Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

ในเวลาของพระเจ้า

ในเวลาของพระเจ้า
วันที่ 21/01/2010
"บีทีเอสแล่นทับ สาวแบงก์ โชคดีรอดหวิด"
เวลา 08.10 น. วันที่ 20 มกราคม 2553 เกิดเหตุระทึกขวัญกลางกรุง เมื่อนางจิราพร เกียรติชูศักดิ์ อายุ 56 ปี เป็นพนักงานธนาคารทหารไทย เกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ใกล้สถานีหมอชิต ในช่วงเวลาเดียวกับที่มีรถขบวนหนึ่งกำลังจะเข้าเทียบสถานี แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานี เห็นเหตุการณ์เข้าพอดี จึงได้ตัดสินใจกดอุปกรณ์อีเอ็มที เพื่อให้สัญญาณขบวนรถไฟ ที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็วสูง หยุดการเดินรถกระทันหัน แต่ด้วยความที่รถขบวนดังกล่าววิ่ง มาด้วยความเร็วสูง จึงไม่สามารถหยุดรถได้ทัน จึงได้วิ่งเลยไปหยุดคร่อมอยู่บนร่างของหญิงสาวโชคร้ายพอดี ทำให้สามารถรอดชีวิตไปได้อย่างหวุดหวิด ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ ของประชาชนจำนวนมาก ที่กำลังเข้ามาใช้บริการที่สถานีดังกล่าว เนื่องจากอยู่ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน

ภายหลังจากเกิดเหตุระทึกขวัญผ่านไป ทางเจ้าหน้าที่ได้สั่งหยุดเดินรถชั่วคราว และได้ลงไปให้การช่วยเหลือ นางจิราพร ซึ่งได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกเล็กน้อย ส่ง รพ.วิภาวดี และเมื่อสามารถเคลียร์เส้นทางได้เสร็จสิ้น จึงได้เปิดเดินรถตามปรกติ เมื่อเวลาประมาณ 08.45 น. ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ คาดว่า น่าจะเป็นเพราะความเร่งรีบ เพราะกำลังอยู่ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เมื่อเห็นรถกำลังจะเข้าเทียบสถานี จึงได้พยายามรีบวิ่ง เพื่อให้สามารถไปขึ้นรถได้ทัน จึงได้เกิดเบียดเสียดกับคนอื่น ๆ ที่กำลังรอขึ้นรถจนทำให้เกิดอุบัติเหตุตกลงไปดังกล่าว ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/region/59918

เมื่ออ่านข่าวนี้แล้วก็ขอบคุณพระเจ้าสำหรับหญิงผู้รอดชีวิตนั้น และก็ได้อุทาหรณ์สอนใจเป็นการส่วนตัวด้วยว่า ทุกอย่างที่เราทำนั้นควรทำอย่างเต็มกำลังโดยไม่ชักช้า แต่ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน แม้ว่าเราจะอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่เร่งรีบและต้องแข่งขันสูงของโลกใบนี้ก็ตาม การเร่งรีบเกินควรก็ก่อให้เกิดความเสียหายได้เช่นกัน เราไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมหญิงผู้นั้นจึงเร่งรีบนัก แต่จากข่าวระบุว่าเป็นเพราะชั่วโมงเร่งด่วน ดังนั้น หากหญิงผู้นั้นไม่รีบร้อนเกินไป รอรถจอดสนิทก่อนแล้วจึงก้าวเข้าไป หรืออาจต้องออกจากบ้านเร็วหน่อยเพื่อหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน ก็จะสามารถไปทำงานได้ทันเวลา ไม่ต้องเข้าไปกลิ้งอยู่ในรางรถไฟฟ้าหรือเข้าโรงพยาบาล
คริสเตียนเราก็เช่นกัน ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของเรานั้น ขอให้มอบไว้กับพระคริสต์ ให้ทุกวันเวลาอยู่ในพระองค์
พระองค์ทรงย้ำเตือนฉันในเรื่องนี้สดๆ ร้อนๆ เมื่อวานนี้เอง
“ในเวลา ในเวลาของพระเจ้า ทรงเฝ้าดู ชีวิตให้อยู่ ในน้ำพระทัย
โอ้ พระเจ้า ข้าขอมอบใจ มอบถวาย ชีวิตทั้งกาย เพื่อจะได้ อยู่ในเวลาของพระองค์”…

เพลงในเวลาผุดขึ้นมาในมโนนึกเป็นเพลงแรกยามเช้า เอ๊ะ! แต่เนื้อร้องถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่ค่อยถนัดเรื่องเพลงซะด้วยสิ แต่ก็เอาเป็นว่าเพลงนี้ประทับใจมาก เปรียบเสมือนพระวิญญาณมาย้ำเตือนให้วางใจในพระองค์ เชื่อมั่นวางใจอย่างไม่หวั่นไหว ทุกสิ่งที่คาดหวัง แผนการที่หวังใจ ทุกสิ่งที่ร้องทูล พระองค์ทรงเงี่ยพระกรรณฟัง และพระองค์จะทรงตอบเราแน่ ด้วยความรัก ความสัตย์ซื่อ และความชอบธรรมของพระองค์
บางครั้งนะ ท้องทะเลก็คำรน ท้องฟ้าก็คำราม แผ่นดินโลกก็สั่นสะท้าน ภูเขาก็สั่นสะเทือน ไม้ใหญ่ก็กวัดแกว่ง ดังนั้น หัวใจที่บอบบางน่ารักของเราก็หวั่นไหวได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรารอคอยบางสิ่งบางอย่างซึ่งร้องทูลต่อพระองค์มานานนับปี…แต่ก็เตือนตัวเองว่า อย่าหวั่นไหวใหญ่โตหรือคร้ามกลัวเลย พระเจ้าทรงอยู่กับเรา พระเจ้าทรงสถิตท่ามกลางมหานคร เราก็จะไม่โคลงเคลงย้ายไป [สดด.46:5 พระเจ้าทรงสถิตกลางพระมหานคร เธอจะไม่โคลงเคลงย้ายไป พอรุ่งอรุณพระเจ้าก็ทรงช่วยเธอไว้]
ในเวลาของพระองค์!
[สดด.69:13 ข้าแต่พระเจ้า แต่ส่วนข้าพระองค์ ข้าพระองค์อธิษฐานต่อพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ในเวลาอันเหมาะสม โดยความรักมั่นคงอันอุดมของพระองค์ ขอทรงโปรดตอบข้าพระองค์ด้วยความอุปถัมภ์อย่างวางใจได้]

ไม่มีความคิดเห็น: