Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

ประกันชีวิตนิรันดร์

วันที่ 25/8/2010

ฉันมีโอกาสใช้บริการประกันภัยเป็นครั้งแรกเมื่อเร็วๆ นี้ จึงขอเล่าสู่กันฟังนะคะ แต่ก่อนอื่นขอทบทวนความหมายของคำว่าประกันภัยก่อนคะ

การประกันภัย คือ การบริหารความเสี่ยงภัยวิธีหนึ่ง ซึ่งจะโอนความเสี่ยงภัยของผู้เอาประกันภัยไปสู่บริษัทประกันภัย เมื่อเกิดความเสียหายขึ้น บริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามที่ได้รับความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องเสียเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทประกันภัยตามที่ได้ตกลงกันไว้

รูปแบบการประกันภัย แบบมาตรฐาน แบ่งออกเป็น 2 สายหลัก คือ การประกันชีวิต และการประกันวินาศภัย การประกันชีวิต (Life Insurance) หมายรวมถึง การประกันต่อความสูญเสีย เสียหายอันจะเกิดแก่บุคคล หรือ กลุ่มบุคคล โดยสัญญาจักชดเชยเมื่อมีการเสียชีวิต และอาจมีความคุ้มครองอื่น ๆ เพิ่มเติมเช่น การประกันอุบัติเหตุและสูญเสียอวัยวะ, การประกันกรณีทุพพลภาพ , หรือ การประกันสุขภาพ ส่วนการประกันวินาศภัย (Non-Life Insurance) นั้น แบ่งออกเป็นสี่ประเภท คือ การประกันอัคคีภัย, การประกันรถยนต์, การประกันทางทะเล และ การประกันเบ็ดเตล็ด

ภาครัฐไม่ได้มีกฎหมายกำหนดว่าประชาชนจะต้องทำประกันชีวิต แต่กำหนดให้รถทุกคันต้องทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พรบ.) อย่างไรก็ตาม พรบ. นั้นมีข้อจำกัด คือ คุ้มครองคน ไม่คุ้มครองรถ เหตุนี้เอง หลายคนจึงต้องซื้อประกันรถยนต์เอง เรียกว่า การประกันภัยภาคสมัครใจ โดยมีกรมธรรม์ให้เลือกทั้งแบบประเภท 1, 2 และ 3 โดยกรมธรรม์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองมากที่สุด คือ คุ้มครองคน ทรัพย์สิน รถเสียหาย รถหาย รถไฟไหม้ ส่วนกรมธรรม์ชั้น 2 นั้น ต่างกับประกันภัยชั้น 1 ตรงที่ ไม่คุ้มครองความเสียหายของตัวรถยนต์ของเรา จึงไม่เป็นที่นิยมเท่าไร แต่กรมธรรม์ชั้น 3 เป็นที่นิยมสูงสุด เพราะมีค่าเบี้ยประกันภัยถูกที่สุด แต่ให้ความคุ้มครองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอกเท่านั้น

ฉันเกริ่นซะยาวเชียว เพียงเพื่อจะเล่าให้ฟังว่าฉันได้ใช้บริการทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัยภายในสัปดาห์เดียวกัน นึกแล้วก็ยังตื่นเต้นอยู่นะเนี่ย ก็มือใหม่นี่นา จึงไปจูบก้นรถคันหน้าซะงั้น รถจึงต้องเข้าศูนย์บริการตามระเบียบ ขอบคุณพระเจ้าที่มีประกันภัยชั้นหนึ่ง จึงไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ต่อมาฉันก็เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ต้องเข้านอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล จึงได้ใช้บริการประกันสุขภาพ ซึ่งก็ต้องขอบคุณพระเจ้าอีกนั่นแหละ เพราะหากไม่มีประกันสุขภาพ ฉันก็คงต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองชนิดอ่วมอรทัย
เพื่อความอยู่ดีมีสุข ทรัพย์สินของเราจึงควรมีประกันภัย และชีวิตของเราก็ควรมีประกันชีวิต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่ความสมัครใจนะคะ ซึ่งหลายคนก็เห็นความสำคัญ ทำประกันชีวิตและประกันภัยด้วย ในขณะที่หลายคนอาจเห็นว่าไม่จำเป็น

ถึงแม้ว่าประกันชีวิตและประกันภัยจะมีประโยชน์เพียงใดก็ตามแต่ สิ่งนี้ก็ต้องมีเงื่อนไขในการจ่ายออกไป หากต้องการความคุ้มครองมากก็ต้องจ่ายมากเป็นเงาตามตัว และก็ไม่ได้ความว่าเราจะได้รับการคุ้มครองในทุกกรณี ดังนั้น การประกันเช่นนี้จึงมิอาจวางใจได้ ด้วยว่าสิ่งนี้มิใช่การประกันที่ถาวรนิรันดร์นั่นเอง

การประกันที่ถาวรนิรันดร์ซึ่งเราสามารถวางใจได้นั้น มีเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น คือ ทางองค์พระเยซูคริสต์ [ยน.14:6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า "เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา] เป็นการประกันที่เราไม่ต้องจ่ายราคาใดๆ เพราะพระเยซู พระผู้ไถ่ องค์บริสุทธิ์ ได้ทรงจ่ายราคาให้กับเราทั้งหมดแล้ว บนไม้กางเขนนั้น

[ยน.3:16] “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์”

ขอบคุณพระเยซู

ไม่มีความคิดเห็น: