Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

น้ำแห่งชีวิต

วันที่ 28/06/2010

เช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ศบ.พงษ์ศักดิ์ไม่อยู่อ่ะ อะฮ้า! แต่ถึงแม้ว่า ศบ.จะไม่อยู่ อันเนื่องจากต้องไปเป็นพร ไปเทศนาที่คริสตจักรอื่น แต่ ศบ.ก็ยังคงเป็นพรสำหรับพวกเราอยู่เสมอนะคะ

อ.มาร์ค แซนด์ลิน ก็ขึ้นเป็นพรบนธรรมมาสก์ เทศนาให้กับชาวนิมิตใหม่ ในหัวข้อ “นมัสการพระเจ้าอย่างที่พระองค์กำหนด” โดยเล็งไปที่พระธรรมเลวีนิติ บทที่ 10 ว่าด้วยเรื่องบาปของนาดับและอาบีฮู อันโยงไปถึงหน้าที่ของปุโรหิต และหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องเข้าไปนมัสการพระเจ้าอย่างถูกต้องตามชอบพระทัยของพระองค์ และด้วยความเคารพยำเกรง เพราะพระองค์ทรงบริสุทธิ์ ซึ่งในการนี้ อ.มาร์คได้นำพระธรรมหลายตอนมาแบ่งปันให้ดวงตาเรากระจ่างแจ้งมากขึ้น อาทิ ปญจ.5:1, วว.8:3-4, 1 ปต.4:11, 1 พศด.13:5-12, 1 พศด.15:12-28, ฮบ.12:28-29

กลับมาเรื่องหนุ่มโคราชต่อนะคะ เมื่อพลิกสูจิบัตรไปปั๊บที่หน้าแรก เราก็พบกับหนุ่มหล่อยืนล้วงกระเป๋ายิ้มแป้นอยู่ดินแดนอิสราเอล แหะ แหะ เป็นสารศิษยาภิบาลนั่นเอง…เตรียมรับพรต่อนะคะ

“…เพราะฉะนั้น แม่น้ำไปถึงไหน ทุกสิ่งก็มีชีวิต” (อสค.47:9)

ป๊าบ! โดนค่ะพี่น้อง โดนใจจริงๆ เนื่องจากว่าโดยส่วนตัวแล้ว เพิ่งอ่านพระธรรมเอเสเคียลจบไปหมาดๆ ก่อนไปโบถส์เช้านั้นเอง ความอิ่มเอมใจจากการอ่านจึงยังคงตราตรึงซาบซ่านอยู่

ศบ.ได้อธิบายในสูจิบัตรว่า “นี่คือนิมิตที่ผู้เผยพระวจนะเอเสเคียลได้เห็นเกี่ยวกับพระวิหารหลังใหม่ เมื่อท่านมองดูที่ธรณีประตูก็เห็นมีน้ำไหลออกมาจากที่ใต้ธรณี น้ำที่ไหลออกมานี้เป็นเสมือนน้ำแห่งชีวิต เพราะเมื่อไหลไปยังที่ที่มีต้นไม้ ต้นไม้ก็ผลิใบเกิดผล ทุกๆ เดือน ใบของมันก็ใช้เป็นยารักษาโรคได้ ยิ่งไหลลึกก็ยิ่งมีปลามาอาศัยอยู่มาก วิหารเล็งถึงสถานที่ที่มนุษย์ได้เข้ามานมัสการพระเจ้า ทุกๆ อาทิตย์ที่เราเข้ามานมัสการพระเจ้าที่คริสตจักร พระองค์ประสงค์ที่จะให้เราได้รับประโยชน์จากน้ำที่ธำรงชีวิต และในเช้าวันนี้หากพระเจ้าให้น้ำนี้ไหลไปถึงผู้ใดก็จะไหลไปถึงผู้นั้นโดยพระคุณของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแหล่งแห่งชีวิต ผู้ใดก็ตามกำลังเสาะหาความหมายของชีวิตแท้ สามารถที่จะพบได้ในพระองค์ ผมเชื่อว่าคุณจะได้รับพระพรอย่างมากเมื่อเข้ามานมัสการพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นที่คริสตจักรใดก็ตาม เพราะพระเยซูคริสต์ทรงเป็นศีรษะของคริสตจักร และเราทั้งหลายต่างก็เป็นอวัยวะในพระกายของพระองค์ การนมัสการพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณและความจริงนั้นจะทำให้เรามีชีวิตชีวา เพราะเราจะได้รับการสัมผัส การเจิมที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ถ้อยคำที่พระเจ้าตรัสด้วยกับเรานั้นเป็นถ้อยคำแห่งชีวิตที่เราต้องรับไว้ และดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจไปกับพระองค์”

กล่าวโดยสรุปแล้ว พระธรรมเอเสเคียลเป็นเรื่องราวการเผยพระวจนะของท่านเอเสเคียลนั่นเอง พระเจ้าทรงใช้ท่านผู้นี้โดยวิธีการแปลกๆ ไม่เหมือนใคร เมื่ออ่านเรื่องราวของท่านแล้วก็ตื่นเต้น เร้าใจ ได้รับพระพร ได้รับการหนุนใจ ได้ขอบพระคุณพระเจ้า ได้สรรเสริญพระองค์ ทั้งยังต้องกลับใจสารภาพบาป ระคนกัน (แป่ว) เอเสเคียลเริ่มต้นด้วยถ้อยคำแห่งความพินาศ ซึ่งก็คือการเผยพระวจนะกับคนที่ตกเป็นเชลยในบาบิโลน โดยกล่าวถึงนิมิตของความบาปและการพิพากษา ต่อมาเป็นการกล่าวถ้อยคำถึงคนต่างชาติ คือ กล่าวโทษเจ็ดชนชาติที่ทำบาป และในตอนสุดท้ายเป็นถ้อยคำแห่งความหวัง คือ การที่ประชากรของพระเจ้าจะกลับคืนสู่สภาพดี มีการฟื้นฟู มีการนมัสการพระเจ้า

หากย้อนกลับไปอ่านเฉพาะ อสค.47:1-47 เราก็จะเห็นภาพของน้ำจากพระวิหารที่รักษาโรคได้ (ถ้าเป็นสมัยนี้ละก็ ผู้คนคงจะแห่กันไปเอาน้ำอย่างเนืองแน่นแน่นอน) ขอบคุณพระเจ้า “น้ำจากพระวิหาร” ซึ่งให้ความหมายในเชิงสัญลักษณ์อันหมายถึงน้ำธำรงชีวิตจากพระเจ้านั้น ยังคงไหลอยู่จนถึงทุกวันนี้ ไหลล้นอยู่ในชีวิตของผู้เชื่อ ทั้งยังไหลไปสู่คนที่ยังไม่เชื่อด้วย เมื่อไหลไปสู่ที่ใด ชีวิตใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นด้วย!

พระธรรมเอเสเคียลอาจจะเริ่มต้นด้วยข่าวร้าย แต่ก็จบลงด้วยข่าวดี เช่นเดียวกับชีวิตของเราที่เดินกับพระคริสต์ ซึ่งแม้ว่าจะต้องพบกับเรื่องร้ายในชีวิตบ้าง ทว่า เรื่องร้ายต่างๆ ก็จบลงด้วยดีทั้งสิ้น ด้วยเพราะน้ำแห่งชีวิตยังคงไหลอยู่ พระองค์ยังทรงอยู่ ทรงสถิตอยู่กับคุณ! ทรงสถิตอยู่กับฉัน ทรงสถิตอยู่กับเรา […ตั้งแต่นี้ไปนครนี้มีชื่อว่า “พระเจ้าสถิตที่นั่น" อสค.47:9] Jehovah Shammah

พระเจ้าทรงอยู่ด้วย! (God be with you!)

ปล. เปิดสารศิษยาภิบาลแล้ว ก็อย่าลืมเปิดไปอ่านหน้าอื่นด้วยนะคะ! ภายในสูจิบัตรมีข่าวคราวของชาวคริสตจักรให้ทราบ มีหัวข้ออธิษฐานเผื่อ มีบทความจาก อ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ และมีพระพรที่ซ่อนอยู่เพื่อให้คุณหาค้น…สูจิบัตรนี้มีคุณค่า เพราะได้มาจากเงินภาษีของประชาชน (สิบลด) ได้มาจากเยื่อกระดาษของต้นไม้หลายต้น ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของคนทำ ได้มาจากมันสมองของผู้ร่วมเขียนร่วมคิด…อย่าทิ้งสูจิบัตรนะคะ!

ไม่มีความคิดเห็น: