Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

บทเรียนจากกีตาร์

วันที่ 31/03/2010

กีตาร์ที่จะกล่าวถึงเนี่ย ไม่ใช่กีตาร์ที่เราดีดกันเพลิดเพลินใจหรอกนะคะ แต่เป็นน้องกีตาร์ เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ที่ครอบครัวขายส้มตำอยู่ที่ตลาดน้ำศรีประวัติ นนทบุรี

ขอบพระคุณของพระเจ้า งานบุกเบิกสำหรับคริสตจักรบางใหญ่เจริญไปด้วยดี ด้วยแรงกายที่ลงไปช่วย และแรงใจในการอธิษฐานจากพี่น้องจำนวนมาก โดย ศบ.มอบหมายให้พี่ตุ๊กตาเป็นผู้นำหลักในการบุกเบิกครั้งนี้

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ฉันมีโอกาสเข้าไปตลาดน้ำศรีประวัติพร้อมกับพี่ตุ๊กตาด้วย ในวันนั้น มีเด็กซึ่งเป็นลูกพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นมาเรียนกับเรา 3 คน คือ น้องกีตาร์ น้องมีมี่ และน้องนุ่น

การสอนในวันนั้น เราก็สอนภาษาอังกฤษง่ายๆ พร้อมกับสอนร้องเพลง เด็กๆ จะสนุกกับการร้องเพลงและทำท่าประกอบ น้องมีมี่ทำท่าตามอย่างตั้งใจ แม้ว่าบางเพลงมีมี่จะร้องไม่ได้ แต่ปากเธอก็ขมุบขมิบพยายามร้องตามพี่ตุ๊กตาตลอด ส่วนน้องนุ่นนั้น เป็นเด็กเรียนเก่งคะ และตั้งใจเรียนดีมาก เธอเอาใบรายงานผลการเรียนมาโชว์ด้วย โอ้โห! ได้เกรด 4 ทุกตัวเลย แต่สำหรับน้องกีตาร์นี่สิ หลายคนบอกว่ากีตาร์เป็นออธิสติกส์ แต่พี่ตุ๊กตาเห็นว่ากีตาร์เพียงแค่สมาธิสั้นเท่านั้น กีตาร์มีปัญหาในการควบคุมการขับถ่าย และน้ำลายของเธอจะไหลตลอด คนที่บ้านจึงเหน็บผ้าเช็ดหน้าไว้ที่เสื้อให้ด้วย

ด้วยความที่สมาธิสั้น กีตาร์จึงมักทำอะไรโลดโผน และรบกวนการเรียนของเพื่อนๆ และบางครั้งก็โดนเพื่อนแกล้ง กีตาร์จึงไม่ได้ไปโรงเรียน พี่ตุ๊กตาจึงมีแนวคิดที่จะสอนแบบ Home School ให้กับกีตาร์ ด้วยความเชื่อว่าความรักจะสามารถเยียวยาทุกสิ่งได้ ขอพี่น้องอธิษฐานเผื่อด้วยนะคะ

กีตาร์เข้ากับคนง่าย แค่พบกันครั้งแรกเธอก็มาตีสนิท มากอด มาเล่น และด้วยความไร้เดียงสา น้ำลายของเธอก็ไหลตลอด เราต้องคอยบอกเรื่อยๆ ว่า “กีตาร์เช็ดน้ำลายด้วยคะ” เช็ดไปเช็ดมาก็เอามาถูที่เสื้อผ้าตัวเองบ้าง เสื้อผ้าคนสอนบ้าง ฉันเองในเวลานั้นก็รู้สึกรังเกียจน้ำลายของกีตาร์ ฉันเล่นและสอนกีตาร์ได้ แต่ฉันก็พยายามเลี่ยงน้ำลายของเธอ

วันนั้นครอบครัวของกีตาร์ไม่ได้ไปขายของ คนที่บ้านจึงพามาส่งให้เรียนกับเรา เมื่อสอนเสร็จแล้ว เราจึงไปส่งกีตาร์และมีมี่ที่หมู่บ้านชวนชื่น มีมี่เป็นเด็กฉลาดมาก เธอบอกทางกลับบ้านได้อย่างแม่นยำ ฉันทึ่งในตัวมีมี่มาก บอกตรงๆ ว่า ให้ฉันไปบ้านมีมี่อีกครั้ง ฉันก็ไปไม่ถูก

ลูกแห่งสันติสุขอยู่ที่ครอบครัวนี้ คือ คุณแนนซี่และคุณจอย คุณแนนซี่เป็นแม่ ส่วนคุณจอยเป็นลูกสะใภ้ ส่วนกีตาร์กับมีมี่อายุไล่เลี่ยกัน ประมาณ 8 ขวบ โดยมีมี่เป็นลูกหลงของคุณแนนซี่ ส่วนกีตาร์เป็นหลานของคุณแนนซี่ กล่าวคือ กีตาร์เป็นลูกของคุณจอยนั่นเอง

คุณจอยออกมาต้อนรับพวกเราหน้าบ้าน และคุยกับพวกเราพักใหญ่ แต่ภาพเบื้องหน้าทำให้ฉันกลับใจคะพี่น้อง… ฉันรังเกียจน้ำลายของกีตาร์ นั่นก็หมายถึงฉันรังเกียจกีตาร์นั่นแหละ ในขณะที่คุณจอยที่เป็นแม่ของกีตาร์นั้นเล่นกับลูก กอดลูก โดยไม่รังเกียจ กีตาร์เองก็ชอบหอมที่ร่องอกอวบๆ ของแม่ น้ำลายเธอก็กระจายเลยคะ เป็นความอบอุ่นระหว่างแม่และลูก แต่ฉันสิ กลับหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ ด้วยตระหนักในทันทีว่าตนเองมีความรักที่น้อยเหลือเกิน น้อยมากจริงๆ

อาจารย์เปาโลยอมเป็นคนทุกชนิดต่อคนทั้งปวง แต่ฉันกลับไม่ยอมแม้จะโดนเพียงน้ำลาย แล้วฉันจะช่วยผู้อื่นให้รับความรอดได้อย่างไร “[1คร.9:22]ต่อคนอ่อนแอข้าพเจ้าก็เป็นคนอ่อนแอเพื่อจะได้คนอ่อนแอ ข้าพเจ้ายอมเป็นคนทุกชนิดต่อคนทั้งปวง เพื่อจะช่วยเขาให้รอดได้บ้างโดยทุกวิถีทาง”

จะเป็นไรไป…เพียงแค่โดนน้ำลายจากความไม่ตั้งใจของเด็กไร้เดียงสา ในขณะที่พระเยซูทรงโดนถ่มน้ำลายรดหน้าด้วยอาการเหยียดหยามจากฝ่ายตรงข้าม [มธ.26:67] “แล้วเขาถ่มน้ำลายรดพระพักตร์และตีพระองค์ และบางคนเอามือตบพระองค์”

จะเป็นไรไป…เพียงแค่ฉันจะต้องซักเสื้อผ้าใหม่ ในขณะที่เสื้อผ้าของพระเยซูถูกคนยื้อแย่งแบ่งกัน [ยน.19:23-24] “ครั้นพวกทหารตรึงพระเยซูไว้ที่กางเขนแล้ว เขาทั้งหลายก็เอาฉลองพระองค์มาแบ่งออกเป็นสี่ส่วนให้ทหารคนละส่วน เว้นแต่ฉลองพระองค์ชั้นใน ฉลองพระองค์ชั้นในนั้นไม่มีตะเข็บ ทอตั้งแต่บนตลอดล่าง เหตุฉะนั้นเขาจึงปรึกษากันว่า "เราอย่าฉีกแบ่งกันเลย แต่ให้เราจับฉลากกันจะได้รู้ว่าใครจะได้" ทั้งนี้เพื่อให้เป็นจริงตามข้อพระธรรม ที่ว่า "เสื้อผ้าของข้าพระองค์ เขาก็แบ่งกัน ส่วนเสื้อของข้าพระองค์ เขาจับฉลากกัน”

จะเป็นไรไป…หากฉันจะรักเพื่อนบ้านมากขึ้น เพราะความรักนั้นไม่ได้ทำให้ฉันสูญเสียอะไรเลย แต่เป็นที่ชอบพระทัยพระทัยพระบิดา [มก.12:33] “และซึ่งจะรักพระองค์ด้วยสุดจิตใจ สุดความเข้าใจและสิ้นสุดกำลัง และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ก็ประเสริฐกว่าเครื่องเผาบูชาและของถวายทั้งสิ้น"

ฉันต้องสารภาพกลับใจอีกครั้งหนึ่งในวันนั้น พร้อมกับขอจากพระบิดาอีกครั้ง ขอเติมหัวใจให้รักเต็มล้นอยู่ภายใน สำแดงความรักอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ขอที่ฉันจะมีหัวใจรักแบบพระองค์ เพราะความรักของพระองค์นั้นประเสริฐยิ่งนัก…ขอบพระคุณพระเจ้า
[1พศด.16:34] “จงโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าเพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์”

ไม่มีความคิดเห็น: