แสงอรุณ

วันที่ 18/11/2008
[ลก.1:78] โดยพระทัยเมตตากรุณาแห่งพระเจ้าของเรา แสงอรุณจากเบื้องสูงจึงมาเยี่ยมเยียนเรา
[สดด.139:9] ถ้าข้าพระองค์จะติดปีกแสงอรุณ และอาศัยอยู่ที่ส่วนของทะเลไกลโพ้น แม้ถึงที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์จะนำข้าพระองค์และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะยึดข้าพระองค์ไว้
“อรุณสวัสดิ์พระเจ้า”…ในทุกๆ เช้าฉันจะตื่นมาพร้อมกับบอกว่า “Good morning God” เป็นสิ่งแรก ฉันได้เห็นความสัตย์ซื่อของพระเจ้า ฉันได้เห็นความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้า แสงอรุณจากพระองค์มาเยี่ยมเยียนฉัน ช่างเป็นความงดงามยิ่งนักสำหรับชีวิตของฉัน…ช่วงหลายวันที่ผ่านมาฉันอยู่ในโรงเรียนแห่งพระคริสต์ที่เข้มข้นมากขึ้น เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง ซักฟอกตัวเองเพื่อให้สะอาดและแข็งแกร่ง เพื่อเป็นคนงานที่ใช้ได้ เป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินของพระเจ้ามากขึ้น…เส้นทางที่เดินนั้นผ่านถิ่นทุรกันดาร ผ่านหุบเขาเงามัจจุราช พบความอ้างว้าง เหือดแห้ง มืดมิด หนาวเหน็บ หิวโหย คร่ำครวญ เจ็บปวด เสียน้ำตา เหน็ดเหนื่อยและยากลำบาก แต่เมื่อถึงเวลาเช้า แสงอรุณจากเบื้องสูงก็มาเยี่ยมเยียนฉัน ความสว่างขององค์พระผู้เป็นเจ้าส่องผ่านทะลุปัญหาทั้งปวงในชีวิตของฉัน …ชีวิตของฉันดำเนินไปแต่ละวัน แล้วก็นอนหลับ และจะล่วงหลับไปในอีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี ก็มิอาจรู้ได้ แต่พระเจ้าของเรายิ่งใหญ่ ทรงเป็นพระบิดาแห่งบรรดาดวงสว่าง และพระองค์เป็นความสว่างที่สุกใสเจิดจรัสตลอดนิรันดร์กาลจนถึงนิรันดร์กาล พระองค์เป็นพระเจ้าเนืองนิตย์ ไม่เคยหลับสนิทหรือนิทรา ไม่เคยอ่อนล้าหรืออ่อนเปลี้ย ทรงเป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่เสมอในยามยากลำบาก ทรงเป็นน้ำธำรงชีวิตที่ไหลล้นอยู่เสมอในยามที่เรามีความสุข
ฉันชอบช่วงเวลารุ่งอรุณเป็นที่สุด และโดยส่วนตัวแล้วชอบทำอะไรตอนเช้า ไอเดียดีๆ หลายอย่างมักจะมาตอนเช้า ที่ฝรั่งเค้าเรียก Early bird คือพวกตื่นเช้า มีพลังในตอนเช้ามากที่สุดของวัน แต่ก่อนสมัยเรียน ตอนกลางคืนก็รีบนอน และตื่นแต่เช้ามาอ่านหนังสือสอบ รู้สึกว่าสมองแล่น ความจำดี ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง…เมื่อพูดถึงอรุณ ก็ให้นึกถึงยายรุณคนสวยขึ้นมาเลยนะเนี่ย
การอธิษฐานนั้นจำเป็นและขาดเสียมิได้ [1ธส.5:17] จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ ชีวิตของฉันเองก็ผ่านพ้นวิกฤติและได้รับพระพรจนถึงทุกวันนี้ได้ด้วยการอธิษฐานเผื่อของพี่น้อง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องระลึกถึงกันและกันในคำอธิษฐาน คำอธิษฐานของผู้ชอบธรรมมีพลังทำให้เกิดผล คริสตจักรนิมิตใหม่เองก็มีวิสัยทัศน์จากพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการจัดตั้งกลุ่มอธิษฐานยี่สิบสี่หน่วยขึ้นมาเป็นรุ่นแรก เพื่อเป็นคนงานอุดช่องโหว่ เป็นคนยามเฝ้ากำแพง ร้องทูลต่อพระเจ้าทั้งกลางวันและกลางคืน และขอบคุณพระเจ้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งทีมอธิษฐานในลักษณะนี้ขึ้นมาอีก และจะจัดตั้งอีก เพื่อให้คริสตจักรนิมิตใหม่เป็นนิเวศแห่งการอธิษฐาน เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า…อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบางคนจะมิได้อยู่ในทีมอธิษฐานของคริสตจักรในขณะนี้ สิ่งนั้นก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่คุณจะไม่อธิษฐาน เพราะพระคำตรัสไว้ชัดเจนในเรื่องของการอธิษฐาน [อฟ.6:18] จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา ทั้งนี้จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่าง จงอธิษฐานเพื่อธรรมิกชนทุกคน…ทีมอธิษฐานยี่สิบสี่หน่วยปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น “IPG” เพื่อให้ครอบคลุมนักอธิษฐานทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย
ในทีมยี่สิบสี่หน่วยได้มีการกำหนดให้อธิษฐานเผื่อกันและกัน และบุคคลที่ฉันต้องอธิษฐานเผื่อคือ “ยายรุณ” ในช่วงแรกก็งงน่ะว่า ยายรุณคนไหนหว่า แต่พอเห็นหน้าก็อ๋อ คนนี้เอง คุณยายใจดี ชอบมีของกินอร่อยๆ มาแจกชาวบ้าน ตอนนั้นยังไม่รู้จักยายเท่าไร แต่เห็นสิ่งที่ยายทำ เห็นแสงอรุณที่ฉายออกมาจากชีวิตของยาย และเมื่อได้รู้จักยาย ก็ยิ่งเห็นแสงอรุณนั้นฉายชัดมากยิ่งขึ้น ยายไม่เพียงแต่เป็นผู้ที่ห่วงใยผู้อื่น ด้วยการแบ่งปันข้าวของให้ผู้อื่นเท่านั้น ยายยังเป็นผู้ที่หนุนจิตชูใจผู้อื่นด้วยความรัก พระเจ้าทรงยกยายไว้ในที่สูง พระเจ้าทรงเลี้ยงดูยายเป็นอย่างดี แต่ยายก็ถ่อมใจ และคิดว่าคนอื่นดีกว่าตัวเสมอ ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้ว่าจะอธิษฐานเผื่อยายอย่างไรดี แต่เมื่อครั้งไปเชียงใหม่บ้านเกิดของยายรุณ ได้รู้จักยายและครอบครัวของยายมากขึ้น ทำให้ฉันอธิษฐานเผื่อยายได้ในระดับที่ลึกซึ้งมากขึ้น
[สภษ.4:18] แต่วิถีของคนชอบธรรมเหมือนแสงอรุณ ซึ่งฉายสุกใสยิ่งขึ้นๆ จนเต็มวัน
อันว่ายายรุณนั้น เมื่ออธิษฐานเผื่อมากขึ้น ก็รู้จักมากขึ้น การอธิษฐานเป็นสายใยรักอันทรงพลังที่มีไปถึงผู้อื่น แต่ก่อนไม่รู้จะอธิษฐานเผื่อยายรุณอย่างไร ก็ได้แต่อธิษฐานว่า พระเจ้าที่รัก ลูกขอฝากยายรุณไว้ในอุ้งพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์ ลูกขอส่งความรัก ความชื่นชมยินดี สันติสุข และคำอธิษฐานด้วยความเชื่อไปให้ยายรุณด้วย…แล้วสายใยรักที่แม้จะดูเหมือนบอบบางอ่อนไหวเหมือนใยแมงมุม แต่เมื่อกอปรด้วยการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ อยู่ภายใต้การปกคลุมด้วยปีกแห่งรักจากพระเจ้า สายใยนั้นก็ทรงพลานุภาพ และถูกพัดพาไกล ไม่ใช่แค่นิมิตใหม่ ไม่ใช่แค่เชียงใหม่ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่จนสุดปลายแผ่นดินโลก
การเรียนในโรงเรียนแห่งพระคริสต์ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด ฉันได้เรียนเกี่ยวกับ การนมัสการพระเจ้าอย่างถูกต้อง การรอคอยพระเจ้าแต่องค์เดียว การเลี้ยงลูกแกะของพระเจ้า การอดทนนานๆๆ การใช้คำพูดอ่อนหวาน การอดอาหารอธิษฐาน ความถ่อมใจ ความเชื่อและความไว้วางใจ และล่าสุดของล่าสุดคือ การเห็นว่าคนอื่นดีกว่าตัวเสมอ การปกป้องผู้อื่นมิใช่การปกป้องตนเอง การจดจ่อที่ผู้อื่นมิใช่ตนเอง (การรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง)…นี่เป็นเรื่องใหญ่ๆ ที่ได้เรียนรู้มา แต่ถ้าถามว่าเรียนอะไรไปบ้าง ก็ยากที่จะบรรยายได้หมด เพราะพระเจ้าทรงเป็นองค์ที่ปรึกษามหัศจรรย์ เป็นอาจารย์ที่ประเสริฐ ทรงมีแบบทดสอบให้ฉันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พระองค์ไม่เคยละพระองค์ไปจากฉันเลยแม้แต่วินาทีเดียว
พี่โอเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่มีวิญญาณแห่งการเรียนรู้อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งวิญญาณนั้นฉายแสงสุกใสเป็นแบบอย่างอันดีที่ฉันยึดถือ พี่โอมักจะถามตนเองในสถานการณ์ต่างๆ ว่า เรื่องนี้ เหตุการณ์นั้น วันนี้ พระเจ้าจะทรงสอนอะไร จะทรงบอกอะไร และนั่นเป็นเหตุให้พี่โอรู้จักน้ำพระทัยพระบิดาได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
ณ วันนี้ เวลานี้ ฉันยังรอคอยการสอนของพระองค์ และรอฟังพระสุรเสียงของพระองค์อยู่เสมอ ฉันจึงไม่ขออะไรมากไปกว่าการที่จะได้รู้จักพระบิดาลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ให้หัวใจของฉันรักพระองค์มากขึ้น ให้ชีวิตของฉันรับใช้พระองค์มากขึ้น และขอที่ผลแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ทั้ง 9 ประการ จะเด่นชัดส่งกลิ่นหอมฟุ้งมากยิ่งขึ้นในชีวิตของฉัน ขอให้พระสิริและความสว่างของพระองค์ครอบครองฉัน ให้ฉันเป็นความสว่างในชีวิตของผู้อื่น ให้ความสว่างนั้นฉายสดใสในใจของฉัน และขอที่ความสว่างนั้นจะเปล่งประกายเหมือนแสงอรุณ ซึ่งฉายสุกใสยิ่งขึ้นๆ จนเต็มวันในชีวิตผู้อื่นดุจกัน
[2ซมอ.23:4] เขาทอแสงเหนือประชาชนเหมือนแสงอรุณเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น คือรุ่งเช้าที่ไม่มีเมฆ ซึ่งเมื่อภายหลังฝน กระทำให้หญ้างอกออกจากดิน