Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

คุณเป็นใคร

วันที่ 30/4/2010

เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉันที่อ่านพระธรรม 1 พงศาวดาร ด้วยความเพลิดเพลิน เพราะแต่ไหนแต่ไร เมื่ออ่านมาถึงพระธรรมเล่มนี้ เป็นอันต้องอ่านแบบผ่านตา รีบเร่งให้จบ หรือบางครั้งก็ข้ามไปเลย ไม่อ่านเอาซะดื้อๆ ก็แหม! รายชื่อเป็นกองพะเนินมากมาย น่าเวียนหัวออก

สารานุกรมวิกิพิเดีย ให้คำนิยามเกี่ยวกับพงศาวดารไว้ว่า “การบันทึกพงศาวดาร” ในภาษาอังกฤษมาจากคำว่า “Chronicle” ซึ่งแผลงมาจากภาษาลาตินว่า “chronica” จากภาษากรีก “χρονικά” ที่มาจากคำว่า “χρόνος” หรือ “chronos” หรือ “เวลา” หมายถึงการบันทึกความเป็นจริงและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ตามลำดับเวลาที่เกิดขึ้น โดยทั่วไปแล้วการบันทึกก็จะให้ความสำคัญระหว่างเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เขียนจากมุมมองของผู้บันทึก

ในแง่ของพระคริสตธรรมนั้น หนังสือพงศาวดาร เป็นหนังสือที่เรียงลำดับบุคคลวงศ์วานต่างๆ ในพระคัมภีร์ เป็นลำดับพงศ์ตั้งแต่อาดัม จนถึงอับราฮัม เรื่อยมาจนถึงยูดาห์ บุตรคนที่ 4 ของยาโคบ ซึ่งเป็นต้นวงศ์ของพระเยซู และโดยทางพระเยซูคริสต์นี่เอง เราจึงถูกนับเป็นพงศ์พันธุ์ของอับราฮัม [กท.3:29 และถ้าท่านเป็นของพระคริสต์แล้ว ท่านก็เป็นพงศ์พันธุ์ของอับราฮัม คือเป็นผู้รับมรดกตามพระสัญญา]

โอ้โห! สุดยอดไปเลยใช่ไหมคะ เรามีสิทธิพิเศษ เราเป็นทายาทร่วมกันกับพระคริสต์ เราไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย [รม.8:17 และถ้าเราทั้งหลายเป็นบุตรแล้ว เราก็เป็นทายาท คือเป็นทายาทของพระเจ้า และเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์ เมื่อเราทั้งหลายทนทุกข์ทรมานด้วยกันกับพระองค์นั้น ก็เพื่อเราทั้งหลายจะได้ศักดิ์ศรีด้วยกันกับพระองค์ด้วย]

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ฉันจะไม่อ่านรายชื่อพงศ์พันธุ์ของตนเองได้อย่างไร ฉันต้องกลับใจใหม่ อ่านรายชื่อทุกรายชื่ออีกครั้งด้วยความระมัดระวัง ด้วยความยำเกรง ด้วยความซาบซึ้งและขอบพระคุณพระบิดา

บ่อยครั้งเหมือนกันที่ฉันละเลย ดำเนินชีวิตดั่งไม่รับรู้ว่าตัวเองเป็นใครในพระคริสต์ วันนี้จึงเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ต้องกลับใจใหม่ นำเข็มขัดแห่งความจริงมาคาดเอวอีกครั้ง…คาดความจริงไว้ให้แน่น และตระหนักว่าสิ่งที่เป็นจริงเกี่ยวกับพระคริสต์ก็เป็นจริงเกี่ยวกับตัวฉันและตัวคุณด้วย

ข้อความด้านล่างต่อไปนี้ ได้มาจากพี่สาวคนหนึ่ง นานมากแล้ว คาดว่าหลายคนคงเคยได้รับแล้ว อย่างไรก็ตาม วันนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราจะคาดเอว และบินลัดฟ้าไปสู่พระทัยพระบิดาด้วยกัน

เนื่องจากคุณเป็นธรรมิกชนคนหนึ่งในพระคริสต์ตามการทรงเรียกของพระเจ้า คุณจึงมีส่วนร่วมในมรดก ของพระคริสต์ สิ่งใดที่เป็นจริงเกี่ยวกับพระคริสต์ เดี๋ยวนี้ก็มาเป็นจริงกับตัวคุณด้วย เพราะคุณอยู่ในพระคริสต์ มันเป็นเอกลักษณ์ส่วนหนึ่งของคุณ
รายการข้างล่างนี้ระบุว่า แท้จริงแล้วคุณเป็นใครในพระคริสต์โดยใช้เอกพจน์บุรุษที่ 1 คุณลักษณะโดยเฉพาะ ตามข้อพระคัมภีร์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า คุณกลายมาเป็นใครตอนบังเกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณ คุณไม่สามารถซื้อ หรือเพียรพยายามทำอะไรเพื่อให้มันมาได้ ก็เหมือนคนที่เกิดในเมืองไทย ย่อมไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายาม หรือเงินทองอะไร เพื่อซื้อสิทธิและเสรีภาพที่เขามีอยู่แล้วในฐานะถือสัญชาติไทย ธรรมนูญไทยให้การรับรองเขาเพราะเขาเกิดในเมืองไทย ทำนองเดียวกันพระวจนะ พระเจ้าก็ให้การรับรองคุณลักษณะโดยเฉพาะเหล่านี้ แก่คุณ เพียงเพราะคุณบังเกิดในชนชาติบริสุทธิ์ของพระเจ้าโดยความเชื่อในพระคริสต์ (หนุนใจให้ใส่ชื่อคุณเอง แทนคำว่าฉัน อ่านเสียงดังๆ ให้ศัตรูกระเจิง)

ฉันเป็นใคร

•ฉันเป็นเกลือของโลกนี้ (มธ. 5.13)
•ฉันเป็นความสว่างของโลกนี้ (มธ.5.14)
•ฉันเป็นลูกของพระเจ้า (ยน.1.12)
•ฉันเป็นส่วนหนึ่งของเถาองุ่นแท้ เป็นท่อให้ชีวิตพระคริสต์ผ่านออกไป (ยน.15.1,5)
•ฉันเป็นสหายของพระคริสต์ (ยน.15.15)
•พระคริสต์ทรงเลือกฉัน และแต่งตั้งฉันไว้เพื่อให้ผลของพระองค์เกิดขึ้นในชีวิตฉัน (ยน.15.16)
•ฉันเป็นทาสความชอบธรรม (รม.6.18)
•ฉันเป็นทาสพระเจ้า (รม.6.22)
•ฉันเป็นบุตรพระเจ้า พระเจ้าเป็นบิดาฝ่ายวิญญาณของฉัน (รม.8.14-15, กท.3.26; 4.6)
•ฉันเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์และมีส่วนในมรดกร่วมกับพระองค์ (รม.8.17)
•ฉันเป็นพระวิหาร-ที่ประทับ-ของพระเจ้า พระวิญญาณของพระองค์และชีวิตของพระองค์ดำรงอยู่ในฉัน (1คร.3.16;6.19)
•ฉันผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้าและมีใจเดียวกับพระองค์ (1คร.6.17)
•ฉันเป็นอวัยวะของพระกายพระคริสต์ (1คร.12.27,อฟ.5.30)
•ฉันเป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว (2คร.5.17)
•พระเจ้าทรงทำให้ฉันคืนดีกับพระองค์ทางพระคริสต์แล้ว และทรงโปรดให้ฉันช่วยคนอื่นคืนดีกับพระองค์ด้วย (2คร.5.18-19)
•ฉันเป็นบุตรของพระเจ้าร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูคริสต์ (กท.3.26,28)
•ฉันเป็นทายาทของพระเจ้า เพราะฉันเป็นบุตรของพระองค์ (กท.4.6-7)
•ฉันเป็นธรรมิกชนผู้บริสุทธิ์หมดจด (อฟ.1.1, 1คร1.2, ฟป.1.1, คส.1.2)
•ฉันเป็นฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า-ที่ทรงสร้างขึ้น-ในพระเยซูคริสต์ เพื่อให้ประกอบการดีของพระองค์ (อฟ.2.10)
•ฉันเป็นพลเมืองเดียวกันกับธรรมิกชนบริสุทธิ์คนอื่นๆในครอบครัวของพระเจ้า (อฟ.2.19)
•ฉันเป็นคนที่ถูกจำจองเพราะเห็นแก่พระเยซูคริสต์ (อฟ.3.1,4.1)
•ฉันเป็นคนชอบธรรมและบริสุทธิ์ที่แท้จริง (อฟ.4.24)
•ฉันเป็นชาวสวรรค์ และกำลังนั่งอยู่ในสวรรค์สถาน (ฟป.3.20, อฟ.2.6)
•ชีวิตฉันซ่อนอยู่กับพระคริสต์ในพระเจ้า (คส.3.4)
•ฉันเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกไว้ให้เป็นคนบริสุทธิ์ และเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงรัก (คส.3.12, 1ธส.1.4)
•ฉันเป็นลูกของความสว่าง มิใช่ลูกของความมืด (1ธส.5.5)
•ฉันเป็นชนบริสุทธิ์ที่ได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้า (ฮบ.3.1)
•ฉันเป็นคนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในชีวิตของพระคริสต์ (ฮบ.3.14)
•ฉันเป็นศิลาที่มีชีวิตก้อนหนึ่งของพระเจ้าที่กำลังถูกก่อขึ้นเป็นพระนิเวศฝ่ายวิญญาณ (1ปต.2.5)
•ฉันเป็นสมาชิกคนหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่พระองค์ทรงเลือกไว้ เป็นปุโรหิตหลวง เป็นประชาชาติบริสุทธิ์ และเป็นชนชาติของพระเจ้าโดยเฉพาะ (1ปต2.9-10)
•ฉันเป็นคนต่างด้าวต่างแดนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราว (1ปต.2.11)
•ฉันเป็นปฏิปักษ์กับมารซาตาน (1ปต.5.8)
•ฉันเป็นบุตรของพระเจ้า และเมื่อพระคริสต์เสด็จกลับมา ฉันจะเป็นเหมือนพระองค์ (1ยน.3.1-2)
•ฉันบังเกิดจากพระเจ้า และมารร้ายแตะต้องฉันไม่ได้ (1ยน.5.18)
•ฉันไม่ได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ทรงนามว่า”เราเป็น” (อพย.3.14,ยน.8.24,24,58)
•แต่ฉันเป็นอย่างที่เป็นอยู่นี้ ก็เนื่องด้วยพระคุณพระเจ้า (1คร.15.10)

ฮบ.3:14 “เพราะเรามีส่วนร่วมกับพระคริสต์ ถ้าเราเพียงแต่ยึดความไว้วางใจที่เรามีอยู่ ในตอนต้น ไว้ให้มั่นคงจนถึงที่สุด”

ไม่มีความคิดเห็น: