Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

จุบอันบริสุทธิ์

วันที่ 16/6/2010

ระหว่างวันที่ 4-6/6/2010 ศบ.พงษ์ศักดิ์ นำทีมไปเยี่ยมเยียนคริสตจักรลูก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีครูแมม ยายอรุณ และพี่อิ๋วร่วมเดินทางครั้งนี้ด้วย ซึ่งการเดินทางดังกล่าวนั้นตื่นเต้น อิ่มเอมใจ และเต็มไปด้วยสันติสุขที่ฉันไม่สามารถเรียงร้อยเป็นรอยอักษรได้ทั้งหมด ฉันจึงขอเพียงบอกเล่าเรื่องราวบางส่วนออกมาเท่านั้น

เราออกเดินทางโดยรถตู้ VIP ซึ่งติดต่อโดยพี่อิ๋ว ที่บนรถนั้นเราก็มีหมอนและผ้าห่มครบครันด้วยการจัดเตรียมของครูแมม ทั้งยังมีข้าวเหนียวหมูทอดและผลไม้จากยายรุณอีกด้วย พระเจ้าทรงบังคับบัญชาพระพรท่ามกลางเราตลอดเส้นทางจริงๆ

คนขับรถตู้ชื่อน้องโจ บริการประทับใจ และเชื่อว่าน้องโจก็ประทับใจกับชีวิตคริสเตียนเช่นกัน ยายรุณก็เอ็นดูน้องโจเหมือนลูกเหมือนหลาน พี่อิ๋วนั้นตั้งใจว่าจะใช้บริการน้องโจอีก ใช้บริการจนน้องโจกลายเป็นคริสเตียนกันไปเลย เอเมน! พวกเราหลับสบายตลอดทางยามดึก ฉันเชื่อเช่นนั้น เพราะน้องโจขับรถดี ระหว่างทางมีฝนตกเป็นหย่อมๆ นำความชุ่มชื่นมาสู่เรา และฉันก็เชื่ออีกอย่างหนึ่งว่าทุกคนอธิษฐานเผื่อการขับรถของน้องโจอยู่ในใจด้วยเช่นกัน

ขอข้ามซีนไปถึงช่วงเช้าของวันเสาร์นะคะ ศบ.เล่าให้พวกเราฟังว่า ฝันเห็นชายรูปร่างค่อนข้างอ้วนผู้หนึ่งเข้ามาจุบ ซึ่งการจุบก็หมายถึงการคารวะ การให้ความเคารพอย่างสูง แม้แต่ในพระคัมภีร์ก็ระบุถึงการจุบไว้มากมาย แต่ที่โดดเด่นเข้ามาในใจฉันคือ
[1ธส.5:26 จงทักทายปราศรัยพวกพี่น้องด้วยธรรมเนียมจุบอันบริสุทธิ์]และแล้วชายผู้หนึ่งก็มาปรากฎกาย โดยเป็น 1 ในผู้เชื่อใหม่ที่กำลังจะรับบัพติศมาในวันดังกล่าว พ่อนิคมป่วยและเดินไม่ได้มา 3 ปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้คุณอ่อนตาได้ไปวางมืออธิษฐานเผื่อจนพ่อนิคมเริ่มเดินได้ และซาบซึ้งในพระคุณความรักของพระเยซูจนมอบหัวใจให้กับพระองค์ รวมถึงภรรยาของพ่อนิคมด้วย ซึ่งก็คือ แม่รำไพ นั่นเอง

ทราบแล้วใช่ไหมคะว่าชายร่างอ้วนที่มาจุบ ศบ.ในความฝันนั้น ก็คือ พ่อนิคมนั่นเอง พ่อนิคมตัวสูงใหญ่ เดินกระโผลกกระเผลกเข้ามา โดยมีศรีภรรยาคอยประคองด้วยแรงกายและแรงใจเคียงข้างมิห่าง แม่รำไพเป็นภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากกับพ่อนิคมมาตลอด ไม่ทอดทิ้งแม้เมื่อพ่อนิคมอยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แม่รำไพเสียสละอย่างมากในการหาเลี้ยงครอบครัวและดูแลสามี หลายคืนที่พ่อนิคมตื่นมากลางดึกและผลักแม่รำไพออกมา และไล่ด้วยภาษาชาวบ้านว่า “อีนี่มันเป็นใคร ออกไป!” เจ็บไหมละคะพี่น้อง คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามีมาไล่กันแบบนี้ แต่แม่รำไพก็อดทนเสมอมา ไม่ถือโทษโกรธพ่อนิคม ด้วยรู้ว่าพ่อนิคมอยู่ในภาวะป่วย…เพราะว่า ความรักยิ่งใหญ่ที่สุด!

ศบ.ได้วางมืออธิษฐานให้พ่อนิคมอีกครั้งหนึ่ง จนพ่อนิคมรู้สึกดีขึ้น หน้าตาสดใสหล่อยิ้มร่าทันที พ่อนิคมสามารถเดินได้คล่องขึ้น พี่น้องผู้เห็นเหตุการณ์ตรงนั้น ต่างปรบมือด้วยความยินดี และขอบคุณพระเจ้า…ในวันดังกล่าวมีพี่น้องเข้ารับบัพติศมารวมทั้งสิ้น 8 คน
[สดด.85:10 ความรักมั่นคงและความสัตย์สุจริตจะพบกัน ความชอบธรรมและสันติภาพจะจุบกันและกัน]

ในอีกช่วงหนึ่งของการอธิษฐาน ศบ.ได้อธิษฐานอวยพรและเจิมสมาชิกด้วยน้ำมันหอม เมื่ออธิษฐานอวยพรพ่อนิคมและแม่รำไพ ก็มีคำเผยออกมาว่า คู่อุปถัมภ์ที่พระเจ้าทรงเลือกมาให้พ่อนิคมนี้ พระองค์ทรงพอพระทัยยิ่งนัก แม่รำไพเป็นภรรยาที่ดีเลิศในแบบอย่างที่พระเจ้าทรงพอพระทัย และพระองค์ได้รับเกียรติ ศบ.อธิษฐานเผื่อพ่อนิคมเป็นพิเศษ ในระหว่างนั้น น้ำมันหอมในขวดที่ ศบ.ถืออยู่ ก็ไหลรดชโลมพ่อนิคมโดยที่ ศบ.ไม่รู้ตัว จนมีคนทักขึ้นมาว่า “อาจารย์ น้ำมันหก” ซึ่ง ศบ.ก็ยิ้มร่าเริงพร้อมกล่าวว่า “พระเจ้าทรงเจิมพ่อนิคมเป็นพิเศษ ขอบคุณพระเจ้า” มิน่าหล่ะ ครั้งนี้ ศบ.จึงนำน้ำมันหอมมา 2 ขวด ซึ่งปกติแล้ว 1 ขวด ก็สามารถใช้ได้นานทีเดียว
พ่อนิคมได้เข้ามานมัสการพระเจ้าด้วยหัวใจของท่าน ได้เข้ามาคารวะผู้รับใช้พระเจ้าด้วยธรรมเนียมจุบอันบริสุทธิ์ ส่วนแม่รำไพนั้น ก็ทำให้ฉันระลึกถึงหญิงผู้หนึ่งที่อยู่แทบพระบาทพระเยซู เธอบรรจงเช็ดพระบาทที่เปียกไปด้วยน้ำตาด้วยผมของเธอ เธอจุบพระบาทพระองค์ และเธอเอาน้ำมันราคาแพงชโลมพระองค์ [ลก.7:37-38 และดูเถิด มีผู้หญิงคนหนึ่งของเมืองนั้นเคยเป็นหญิงชั่ว เมื่อรู้ว่าพระองค์ทรงเอนพระกายเสวยอยู่ในบ้านของคนฟาริสีนั้น นางจึงถือผอบน้ำมันหอม มายืนอยู่ข้างหลังใกล้พระบาทของพระองค์ ร้องไห้น้ำตาไหลเปียกพระบาท เอาผมเช็ด จุบพระบาทของพระองค์มาก และเอาน้ำมันนั้นชโลม]

แม่รำไพได้กระทำเยี่ยงนั้น คือได้เทใจเข้ามาพบพระเยซู ได้เทแรงกายดูแลสามีซึ่งเป็นศีรษะของเธอ แม้ว่าเธอจะต้องร้องไห้ด้วยเหตุอันใดก็ตาม แต่เธอก็มาหาพระเยซูแล้ว เธอร้องไห้และระบายความในใจต่อพระองค์ เธออยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ อยู่แทบพระบาทพระองค์ เธอยอมจำนนอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์ เธอยอมที่จะเช็ดรอยเปียกแห่งน้ำตานั้นออกไป และแทนที่ด้วยจุบบริสุทธิ์แด่พระองค์ แทนที่ด้วยน้ำมันหอมราคาสูงต่อพระองค์ ความบาปผิดทั้งสิ้นของเธอพระองค์ก็ทรงโปรดยกเสียแล้ว และถูกแทนที่ด้วยพระคุณความรักของพระเจ้า

เช้าต่อมา ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ วันนมัสการพระเจ้า เมื่อพ่อนิคมลงจากรถ ก็ค่อยๆ เดินเข้ามายังพระวิหารอย่างยินดี คราวนี้ แม่รำไพไม่ต้องประคองแล้ว เพียงแต่เดินตามอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น แน่นอนว่า เราทุกคนขอบคุณพระเจ้าเป็นอย่างยิ่ง

พี่น้องที่รัก ฝากอธิษฐานเผื่อครอบครัวพ่อนิคม-แม่รำไพ ด้วยนะคะ ที่จะเติบโตในฝ่ายจิตวิญญาณ มีชีวิตที่เป็นพยาน ถวายเกียรติแด่พระเจ้า ขอการรักษาจากองค์เยโฮวาห์รัฟฟาจะอยู่เหนือชีวิตของพ่อนิคม เพื่อพ่อนิคมจะสามารถเดินได้อย่างคล่องแคล่วเป็นปกติ ขอการเสริมกำลังให้แก่แม่รำไพ ในการดูแลพ่อนิคม และในการทำมาหาเลี้ยงชีพ…แม่รำไพขายขนมตาลค่ะ บางครั้งก็ขายกับข้าว หากพระเจ้าทรงโปรดให้ฉันได้ไปเยี่ยมเยียนน้ำยืนอีกในครั้งต่อไป จะไปกินขนมตาลของแม่รำไพนะคะ และอาจได้ช่วยแม่รำไพเร่ขายขนมด้วยนะ

ด้วยรักในพระคริสต์…ที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น: