Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ความรัก

ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงโปรดให้เราได้ยินถึงความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้า…ทุกๆ เช้า

รักแรกพบ
[ยอห์น 3:16] เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์…ความรักเช่นนี้มิอาจมีผู้ใดหรือสิ่งใดมาเทียบเทียมได้ ทั้งก่อนหน้าหรือภายหลังยุคนี้ก็ดี โดยพระคุณความรักของพระองค์ พระบิดาของเราทั้งหลาย เราจึงมิอาจบรรยายหรือกลั่นกรองพระคุณและพระพรของพระองค์ออกมาได้ทั้งหมด เพราะว่าสิ่งนั้นล้นพ้นทวีคูณ เหนือคำบรรยายจริงๆ…เราเป็นของพระองค์ เป็นลูกที่รักของพระองค์ [สดด.24:1] แผ่นดินโลกกับสรรพสิ่งในนั้นเป็นของพระเจ้า ทั้งพิภพกับบรรดาผู้ที่อยู่ในพิภพนั้น พระองค์ทรงดำริเรื่องของเราไว้ตั้งแต่ก่อนสร้างโลกนี้ ทรงสำแดงพระหัตถกิจสร้างโลกให้น่าอยู่อาศัย ทรงบันดาลสรวงสวรรค์บนโลกใบนี้ให้กับเรา ก่อนที่จะทรงสร้างเราตามพระฉายาของพระองค์ ทั้งเมื่อเราคลอดออกมาแล้ว พระองค์ก็ทรงปกป้องเลี้ยงดูเรา ทั้งด้านร่างกายและจิตวิญญาณ เส้นผมของเรานั้นพระองค์ก็ทรงนับไว้แล้ว เลือดทุกหยดก็ดี กระดูกทุกข้อก็ดี กล้ามเนื้อทุกมัดก็ดี เซลทุกเซลภายในร่างกายก็ดี ลมหายใจทุกครั้งก็ดี ความคิดทุกประการของเราก็ดี พระองค์ทรงทราบทั้งหมด พระองค์ทรงสัพพัญญู [คส.1:17] พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนสรรพสิ่งทั้งปวง และสรรพสิ่งทั้งปวงเป็นระเบียบอยู่โดยพระองค์ พระองค์ทรงความยุติธรรมเสมอ ทรงสร้างเรามาเพื่อประกอบการดีทั้งปวง เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระองค์ [คส.1:16] เพราะว่าในพระองค์สรรพสิ่งได้ถูกสร้างขึ้น ทั้งในท้องฟ้าและที่แผ่นดินโลก สิ่งซึ่งประจักษ์แก่ตาและซึ่งไม่ประจักษ์แก่ตา ไม่ว่าจะเป็นเทวบัลลังก์ หรือเป็นเทพอาณาจักร หรือเป็นเทพผู้ครองหรือศักดิเทพ สรรพสิ่งทั้งสิ้นถูกสร้างขึ้น โดยพระองค์และเพื่อพระองค์

รักอันดับสอง
ผู้ที่เฝ้ารอคอยเราและต้องการเห็นหน้าเราอย่างใจจดใจจ่อ ในโลกนี้นั้น คงไม่มีใครเสมอเหมือนบิดามารดาของเรา และถึงแม้ประสบการณ์วัยเด็ก หรือความเป็นไปในครอบครัวของแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่เราทั้งหลายย่อมรู้อยู่แก่ใจว่า พระคุณความรักของบิดามารดานั้น เป็นความรักชั้นเลิศของโลกนี้เลยทีเดียว และไม่ว่าบิดามารดาจะเป็นเช่นไร ท่านก็เป็นผู้หนึ่งซึ่งพระเจ้าทรงรักและสร้างเขามาเพื่อเรา เราจึงให้เกียรติท่าน ทำให้ท่านสบายใจ [สภษ.23:25] จงให้บิดามารดาของเจ้ายินดี จงให้ผู้ที่คลอดเจ้าเปรมปรีดิ์ และเราทั้งหลายก็เชื่อฟังท่านด้วยความยินดี [คส.3:20] ฝ่ายบุตรทั้งหลายจงเชื่อฟังบิดามารดาของตนทุกอย่าง เพราะการนี้เป็นที่ชอบพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า

รักลำดับถัดมา
[สุภาษิต 17:17] มิตรสหายก็มีความรักอยู่ทุกเวลา และพี่น้องก็เกิดมาเพื่อช่วยกันยามทุกข์ยาก…อันว่าความรักฉันท์พี่น้องและเพื่อนฝูงนั้น เป็นความรักที่มนุษย์จะขาดเสียมิได้ เป็นความรักที่พระเจ้าทรงโปรดเติมเต็มให้กับชีวิตของเรา เป็นการสามัคคีธรรมร่วมกันในพระคริสต์ เนื่องจากเรานั้น มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว เหมือนมีความหวังใจอันเดียวที่เนื่องในการที่ทรงเรียกท่าน มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว [เอเฟซัส 4:4-5]…ด้วยเหตุนี้แหละเราทั้งหลายจึงรักกันและกัน แบ่งปันข้าวของกันและกัน หนุนจิตชูใจกัน ฟังกันและกัน เข้าใจกันและกัน รับใช้กันและกัน อธิษฐานเผื่อกันและกัน และนมัสการพระเจ้าร่วมกัน

รักที่รอคอย
เราทุกคนมีฐานะเป็นเจ้าสาวของพระคริสต์ เจ้าสาวที่รอคอยเจ้าบ่าวอย่างใจจดใจจ่อ เจ้าสาวที่แต่งตัวรอคอย เจ้าสาวที่ดำเนินชีวิตให้บริสุทธิ์เพียบพร้อม จนถึงวันที่องค์พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา [อสย.61:10] ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์อย่างยิ่งในพระเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าจะลิงโลดในพระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะพระองค์ได้ทรงสวมข้าพเจ้าด้วยเสื้อผ้าแห่งความรอด พระองค์ทรงคลุมข้าพเจ้าด้วยเสื้อแห่งความชอบธรรม อย่างเจ้าบ่าวประดับตัวด้วยพวงมาลัย และอย่างเจ้าสาวตกแต่งตัวด้วยเพชรนิลจินดา และในวันหนึ่งเราจะได้อยู่ร่วมกับเจ้าบ่าวในสวรรคสถาน ซึ่งพระองค์ได้เตรียมไว้สำหรับเราแล้ว [วว.21:2] ข้าพเจ้าได้เห็นวิสุทธนคร คือนครเยรูซาเล็มใหม่ เลื่อนลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า นครนี้ได้จัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว เหมือนอย่างเจ้าสาวแต่งตัวไว้สำหรับสามี

รักที่สำแดงออก
[1พศด.29:11] ข้าแต่พระเจ้าความยิ่งใหญ่ ฤทธานุภาพ พระสิริ ชัยชนะและความโอ่อ่าตระการเป็นของพระองค์ และบรรดาสิ่งที่มีอยู่ในฟ้าสวรรค์ และในแผ่นดินโลกเป็นของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ราชอาณาจักรเป็นของพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นที่ยกย่อง เป็นจอมของสิ่งสารพัด ความรักที่พระองค์ทรงให้กับเรานั้น มิใช่ความรักที่ซ่อนเร้น พระองค์ทรงเทพระพร ความรักเมตตามายังชีวิตของผู้เชื่อทุกคนอย่างไม่ขาดสาย หรือแม้แต่ผู้ไม่เชื่อก็เถอะ พระองค์ก็ทรงรักเขา พระองค์ทรงให้ฝนตกตามฤดูกาลเท่ากัน พระองค์ทรงให้ดวงตะวันสาดแสงสำหรับทุกคน [ยชว.21:45] สรรพสิ่งอันดีทุกอย่างซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาต่อประชาชนอิสราเอลนั้นก็ไม่ขาดสักสิ่งเดียว สำเร็จทั้งสิ้น และโดยพระคุณของพระองค์สำหรับผู้เชื่อทั้งหลายนั้น ทรงโปรดให้เราสำแดงความรักและฉายแสงแห่งความสว่างแก่โลก ให้เราสร้างประชากรเพื่อการสรรเสริญ เล่าถึงพระสิริของพระองค์ ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ การอัศจรรย์ของพระองค์ ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย [1พศด.16:24] ซึ่งเป็นการมอบพระสิริซึ่งควรแก่พระนามของพระองค์แด่พระเจ้า เป็นการนำเครื่องบูชามาเข้าเฝ้าพระองค์ เป็นการประดับกายด้วยเครื่องบริสุทธิ์นมัสการพระเจ้า [1พศด.16:29]

รักนิรันดร์
พระองค์เจ้าข้า พระเจ้าจอมโยธา จอมกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริ [สดด.26:8] ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์รักพระนิเวศอันเป็นที่ประทับของพระองค์ และสถานที่ประทับแห่งพระสิริของพระองค์ เราปรารถนาพระนิเวศของพระองค์ เรารักการนมัสการ เรารักพระองค์ รักพระองค์ เราดำเนินชีวิตอยู่บนโลกด้วยความรัก โดยพระองค์ และเพื่อพระองค์ เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้านั้น การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร [ฟิลิปปี 1:21] พระองค์เจ้าข้า ในวันหนึ่งเราทุกคนจะได้กลับบ้านซึ่งพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้เพื่อเรา สวรรค์นิรันดร์ และในที่แห่งนั้น เราทั้งหลายจะร้องว่า พระองค์ผู้บริสุทธิ์เจ้าข้า ผู้ดำรงอยู่บัดนี้ และผู้ได้ทรงดำรงอยู่ในกาลก่อน ทรงบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระองค์เจ้าข้า [วว.4:11] "องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงสมควรที่จะได้รับคำสรรเสริญ พระเกียรติและฤทธิ์เดช เพราะว่าพระองค์ได้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งปวง และสรรพสิ่งทั้งปวงนั้นก็ทรงสร้างขึ้นแล้ว และดำรงอยู่ตามชอบพระทัยของพระองค์"
ฮาเลลูยา!
วันนี้น้องน้อยหน่า รุ่นน้องที่ office โทรมาติดต่อเรื่องงาน จึงถือโอกาสชวนน้อยหน่าไปร่วม Alpha Celebration (น้อยหน่าเป็นนักศึกษา Level 4 ที่ BSC ด้วย) ดังนั้น ตอนเย็น พวกเราทีมเสื้อเขียวมิตรแท้ประกันภัย ก็บุก Alpha กัน…น้องเจินเจิน เพิ่งเริ่มงานได้ประมาณครึ่งเดือน แต่เคยไปร่วม Alpha แล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ไปกับเราด้วย

เราไปถึงเร็ว จึงได้มีโอกาสอธิษฐานร่วมกับทีม Alpha ก่อนเริ่มภารกิจ…ภายในห้อง Alpha อบอวลไปด้วยไปไอรัก และกรุ่นกลิ่นหอมของพระคริสต์ ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงสถิตอยู่ท่ามกลางเรา Alpha ตลอดทั้งรายการเป็นพระพรสำหรับพวกเราทุกคน ขอพระเจ้าทรงโปรดอวยพระพรแขกผู้เข้าร่วม Alpha ทุกคน โดยทุกคนที่มาในค่ำคืนนี้ คือ อ๋า ก้อย ส่ง เชอรี่ ปิ๊ก ขวัญ เล็ก น้อยหน่า เจินเจิน (ถ้าจำได้ไม่หมดก็ขอพระเจ้าช่วยด้วยนะคำ)…พระองค์เจ้าข้า ขอความรักประเสริฐของพระองค์นั้นจะทะลุทะลวงเข้าไปในหัวใจของเขาทุกคน ขอที่หัวใจของเขาจะแตกสลายลง เพื่อให้พระองค์เป็นเจ้าหัวใจของเขา เป็นเจ้าชีวิตของเขา ขอที่เขานั้นจะรับพระองค์ด้วยปาก และเชื่อด้วยใจ พระองค์เจ้าข้า เราปรารถนาที่จะพบพี่น้องเหล่านี้ในแผ่นดินสวรรค์เบื้องบนของพระองค์ และเราทั้งหลายนั้นจะสรรเสริญพระองค์ร่วมกัน นิรันดร์ (เกือบลืมบอกว่ามีอาหารหลากหลาย และมีการจัดดอกไม้สดด้วย จนมีคนแซวพี่ตุ๊กตาว่า นี่วันนี้ยังจัดดอกไม้ขนาดนี้เลย และถ้าถึงวันที่พี่ตุ๊กตาเป็นเจ้าสาวล่ะ ดอกไม้จะอลังการสักแค่ไหน…ฮาเลลูยา ขอบคุณพระเจ้า)

เช่นเคยที่ Alpha ในแต่ละค่ำคืน จะประกอบไปด้วยการเล่นเกมส์สุดมันส์ การแบ่งกลุ่มเพื่อแบ่งปันสุดชีวิต การนมัสการสุดใจ การกิน-การดื่มสุดกำลัง แต่ Alpha ค่ำคืนที่ผ่านมาพิเศษกว่า เนื่องจากหลายคนได้ออกไปเป็นพยานถวายเกียรติแด่พระเจ้า และองค์พระเจ้าของเรานั้นทรงทอดพระเนตรอยู่ ทรงยิ้มแก้มปริให้กับลูกที่รักของพระองค์

หลังรายการ Alpha พวกเรากองทัพนมัสการ ก็ได้เคลื่อนไปที่คอนโดของฉัน มีน้องปิ๊กเป็นฑูตสวรรค์ขับรถพาเราไป โดยมีสาวน้อยแก้มนวลเอิบอิ่มนั่งอยู่เคียงข้าง คือพี่สุภารัตน์จอมฮาของเรานั่นเอง ส่วนเบาะหลังก็มีน้องต้านั่งตักพี่อิ๋วไป และมีพี่เป้ พี่ป๊อบ และฉัน แต่น้องต้าขอลงตรงอนุสาวรีย์เพื่อต่อรถตู้กลับบ้าน พวกเราที่เหลือ 6 ชีวิต จึงได้นมัสการพระเจ้าร่วมกันที่ชั้น 7 ลุมพินีเพลส ประดิพัทธิ์…พี่อิ๋วเรียกการสามัคคีธรรมในคืนวันพฤหัส เวลา 22.00-24.00 น. ของเราว่า “คริสตจักรเที่ยงคืน” ส่วนพี่ป๊อบเคยตั้งชื่อให้ว่า “Seven Eleven” เนื่องจากว่าเหตุการณ์เกิดที่ชั้น 7 ในวันที่ 11/9/2008 ซึ่งแท้จริงหลายคนไม่ชอบวันนี้ เนื่องจากเป็นวันครบรอบตึก World Trade Center ถล่ม ซึ่งสร้างความสูญเสียมากมาย แต่พวกเราไม่คิดอย่างนั้นหรอก เพราะหมายสำคัญและการอัศจรรย์หลายอย่างเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ Nine One One…สุดท้าย พี่โอเป็นผู้ตั้งชื่อให้กับกลุ่มนี้ว่า “Excellence” เพราะเราทั้งหลายปรารถนาจะเป็นลูกที่ยอดเยี่ยมของพระองค์

พวกเราร้องเพลงด้วยเสียงอันดัง ถวายเกียรติแด่พระเจ้า แต่สักพักหนึ่งเราก็ตระหนักว่าเสียงเราอาจจะดังเกินไป เกรงใจเพื่อนบ้านข้างเคียง พวกเราก็พากันลดเดซิเบลลง แต่ก็ เอ่อ…สักพักหนึ่ง ก็ดังขึ้นมาใหม่ และดังขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ จึงได้อธิษฐานในใจให้อยู่ในการควบคุมของพระเจ้า พระองค์ทรงประทับเหนือคำสรรเสริญของเรา ขอพระองค์ปิดเสียงไม่ให้รบกวนเพื่อนบ้าน ให้เพื่อนบ้านหลับสนิท และในบางคน ในเวลาของพระองค์ ขอทรงโปรดให้เขาได้ยินเสียงอันไพเราะแห่งสรวงสวรรค์ ที่จะก้องวังวาลในทุกอณูใจของเขา ซึ่งเป็นเหตุให้เขาจะปรารถนาพระเจ้า และอยากรู้จักพระองค์มากยิ่งขึ้น

เราสรรเสริญ ร้องเพลง สลับกับการอธิษฐานเผื่อเรื่องราวต่างๆ เร็วบ้าง ช้าบ้าง ก็นมัสการ…นั่งบ้าง ยืนบ้าง ก็นมัสการ…ร้องได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็นมัสการ พี่อิ๋วยืนเล่นกีตาร์ให้พวกเราเป็นชั่วโมงๆ โดยไม่เหน็ดเหนื่อยเลย พวกเราก็ร้องกันสุดจิตสุดใจเช่นกัน การนมัสการเสร็จสิ้นลงเมื่อนมัสการประมาณเที่ยงคืนเห็นจะได้ จากนั้นเราจึงอธิษฐานเผื่อกันและกันเป็นรายบุคคล และแต่ละคนก็ขอบคุณพระเจ้าสำหรับราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์ พี่สุเองก็ได้แบ่งปันความอัศจรรย์แห่งการเดินกับพระคริสต์ 16 ปี แห่งความหลัง พวกเราซาบซึ้งในพระคุณความรักของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของพี่สุเป็นอย่างมาก…เมื่อแต่ละคนได้ขอบคุณพระเจ้าแล้ว เราก็เพิ่งรู้สึกว่าหิว จึงตกลงจะไปกินบะหมี่เกี๊ยวกัน แต่ในที่สุด ปิ๊กก็ออกไอเดียว่าไปกินข้าวต้มอร่อยที่เตาปูนดีกว่า พวกเราก็เฮโลกันไป พนักงานที่ร้านแอบขำที่เห็นพวกเราลงมาจากรถคันใหญ่แล้วก็ควัก “บอง” ปลาร้าขอนแก่น สุดยอดแดนอีสาน ขึ้นมากินด้วย งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้พี่สุที่อุตส่าห์หอบหิ้วมาจากขอนแก่น และพี่เป้ที่หอบหิ้วอย่างทะนุถนอมไปตลอดทางจนถึงร้านข้าวต้ม พี่สองคนยังได้เล่าให้ฟังด้วยว่า ปลาร้านี้เชื่อมสัมพันธ์ที่ BSC ด้วยนะ เนื่องจากได้ตักปลาร้าให้คนที่กินข้าวอยู่โต๊ะข้างๆ 1 ช้อน (โอ เพียงแค่ 1 ช้อนเท่านั้นขอรับ!!!) คนๆ นั้นดีใจมาก ทานอย่างเอร็ดอร่อย และซื้ออิ๋วมาแจกพวกพี่ๆ ของเราด้วย

ที่ร้านข้าวต้มนั้น ค่อนข้างใหญ่ แต่ในช่วงที่เราไปถึงนั้นไม่มีลูกค้าเลย พนักงานจึงมามะรุมมะตุ้มอยู่กับพวกเรา และก็แอบยิ้ม แอบขำกับพฤติกรรมของพวกเรา พี่สุใช้ภาษาแบบ Native Speaker เป็นต่อยหอย (ภาษาอีสาน) สลับกับภาษากลางบ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง (ทำเป็น Inter) และภาษาไทยบ้าง ฮาสุดๆ…แต่ขอโทษ อาหารที่อยู่ตรงหน้าก็เกลี้ยงเช่นกัน…อันว่าพี่อิ๋วนั้นคุณเธอทานเผ็ดไม่ค่อยได้ จึงสั่งอาหารที่พี่สุบอกว่าสิ้นคิดมา 1 จาน ก็คือ ไข่เจียวนั่นเอง แต่อาหารร้านนี้อร่อยทุกอย่าง ขอบอก ชื่อร้าน “ตุ๊ก” อยู่เตาปูนค่า…ที่โต๊ะนั้น พี่เป้แสดงอาการชื่นชอบปลาร้าอย่างออกหน้าออกตา ส่วนพี่ป๊อบก็กินไปบ่นไป ว่า “อร่อย อร่อย อร่อย” อยากให้มีผักสดจังเลย แต่ว่ามี 2 คนที่ไม่กินปลาร้า คือพี่อิ๋วกับปิ๊ก พวกเราเลยจัดการตักปลาร้า 1 ช้อนเล็กๆ ให้พี่อิ๋ว เด็กราชินีชิมหน่อยสิ ซึ่งพี่อิ๋วก็พิสูจน์ว่าเป็นคนทุกชนิดได้ พี่อิ๋วชิมปลาร้าด้วย เฮ! (เป็นยังไงบ้างคะ พี่อิ๋วขา!!!) แต่ว่าปิ๊กนี่สิ ยังไงๆ ก็ไม่ยอมกิน…แต่เชื่อเหอะว่า ถ้าไปกับพวกเราบ่อยๆ แบบนี้ สักวันหนึ่งคงจะกินปลาร้าตามพวกเรา

พี่สุ พี่เป้ พี่ป๊อบ พี่อิ๋ว ค้างคืนที่คอนโด พี่เป้อาบอิ๋วคนแรก และขอตัวไปจุ่มอยู่กับพระคำของพระเจ้า ส่วนพี่สุกับ พี่ป๊อบก็นั่งแบ่งปันประสบการณ์ 16 ปีแห่งความหลังกันต่อ และขอบคุณพระเจ้า พี่สุได้ทำพันธกิจปลดปล่อยให้กับพี่ป๊อบด้วย ส่วนฉันก็ขอตัวไปนอนก่อน พี่อิ๋วนอนด้วย และพอเจอกันทีไรก็มีเรื่องตื่นเต้นมาเม้าท์ๆๆ กว่าจะนอนกัน ก็คงประมาณเกือบตีสามนะ…ปกติพี่อิ๋วจะตื่นเช้า ประมาณตีสี่นี่แหละ แต่ฉันได้ขอร้องพี่อิ๋วว่า กรุณาอย่าตื่นตีสี่นะ เปลี่ยนเป็นหกโมงละกัน เพราะหากพี่อิ๋วตื่นฉันก็คงตื่นด้วยแน่นอน แต่ฉันอยากหลับยาวน่ะ


พระบิดาเจ้าข้า…เรารักพระองค์

โดย กล้วยอิ๋วว้า
2/10/2008 :

ไม่มีความคิดเห็น: