Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ไฮเทคดีไหม

วันที่ 4/9/2010

วันที่ 03 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 10:17:49 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์; ข้อมูลจากประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ประจำวันที่ 3/9/2010 ระบุว่า ผลวิจัยวัยรุ่นไทยกวาดแชมป์ใช้มือถือสูงสุดในเอเชีย จ้อตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตก แถมวัยรุ่นไทยมีเพื่อนในเครือข่ายสังคมออนไลน์อันดับหนึ่ง สถิติการมีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของเด็กไทยยังสูงที่สุดในเอเชียอีกด้วย ร้อยละ 23 ของวัยรุ่นไทยบอกอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมือถือ

หากกล่าวถึงผู้ใช้ระบบออนไลน์โดยรวมในทุกเพศทุกวัย พบว่า ชาวเอเชียมีแนวโน้มการท่องเว็บเพื่อส่งอินสแตนซ์เมสเซจ ฟังเพลง ดูคลิปวีดีโอและเล่นเกมออนไลน์เป็นหลัก ขณะที่ผู้ใช้ในแดนแซมบ้าและแดนหมีขาวกลับใช้เพื่อค้นหาข้อมูลและรับ-ส่งอีเมลมากกว่า ซึ่งเป็นเป็นแบบแผนเดียวกับผู้บริโภคในประเทศพัฒนาแล้ว ผลการสำรวจชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่าแรงจูงใจของการใช้อินเตอร์เน็ตของชาวเอเชียคือ ความบันเทิง ส่วนแรงผลักดันในตลาดโตเต็มที่แล้ว คือ ธุระการงาน

ภาพผู้โดยสารบนรถโดยสารสาธารณะทั้ง รถไฟฟ้าบนดิน ใต้ดิน หรือแม้แต่รถตู้ รถเมล์ ที่เสียบหูฟังเครื่องเล่นเพลงพร้อมกดโทรศัพท์มือถืออัพเดตข้อมูลข่าวสาร เล่นเกมส์ เล่น facebook, Twitter หรือบางครั้งก็ดูทีวีชมละครออนไลน์ ดูจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาของชีวิตเมืองกรุงที่เร่งรีบ

นิวยอร์ก ไทมส์รายงานว่า สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไปแล้วสำหรับชีวิตอเมริกันชน ไม่ว่าจะใช้เพื่อติดต่อธุรกิจหรือเพื่อบรรเทาความเบื่อหน่ายก็ตาม เทคโนโลยีอาจช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้น และสร้างความบันเทิงให้มนุษย์ แต่นักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเตือนถึงผลข้างเคียงที่อาจคาดไม่ถึง โดยชี้ว่า เมื่อผู้คนทำให้สมองมีงานยุ่งอยู่ตลอดด้วยสัญญาณดิจิทัล เขากำลังสูญเสียเวลาพักผ่อนที่สำคัญต่อการเรียนรู้และจดจำข้อมูลหรือสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ
ดังนั้น เราหลบเลี่ยงจากอุปกรณ์ไฮเทค มานิ่งสงบอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้ากันดีกว่า!

นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก พบว่า เมื่อหนูทดลองพบประสบการณ์ใหม่ ๆ อาทิ สำรวจพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย สมองของพวกมันจะทำงานในรูปแบบที่ต่างออกไป แต่คลื่นสมองจะเปลี่ยนความรู้ใหม่ๆ ดังกล่าวเป็นความทรงจำแบบถาวรก็ต่อเมื่อหนูพวกนั้นหยุดพักจากการสำรวจแล้วเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ากระบวนการเรียนรู้และจดจำของคนก็มีขั้นตอนไม่ต่างกัน

ลอเรน แฟรงค์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาประจำสถานศึกษาดังกล่าวระบุว่า "เวลาพักผ่อนคือช่วงที่สมองใช้ทบทวนสิ่งที่มันได้พบเจอมาและเปลี่ยนให้เป็นความทรงจำแบบถาวร ถ้าเรากระตุ้นให้สมองต้องทำงานตลอดเวลากระบวนการเรียนรู้เช่นนั้นจะไม่เกิดขึ้น"

งานวิจัยอีกชิ้นจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนก็สอดคล้องกัน โดยพบว่า คนเราจะเรียนรู้หลังจากใช้เวลาท่ามกลางธรรมชาติได้ดีกว่าหลังจากอยู่ในสภาพแวดล้อมอึกทึกครึกโครม การศึกษาชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าการรับข้อมูลข่าวสารเข้าไปมาก ๆ ทำให้สมองอ่อนเพลียได้

โดยมาร์ค เบอร์แมน นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนกล่าวว่า "ผู้คนที่อาศัยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องฆ่าเวลา เข้าใจว่าตัวเองกำลังผ่อนคลายสมอง แต่ที่จริงแล้วพวกเขากำลังเร่งให้สมองเหนื่อยล้าขึ้นต่างหาก"

เมื่อทราบดังนี้แล้ว ก็ต้องคิดทวนกันดีๆ อีกครั้งว่า
-จะเปิด BB-Bible หรือจะเล่น BB-blackberry
-จะเปิด Faith Book หรือจะเล่น facebook
-จะพักผ่อนอย่าง “สำราญใจ” หรือจะเลือกสิ่ง “รำคาญใจ”

ขอบคุณพระเจ้า ผู้เชื่อจำนวนมากมีจุดยืน เลือกในสิ่งที่ชอบพระทัยพระเจ้า ใช้อุปกรณ์ไฮเทคอย่างเกิดประโยชน์ แต่เด็กๆ และอนุชนรุ่นใหม่นี่สิ น่าเป็นห่วงยิ่งนัก!

ไม่มีความคิดเห็น: