Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

มารดาแห่งประชาชาติ

มารดาแห่งประชาชาติ
วันที่ 04/05/2011

วันสำคัญสำหรับเดือนพฤษภาคมของอเมริกาอีกวันหนึ่งคือวันแม่ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Mother's Day ในแต่ละปีวันจะไม่ตรงกันเนื่องจากถือเอาวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมเป็นวันแม่ เช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่น โดยในปีนี้ วันแม่ตรงกับวันที่ 8 พฤษภาคม วันแม่เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแก่แม่ๆ ทั้งหลาย ซึ่งวันแม่นั้นจะมีวันที่ต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่ความหมายของมันก็เหมือนกัน

ประวัติ ว่ากันว่าวันแม่นั้นถูกกำหนดขึ้นโดยชาวอเมริกัน โดยผู้ที่พยายามเรียกร้องให้มีวันแม่ก็คือ แอนนา เอ็ม จาร์วิส คุณครูในรัฐฟิลาเดลเฟีย เธอได้ใช้เวลาเรียกร้องถึง 2 ปี จนประสบความสำเร็จใน ค.ศ. 1914 (พ.ศ. 2457) ในสมัยประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ได้มีคำสั่งให้ถือวันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และดอกไม้สำหรับวันแม่ของชาวอเมริกันก็คือดอกคาร์เนชั่น ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ให้ประดับตกแต่งบ้าน หรือประตูด้วยดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ถ้าแม่ถึงแก่กรรมไปแล้วให้ประดับด้วยดอกคาร์เนชั่นสีขาว

วันแม่ในหลายส่วนของโลก ในหลายๆ ประเทศวันแม่ได้เลียนแบบมาจากประเพณีของทางตะวันตก ซึ่งประเทศทางแถบแอฟริกันได้นำแนวคิดวันแม่มาจากพวกคนอังกฤษ ส่วนประเทศทางแถบเอเชียตะวันออก วันแม่ได้ถูกลอกเลียนแบบแนวคิดโดยตรงมาจากวันแม่ของประเทศอเมริกา ทั้งทางด้านการตลาดและการโฆษณา

คำว่าแม่ในภาษาต่างๆ โดยทั่วไปคำว่า “แม่” ในแต่ละภาษามักจะใช้อักษร “ม” เหมือนกันหมด อาทิ ในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า มาเธอร์ (Mother) ภาษาสันสกฤตจะเรียกแม่ว่า มารดา ส่วนภาษาบาลีจะเรียกแม่ว่า มาตา

ส่วนทางด้านชนชาตินั้นก็จะมีการเรียกที่ใช้ “ม” เช่นกัน โดยคนไทยจะเรียกว่า แม่ คนจีนจะเรียกว่า ม่าม๊า คนแขกจะเรียกว่า มามี๊ ส่วนคนฝรั่งเศสจะเรียกว่า มามอง
ที่มา www.panyathai.or.th


พระคริสตธรรมคัมภีร์กล่าวถึงบทบาทและความสำคัญของครอบครัว ซึ่งเล็งถึงพันธสัญญาพิเศษที่พระเจ้าทรงมีต่อบุตราบุตรีของพระองค์ หลายตอนกล่าวถึงพระเจ้าว่า ทรงเป็นพระเจ้าแห่งอับราฮัม อิคอัค และยาโคบ เพราะทั้ง 3 ท่านเป็นบรรพบุรุษของเรา เป็นบิดาของเรา เป็นบิดาแห่งบรรดาประชาชาติทั้งหลาย และพระเจ้าทรงอวยพรเชื้อสายแห่งพันธสัญญานี้

วันนี้ฉันคิดถึงมารดา 3 ท่าน ในพระคัมภีร์ ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงเลือกไว้ให้เป็นมารดาแห่งบรรดาประชาชาติทั้งปวง ซึ่งได้แก่ ซาร่าห์ เรเบคาห์ และ ราเชล

ในความเป็นมนุษย์นั้น แน่นอนว่าทุกคนจะมีความอ่อนแอบางประการ ซึ่งเราได้เห็นความอ่อนแอบางประการในมารดาทั้ง 3 ท่านนี้เช่นกัน อย่างไรก็ดี ทั้ง 3 ท่านก็ยังควรคู่ต่อบิดาแห่งประชาชาติ และคู่ควรแก่การเป็นมารดาแห่งประชาชาติอยู่นั่นเอง

นางซาร่าห์ ภรรยาของอับราฮัม มารดาของอิสอัค พระเจ้าทรงสัญญาให้อับราฮัมเป็นประชาชาติใหญ่โตและมีกำลังมาก ลูกหลานของเขาจะมากมายดุจเม็ดทรายที่ทะเลและดุจดวงดาวบนฟากฟ้า และประชาชาติทั้งหลายในโลกจะได้รับพรก็เพราะท่าน (ปฐก.18:18) อับราฮัมแต่งงานกับซาราห์เมื่อยังอาศัยอยู่ที่เออร์ เธอมีความงามดุจดังเจ้าหญิง แต่ดูเหมือนว่าซาร่าห์ไม่สามารถมีบุตรสืบทอดพระพรที่พระเจ้าสัญญาไว้ เธอจึงยกฮาการ์สาวใช้ให้อับราฮัมจนกำเนิดอิชมาเอล จนกระทั่งอับราฮัมและซาร่าห์ชรามากแล้ว ฑูตสวรรค์บอกกับท่านทั้งสองว่าซาราห์จะตั้งครรภ์ ตอนแรกเธอหัวเราะกับความคิดนี้ แต่ฑูตสวรรค์ได้ตอบเธอด้วยคำพูดที่ตราตรึงว่า “มีสิ่งใดที่อัศจรรย์เกินฤทธิ์พระเจ้าจะทำได้” (ปฐก.18:14) เมื่อถึงกำหนดเวลา อิสอัคก็บังเกิดมาเป็นทายาทแห่งพันธสัญญา…แล้วในชีวิตของคุณละ มีสิ่งใดที่อัศจรรย์เกินฤทธิ์พระเจ้าจะทำได้!

ฉันเห็นภาพของซาร่าห์เป็นสตรีที่ยำเกรงพระเจ้า พร้อมจะติดตามสามีไปทุกแห่งหน เธอต้องลำบากจากบ้านบิดาไปยังดินแดนที่ไม่รู้จักเช่นเดียวกับอับราฮัม เธอต้องอดอยากเมื่อเกิดกันดารอาหารจนกระทั่งต้องไปอาศัยอยู่ที่อียิปต์ และความทุกข์ใจอย่างสุดซึ้งสำหรับเธอก็คงหนีไม่พ้นการเป็นหมัน ด้วยว่ายุคโบราณเช่นนั้น หญิงที่ไม่สามารถให้บุตรได้จะเป็นที่เย้ยหยันน่าอดสูมากทีเดียว เธอต้องอดทนและยินยอมแม้กระทั่งยกสาวใช้ให้เป็นภรรยาของสามีตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น ความทุกข์ที่เกินบรรยายก็คงเป็นเรื่องที่อับราฮัมรับพระบัญชาให้ถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา แม้ว่าในพระคัมภีร์ไม่ได้ระบุว่าอับราฮัมเล่าเรื่องนี้ให้กับซาร่าห์ฟัง แต่ฉันก็เชื่อว่าวีรบุรุษเช่นอับราฮัมคงไม่รับพระบัญชานี้โดยไม่ได้แบ่งปันให้ซาร่าห์ฟัง ซึ่งแน่นอนว่า ซาร่าห์ย่อมยินยอมพร้อมใจกับอับราฮัมด้วยตามพระบัญชาของพระเจ้า อย่างไรก็ตาม เธอได้ลิ้มรสพระพรแห่งการเชื่อฟังร่วมกับอัมราฮัม เธอเป็นที่รักยิ่งของอับราฮัม เมื่อเธอจากไป อับราฮัมได้ซื้อถ้ำแห่งหนึ่งเพื่อฝังศพเธอด้วยความอาลัยยิ่ง“มารดาแห่งประชาชาติ”

นางเรเบคาห์ ภรรยาของอิสอัค และมารดาของเอซาวกับยาโคบ เรเบคาห์เป็นชาวฮาราน บิดาของเธอเป็นหลานอับราฮัม เมื่ออับราฮัมคิดจะหาภรรยาให้อิสอัค ก็ส่งเอลีเยเซอร์คนต้นเรือนไปที่ฮาราน คนแรกที่มาถึงบ่อน้ำตามคำอธิษฐานของเอลีเยเซอร์ก็คือ เรเบคาห์ เธอมิเพียงให้น้ำแขกแปลกหน้า แต่ยังตักน้ำให้กับอูฐด้วย คิดดูสิ อูฐน่ะกินน้ำจุมากมายแค่ไหน เธอคงเหนื่อยน่าดูทีเดียว เธอยินยอมพร้อมใจเดินทางไปคานาอันเพื่อเป็นภรรยาของชายซึ่งเธอไม่เคยพบหน้า แต่แน่นอนว่าชื่อเสียงของอับราฮัมคงเป็นที่เลื่องลือ และเธอคงรับรู้ได้ว่าพระเจ้าทรงอวยพรอับราฮัมและเชื้อสายมากเพียงใด เมื่อพระเจ้าทรงโปรดเช่นนี้แล้ว เธอจึงยินยอมพร้อมใจแต่โดยดี ทั้งที่ไม่รู้ว่าภายหน้าจะเป็นเช่นไร ขอบคุณพระเจ้า ครั้งแรกที่พบกันนั้น ทั้งอิสอัคกับเรเบคาห์ก็ตกหลุมรักกันในทันที ทั้งสองอธิษฐานขอลูกอยู่นานถึง 20 ปี เป็นความทรมานอีกประการหนึ่งของผู้เป็นแม่เช่นกัน แล้วทั้งคู่ก็ได้ฝาแฝด เอซาวกับยาโคบ และถึงแม้ว่าเรเบคาห์จะโปรดยาโคบมากกว่า เป็นตัวตั้งตัวตีให้ยาโคบหลอกบิดาเพื่อรับพร แต่ในความเป็นแม่แล้ว คงเจ็บลึกยิ่งที่รู้ว่าเอซาวจะเอาชีวิตยาโคบ ลูกของแม่ทั้งสองคนจะต้องมาเป็นศัตรูกันกระนั้นหรือ และทุกคนในครอบครัวก็ล้วนปวดร้าวจากเหตุการณ์นี้ ฉันเชื่อเป็นการส่วนตัวว่า ต่อมาภายหลังเรเบคาห์ต้องกลับใจจากเหตุการณ์ทั้งหมด และดูแลอิคอัส เอซาว ทั้งยังอธิษฐานเผื่อยาโคบตลอดชีวิตของเธอ…“มารดาแห่งประชาชาติ”

นางราเชล ลูกสาวคนสวยของลาบัน ยาโคบรับใช้ลาบัน 7 ปี โดยไม่ได้รับค่าจ้าง เพราะรักเธอ เมื่อลาบันโกงโดยให้ยาโคบสมรสกับเลอาห์ ยาโคบต้องรับใช้ลาบันต่ออีก 7 ปี เพื่อจะได้สมรสกับราเชล ราเชลต้องรอคอยคนที่เธอรักต่อไปอีก 7 ปี รวมเป็น 14 ปี เป็นความทรมานที่เห็นคนรักอยู่กับผู้หญิงที่มิใช่เธอ จนกระทั่งเมื่อได้สมรสกับยาโคบแล้ว เธอต้องรอคอยอยู่นานกว่าจะได้บุตรชายชื่อโยเซฟ ซ้ำร้ายโยเซฟกลับต้องถูกพี่ๆ ขายไปเป็นทาสที่อิยิปต์ ราเชลเสียชีวิตขณะคลอดเบนยามิน ลูกคนที่สองที่คานาอัน…ราเชลที่รัก ชีวิตเธอเผชิญกับความเจ็บปวดและอดทนรอคอยมากยิ่งทีเดียว ทว่า บำเหน็จเป็นของเธอ “มารดาแห่งประชาชาติ”

อ้างอิง: เจาะโลกพระคัมภีร์ เล่ม 2 เขียนโดย คณะผู้เชี่ยวชาญของไลออนส์ แปลโดย เฮเลน ยังก์, กนกบรรณสาร
สุขสันต์วันแม่แด่แม่ทุกคนบนโลกใบนี้ ทั้งแม่ในฝ่ายกาย และแม่ในฝ่ายวิญญาณ! พระเจ้าอวยพรค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: