที่จะนึกถึงอาจารย์เปาโล ซึ่งแม้รู้ว่ามีความทุกข์และอันตรายรออยู่ข้างหน้า ท่านก็ยินดีที่จะเดินทางไปประกาศข่าวประเสริฐกับชาวต่างชาติ
ท่านอิสยาห์ ยังคงประกาศ เพราะพระเจ้าบอกให้ประกาศ แม้ว่าประชาชนฟังแล้วฟังเล่าแต่ไม่เข้าใจก็ตาม
ท่านเยเรมีย์ ทำเรื่องประหลาดหลายอย่างด้วยความเต็มใจ เพราะพระเจ้ารับสั่ง…ถ้าพระเจ้าสั่งให้ฉันทำเรื่องประหลาด ฉันคงเป็นคนหนึ่งแหละที่อาจจะบอกว่า “ขอคิดดูก่อนนะคะพระเจ้า” แหะ แหะ ขอพระเจ้าช่วยให้ฉันกลับใจด้วย
ท่านอิสยาห์ ท่านเยเรมีย์ ท่านเอเสเคียล ผู้เผยพระวจนะที่ได้รับการตอบสนองเชิงบวกน้อยมาก ความสำเร็จของพวกเขาไม่ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนตอบสนองดีหรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับการเชื่อฟังพระเจ้า และการทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ
พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราเชื่อฟัง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด แม้เราจะไม่ชอบในสิ่งที่พระเจ้าทรงสั่งให้เราทำ อย่าให้ความรู้สึกขัดขวางการเชื่อฟังของเรา
อย่าได้ลืมการทรงเรียกอันสูงส่งของพระเจ้า ด้วยการดำเนินชีวิตมิให้ตกต่ำในความบาป ต้องประกาศและสร้างสาวก ต้องดูแลลูกแกะ เพราะเราเป็นผู้นำ พระเจ้ามอบหมายให้นำผู้อื่น แม้ต้องเสียสละความสุข ความสนุก เวลา และเงินส่วนตัว เราต้องรับผิดชอบผู้ที่ตามมา คนทั่วไปแสวงหาความสุข แต่ผู้รับใช้พระเจ้าต้องสละความสุขบนโลกนี้ เพื่อรับความสุขนิรันดร์ในแดนเบื้องบน (ขออภัยคะ จำแหล่งที่มาไม่ได้)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น