Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เกลือของโลก

วันที่ 14/6/2011

ใครชอบกินเค็มบ้างเอ่ย ยกมือขึ้น…ว้าย! ฉันคนหนึ่งแหละไม่ชอบอาหารเค็ม แต่ถ้าไม่ใส่เกลือหรือน้ำปลาเลยเนี่ย ก็จะทำให้อาหารจืดชืดไม่อร่อยนะ

สมัยเด็กเคยฟังนิทานเรื่อง “เกลือ” มีเศรษฐีคนหนึ่งประกอบอาชีพล่องเรือใหญ่ค้าขายไปตามลำน้ำต่างๆ โดยมีลูกจ้างจำนวนหนึ่งบนเรือ ซึ่งในจำนวนนี้มีสาวใช้ 2 นาง นามว่า นางเม้าท์ และ นางจันทน์ ติดสอยห้อยตามไปด้วย และก็เป็นธรรมดาในละครน้ำเน่า เอ้ย! ในนิทาน ที่ต้องมีนางเอกและก็นางร้าย ด้วยว่าทั้ง 2 นางนั้น ความสวยก็สูสีกัน ทว่า นางเม้าท์นั้นจะสวยเปรี้ยว ขี้เกียจ และขี้อิจฉา ผิดกับนางเอกของเราคือ นางจันทน์ ที่สวยเรียบร้อย ขยัน และถ่อมใจ

แน่นอนว่าเศรษฐีย่อมโปรดปรานนางจันทน์ที่อ่อนหวานน่ารัก นอกจากนั้น ยังโปรดปรานฝีมือทำกับข้าวของนางจันทน์มากกว่าฝีมือของนางเม้าท์ซะอีก ทั้งๆ ที่นางเม้าท์อุตส่าห์ไปร่ำเรียนวิชาทำกับข้าวจากอาจารย์ยิ่งยงศักดิ์มาแล้ว

นางเม้าท์ร่ำเรียนวิชาทำกับข้าวจากอาจารย์ฝีมือดี แต่ก็ยังทำกับข้าวอร่อยสู้นางจันทน์ไม่ได้ วันหนึ่ง นางเม้าท์ก็แอบดูนางจันทน์ทำกับข้าว เห็นนางจันทน์ใส่เกลือลงไปในกับข้าวทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นแกงส้ม ต้มยำ น้ำพริก ผัดผัก และอื่นๆ วันต่อมา นางเม้าท์จึงอาสาแสดงฝีมือทำกับข้าวให้ท่านเศรษฐีบ้าง ซึ่งเศรษฐีก็สนองน้ำใจเธอเป็นอย่างดี

นางเม้าท์เข้าครัว ทำกับข้าวอย่างสุดฝีมือ โดยขโมยเกลือของนางจันทน์มาใส่ในกับข้าวทุกชนิด แต่เนื่องจากต้องการให้อร่อย ชนะใจท่านเศรษฐี นางเม้าท์จึงใส่เกลือไปหลายช้อน อาหารจึงออกมาแบบสุนัขไม่รับประทาน ท่านเศรษฐีโกรธมาก จึงไล่นางเม้าท์ออก และยกนางจันทน์ขึ้นมาเป็นภรรยาเคียงข้าง…นางจันทน์นั้น นอกจากจะทำกับข้าวเก่งแล้ว ยังค้าขายเก่งด้วย เธอนำเกลือที่มีอยู่ไปขายตามเมืองท่าต่างๆ รวมทั้งทำกับข้าวและขนมมากมายออกขาย ทั้งคู่จึงเจริญขึ้นทั้งชื่อเสียงและเงินทอง

แล้วจะเล่าทำไมเนี่ย ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเราเลย…ถ้าอย่างนั้น ตามฉันมาละกัน!

เนื่องจากบ้านของฉันอยู่เขตจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตรก็เป็นมหาชัย และคราใดที่แวะเวียนไปคริสตจักรลูกอัมพวาก็จะได้เห็นนาเกลือเป็นอาณาบริเวณกว้าง เกลือเม็ดขาวกองเรียงรายราวผืนพรมอยู่ในนาสีโคลน ตัดกับฟากฟ้าสีคราม ยามใดที่ได้มองก็มีความสุขภายใน แต่ขณะเดียวกันก็ประหนึ่งว่ามองเห็นเหงื่อเม็ดโป้งของชาวนา และขอบคุณชาวนาเกลือที่ทำให้เรามีเกลือกิน เกลือเป็นสิ่งสามัญประจำบ้านที่ใครก็รู้จัก เพราะมีคุณประโยชน์อนันต์ แต่ก็มีโทษมหันต์นะคะหากใช้ปริมาณมากไป เช่น หากกินเกลือเป็นชามๆ ก็อาจต้องไปนอนอยู่ไอซียูที่รักของพยาบาลแอ๊ดเป็นแน่

ขณะเดียวกันฉันก็นึกถึงคำว่า “เราเป็นเกลือของโลก” ซึ่งเล็งว่าเกลือมีความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งในพระคัมภีร์

พระคัมภีร์กล่าวถึงเกลือไว้ในหลายมุม แสดงถึงความถาวร ความจงรักภักดี ความทนทาน ความสัตย์ซื่อ ประโยชน์ คุณค่า และการทำให้บริสุทธิ์ ทั้งยังมีการใช้เกลือในพิธีถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าอยู่เสมอ

เกลือซึ่งเป็นสิ่งสามัญประจำบ้านนี้ จึงมีประโยชน์ต่อมนุษย์ในโลก และมีคุณค่าสอดคล้องกับแผ่นดินสวรรค์ด้วย
1.ใช้เกลือปรุงอาหารและถนอมอาหาร ปรุงวาจาและถนอมวาจาให้งดงาม
หลายบ้านใช้เกลือหมักปลาร้า ทำอาหารตากแห้ง ดองอาหาร และอีกหลายประการ [โยบ 6:6 จะรับประทานสิ่งที่จืดโดยไม่ใส่เกลือได้หรือ หรือมะเขือมอญมีรสอะไรบ้าง] มิเพียงเท่านั้นเกลือยังให้ภาพของการปรุงวาจาและถนอมวาจาให้งดงามอีกด้วย เราในฐานะคริสเตียนจึงเป็นเกลือที่ช่วยปรุงความดีงามให้กับโลก [คส.4:6 จงให้วาจาของท่านประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้จักตอบให้จุใจแก่ทุกคน]

2.ใช้เกลือทำความสะอาดบาดแผล ทำความสะอาดทั่วไป รักษาโรค ปรับปรุงให้ดี
เกลือใช้ทำความสะอาดได้ดี ทั้งร่างกายภายในภายนอก รวมถึงข้าวของเครื่องใช้และบ้านเรือนของเราก็มีเกลือเป็นกลเม็ดเคล็ดไม่ลับในการดูแลรักษา ในพระคัมภีร์ให้ภาพประโยชน์จากเกลือตั้งแต่มนุษย์เกิดเลยทีเดียว [อสค.16:4 พูดถึงกำเนิดของเจ้า ในวันที่เจ้าเกิดมานั้นเขามิได้ตัดสายสะดือ และเขาก็มิได้ล้างชำระเจ้า มิได้เอาเกลือถู มิได้เอาผ้าพันเจ้าไว้]

ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้ายังทรงอนุญาตให้ใช้เกลือกระทำน้ำให้ดี [2พกษ.2:21 แล้วท่านก็ไปที่น้ำพุ โยนเกลือลงในนั้นและกล่าวว่า "พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เราได้กระทำน้ำนี้ให้ดีแล้ว ตั้งแต่นี้ไปจะไม่มีความตายหรือการแท้งลูกมาจากน้ำนี้อีก"] เช่นเดียวกับที่เราต้องเป็นเหมือนเกลือที่สร้างใจสะอาดภายในเรา เป็นศัตรูกับความบาปที่เน่าเฟะ และเราเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยจรรโลงสังคมที่ดีงาม

3.เกลือใช้เป็นปุ๋ยเพิ่มความร้อนให้กับต้นไม้
[ลก 14:34-35 "เกลือเป็นสิ่งดี แต่ถ้าแม้เกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกอย่างไรได้ จะใช้เป็นปุ๋ยใส่ดินก็ไม่ได้ จะหมักไว้กับกองมูลสัตว์ทำปุ๋ยก็ไม่ได้ แต่เขาก็ทิ้งเสียเท่านั้น ใครมีหู จงฟังเถิด”] (มธ.5:13,มก.9:50) คริสเตียนต้องเป็นเกลือที่มีรสเค็มเสมอ เหมือนปุ๋ยที่ใส่ลงไปในดินแล้วทำให้ต้นไม้เจริญงอกงาม เราก็เปรียบดังปุ๋ยนั้นที่ไม่ว่าจะไปทำอะไรอยู่ที่ไหน ก็เป็นพรนำความเจริญงดงามไปสู่ที่นั่น เพราะมีชีวิตที่เกิดผลแห่งพระวิญญาณทั้ง 9 ประการ

4.เกลือใช้ระลึกถึงพันธสัญญา
พันธสัญญาเกลือ เป็นพันธสัญญาที่พระเจ้าทรงกระทำกับชาวอิสราเอลที่ทำหน้าที่เป็นปุโรหิต สมัยนั้น อิสราเอลต้องถวายเครื่องบูชาให้กับปุโรหิต และปุโรหิตได้รับอนุญาตให้นำเครื่องบูชาเหล่านั้นไปรับประทานได้ แต่ปุโรหิตจะไม่ได้รับทศางค์จากอิสราเอล เพราะคนที่จะได้รับทศางค์จะเป็นพวกเลวี

อิสราเอลจะถวายเครื่องบูชา โดยใช้เกลือเป็นเครื่องชำระ ดังนั้น เกลือจึงเป็นความหมายว่า "ชำระ" นั่นคือ ชำระเครื่องบูชา ชำระชีวิตของเราให้บริสุทธิ์ ให้สะอาด [เลวีนิติ 2:13 "เจ้าจงปรุงบรรดาธัญญบูชาด้วยใส่เกลือ เจ้าอย่าให้เกลือแห่งพันธสัญญากับพระเจ้าของเจ้า ขาดเสียจากธัญญบูชาของเจ้า เจ้าจงถวายเกลือพร้อมกับบรรดาเครื่องบูชาของเจ้า"] มีพระคัมภีร์อีกหลายตอนที่กล่าวถึงเกลือแห่งพันธสัญญานี้ เช่น อสค.43:24, อพย.30:35, กดว.18:19 เป็นต้น

ในสมัยโบราณ เกลือเป็นเครื่องหมายของมิตรภาพระหว่างสองฝ่าย เป็นเครื่องหมายแสดงถึงความจงรักภักดีและการปกป้อง คือ สัญญาที่บ่งบอกถึงความจงรักภักดี สัตย์ซื่อมั่นคง และเป็นสัญญาที่ถาวรยืนนาน คนในตะวันออกกลางใช้คำว่า “มีเกลืออยู่ระหว่างเรา” ดังนั้น ในสมัยพระคัมภีร์ พันธสัญญาเกลือก็คือทั้งสองฝ่ายจะรักษาคำมั่นสัญญาด้วยชีวิตของเรา เช่นเดียวกับที่เราเองเทใจรับการชำระให้สะอาดโดยพระคุณ และให้คำมั่นสัญญากับพระเจ้าว่าเราจะจงรักภักดี สัตย์ซื่อมั่นคงกับกับพระองค์ เป็นเกลือของแผ่นดินโลกตามน้ำพระทัยของพระองค์ ตราบทั้งชีวิตของเรา

จริงๆ แล้ว เรื่องพันธสัญญาเกลือนี้ยังมีความลึกซึ้งจับใจอีกหลากหลายมิติ ซึ่งท่านสามารถสอบถามได้จากกูรูผู้รู้และศิษยาภิบาลของท่านนะคะ…พระเจ้าอวยพรคะ!

อ้างอิง: บทเรียนเรื่องเกลือ โดย พรสวรรค์ จิตต์แจ้ง คจ.ตรัง, http://www.followhissteps.com/web_christianstories/Sermons/foryou2009_08_16.html

ไม่มีความคิดเห็น: