Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ประสบการณ์ค่าย ESC ระหว่างวันที่ 4-6 กันยายน 2551

คำว่า ESC นี้ ได้ยินครั้งแรกเมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง ได้ยินครั้งแรกก็งงและงง คือว่า ไม่รู้จักหรอก รู้จักแต่ BSC (Baptist Student Center) ซึ่งตอนนั้น พี่ๆ น้องๆ ในโครงการ The Call บางส่วนได้ไปร่วมเข้าค่ายด้วย โดยส่วนตัวแล้วก็อยากไปนะ แต่เกิดอาการ short (อิอิ) แต่ที่สุดแล้ว เป็นน้ำพระทัยพระเจ้าที่ทรงโปรดให้ไปในรอบนี้

ก่อนไปก็มีเรื่องตื่นเต้นนิดๆ เนื่องจากว่าวันลาพักร้อนเหลือแค่ 2 วันเอง ถ้าลาวันศุกร์ที่ 4 กันยายน อีกวัน ก็เหลือวันเดียวเอง เพราะตั้งใจจะเก็บวันพักร้อนไว้ไปค่ายคริตจักร ที่ต้องลาวันที่ 24 ตุลาคม และตั้งใจจะไปร่วม Jeevan Frontier Advance Camp ที่สิงคโปร์ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้

แล้ววันหนึ่งพี่แมมก็ถามว่าจะไปค่าย ESC หรือเปล่า ก็ตอบพี่แมมไปว่า ยังไม่ทราบเลย เวลาพักร้อนมีจำกัด และไม่รู้จะลางานได้หรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้ก็ป่วยหนัก ลางานไปหลายวัน เกรงใจเจ้านายมาก เกรงว่าจะเป็นพยานที่ไม่ดีในที่ทำงาน ซึ่งพี่แมมก็ให้ความเห็นด้วยสติปัญญาว่า “ให้ถามตัวเองว่าอยากไปหรือเปล่า และอธิษฐาน ถ้าพระเจ้าให้ไปก็จะได้ไป แต่ถ้าพระเจ้าจะให้อยู่ทำงานก็จะได้อยู่ ให้พระเจ้านำ” อืม!!! โป๊ะเชะเลย ก็คิดในใจว่า “ต้องไปนะ ต้องไป” [สภษ 16:17] ใจมนุษย์กะแผนงานทางของเขา แต่พระเจ้าทรงนำย่างเท้าของเขา

เมื่อตัดสินใจไปค่ายแล้ว ก็มีข้อติดขัดอยู่นิดหนึ่ง เพราะปกติวันพฤหัส เวลา 19.00 น. มีกลุ่ม Alpha ซึ่งได้รับผิดชอบเป็น Group Leader 2 ในกลุ่ม Bilingual ด้วย สิ่งนี้ก็ทำให้คิดหนัก ระหว่างการอยู่รับใช้พระเจ้าที่กลุ่ม Alpha และการไปเข้าค่าย ESC ตอนนั้นก็ตัดสินใจไม่ถูก ลองถามใครบางคน ก็ได้คำตอบว่า วันแรกไม่ต้องไปก็ได้ แค่ไปรับคำสั่ง แต่บางคนก็บอกว่า ต้องไปนะ จำเป็นมาก ตั้งแต่วันแรก…ถ้าไม่เข้า Alpha ก็เหมือนกับไม่รับผิดชอบ แต่ถ้าไม่เข้า ESC ก็รู้สึกว่าจะพลาดบางอย่างไป สุดท้ายก็ต้องถามพ่อ “พ่อคะ ลูกรู้ว่าดีทั้ง 2 รายการเลย แต่พ่อรู้ดีที่สุดว่า สิ่งไหนที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดสำหรับลูกคนนี้” และคำตอบที่ได้รับคือ ให้ไปร่วม ESC ตั้งแต่คืนแรก ซึ่งพี่ๆ หลายคนก็หนุนใจที่ฉันจะไปตั้งแต่วันแรก และพี่โอ คุณพ่อของน้อง Blessing สุดหล่อ ก็หนุนใจว่า “แล้วพี่จะช่วยดูแลทาง Alpha เอง น้องไปเถอะ” [สภษ.16:3] จงมอบงานของเจ้าไว้กับพระเจ้า และแผนงานของเจ้าจะได้รับการสถาปนาไว้

วันที่ 4 กันยายน 2551
หลังเลิกงานก็รีบเดินทางไป YWCA ถนนสาธร เพื่อขึ้นรถตู้ที่นั่น พี่แมมกับพี่อิ๋วมาส่งพวกเราถึงประตูรถ ในรถตู้เรานั่งกันมาหลายคน ได้แก่บรรดาคุณครูทั้งหลายของ YWCA และพยาบาลแอ๊ด
เชื่อแน่ว่า อ.อานุภาพและทีมงาน ตลอดจนทีมงานจากทางคริสตจักรนิมิตใหม่เองนั้น อธิษฐานอย่างหนัก เพราะสัมผัสถึงการทรงสถิตได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ย่างเท้าเข้าไปในห้องประชุมนั้น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้ฟัง อ.อานุภาพ สอน เคยเห็นอาจารย์ครั้งแรกที่ BEC Tero ตอนแปลให้กับ Dr.Mathew และประทับใจอาจารย์มากขึ้น เมื่อได้รู้ว่าอาจารย์เป็นผู้ประพันธ์เพลง “ข้ายอมทุกสิ่ง” ซึ่งเป็นเพลงโปรดเพลงหนึ่งในชีวิตของฉัน ที่กระแทกใจ มีผลต่อจิตวิญญาณของฉันเป็นอย่างมาก

และก็เป็นดังคาด การสอนของอาจารย์เร้าใจ ทะลุทะลวง แตะต้องจิตวิญญาณ เวลาอาจารย์พูดอะไรออกมา ก็พบว่า เฮ้ย! อันนั้นก็ใช่ อันนี้ก็ใช่ อ๋อ! อืม! โอ้โห! ขอบคุณพระเจ้า! สรรเสริญพระเจ้า! ลูกรักพระเจ้า! ฮาเลลูยา! คำพูดเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวใจตลอดการฟังอาจารย์อานุภาพ
ในช่วงที่อาจารย์เชิญทุกคนไปรับการอธิษฐานนั้น เป็นช่วงที่ยอดเยี่ยมมากอีกช่วงหนึ่ง ซึ่งสัมผัสได้ถึงพระสิริอันงดงามเต็มขนาดขององค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นความรู้สึกสุขล้น ตื้นตัน ซาบซ่าน ร้อนแรง หนักหน่วง จนไม่อาจต้านทานได้ และไม่อาจจะอธิบายปรากฎการณ์ครั้งนั้นได้ เกินบรรยายจริงๆ รู้แต่เพียงว่า “ทรงเป็นพระเจ้า”

พระเจ้าทรงสัมผัสฉันวันนี้
จริงๆ แล้วทุกอย่างซึ่งเกิดขึ้นที่ค่ายแห่งนั้น มีผลต่อจิตใจ แตะต้องจิตวิญญาณเป็นอย่างมาก และเฉพาะเจาะจง เช่น ช่วงเช้าของวันศุกร์ ได้เฝ้าเดี่ยวด้วย พศด.29 ก็ซาบซึ้งยิ่งนัก และในวันนั้น อ.อานุภาพก็ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก เป็นคำอธิษฐานสุดท้ายของดาวิด กษัตริย์ผู้เลืองนาม…Wow! ซาบซึ้งตรึงใจเป็นทวีคูณ สำหรับเรื่องอื่นๆ ก็อย่างเช่น เรื่องราวของเอสเธอร์ ราชินีผู้เลอโฉม ที่ทุ่มเทเพื่อประชากรของพระเจ้า เรื่องนี้ก็ถูกปลุกเร้าอยู่ในใจมาระยะหนึ่งแล้ว หรือแม้แต่เพลงที่ทีมนมัสการนำมาร้อง หลายเพลงก็เป็นเพลงที่ได้เฝ้าเดี่ยวและนมัสการเป็นการส่วนตัวในระยะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลง “ข้าจะรักและบูชา”…อู้ย!!! ไม่ไหวแล้ว บอกได้ไม่หมดหรอกว่ามีอะไรอีกน่ะ “ฮาเลลูยา”

ประทับใจ อ.อานุภาพและทีมงาน
อาจารย์มีความพร้อมมาก การเจิมสูงยิ่ง ของประทานชัดเจน ถ่ายทอดจากชีวิตจริง ทีมงานทั้งหมดก็มีความเป็นมืออาชีพ ใช้ของประทานกันอย่างเต็มที่ เตรียมพร้อม จริงจัง ตั้งใจถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า [2ปต.1:8] ถ้าท่านทั้งหลายเพียบพร้อมด้วยของประทานเหล่านี้แล้ว ก็จะกระทำให้ท่านเกิดประโยชน์ และเกิดผลที่ได้ซาบซึ้งในพระเยซูคริสตเจ้าของเรา ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณ คจ.เสรีภาพ กรุงเทพ ขอบคุณ อ.อานุภาพและทีมงาน ขอบคุณทุกคน

ประทับใจเพื่อนๆ
เพื่อนๆ จากหลายคริสตจักรเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในองค์พระคริสต์ เราจึงเป็นครอบครัวใหญ่ที่สมบูรณ์ มีทั้งพ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง ซึ่งแต่ละคนรักและห่วงใยกัน ในห้องนอนของเรา พี่นก-กนกวรรณ ก็ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี คอยเตือนเมื่อถึงเวลานอน คอยปลุกเมื่อถึงเวลาตื่น คอยห้ามเมื่อเราทำอะไรเกินขอบเขต บรรดาน้องๆ อนุชนหน้าใสๆ ก็สดใสสุดๆ เช่นกัน คุยเก่ง หัวเราะ ร่าเริง สนุกสนาน ขำๆ กันตลอด เพื่อนที่อยู่กลุ่มต่างๆ ก็น่ารัก พยายามงัดกลยุทธ์ทุกอย่างขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นความพร้อมในการที่จะเป็นผู้รับใช้ยอดเยี่ยม ในหมู่รับใช้เองก็เช่นกัน ทุกคนช่วยกันอย่างสุดความสามารถ ด้วยความชื่นชมยินดีเปี่ยมล้น

ช่วงเวลาที่รอคอย
จริงๆ แล้ว มีความสุขตลอดเวลาคะ แต่ช่วงที่มีความสุขสุดๆ ช่วงที่รอคอยที่สุด ก็ตอนนมัสการพระเจ้าที่แท่นบูชาของพระองค์นี่แหละคะ [สดด.27:4] ข้าพเจ้าทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าจะเสาะแสวงหาเสมอ คือที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพระนิเวศของพระเจ้า ตลอดวันเวลาชั่วชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อจะดูความงามของพระเจ้า และเพื่อจะพินิจพิจารณาอยู่ในพระวิหารของพระองค์

ซาบซึ้ง ซาบซึ้ง
ขอบคุณพระเยซูที่ทรงเป็นแบบอย่างอันดีแห่งการถ่อมใจ [ยน.13:5] แล้วก็ทรงเทน้ำลงในอ่าง และทรงเอาน้ำล้างเท้าของพวกสาวก และเช็ดด้วยผ้าที่ทรงคาดเอวไว้นั้น และแน่นอนว่าช่วงเวลาแห่งความซาบซึ้งของเราคือ เมื่อเราปรนนิบัติพี่น้องด้วยการถ่อมใจลง ล้างเท้าให้กับพี่น้องของเราด้วยความรัก และได้สวมกอดกันด้วยความรัก ช่วงนี้เชื่อแน่ว่าทุกคนประทับใจและซาบซึ้ง หลายคนบ่อน้ำตาแตก แม้แต่ชายชาตรีก็เถอะ [ยน.13:14] ฉะนั้นถ้าเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระอาจารย์ของท่านได้ล้างเท้าของพวกท่าน พวกท่านก็ควรจะล้างเท้าของกันและกันด้วย

อาหารอร่อย
ไม่ได้เห็นแก่กินนะคะ แต่ก็ประทับใจจริงๆ น่ะ เอ? หรือเพราะว่าหิวนะ…ไม่หรอกค่ะ อาหารเค้าอร่อยจริงๆ และไม่ว่าการกินและดื่มก็เป็นของประทานอย่างหนึ่ง [ปญจ.3:13] และว่าเป็นของประทานจากพระเจ้าแก่มนุษย์ ที่จะให้มนุษย์ได้กินดื่มและเพลิดเพลินในบรรดาการงานของเขา

ประทับใจพี่ๆ นิมิตใหม่
มีความรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ที่ผู้ปกครองมารอรับเรากลับบ้านหลังเลิกเรียน ก็วันนั้นไง วันเสาร์ พี่แมม พี่อ้อย พี่โอ ไปให้กำลังใจพวกเรา และรอรับพวกเรากลับบ้าน รู้สึกอบอุ่นเป็นที่สุด [สดด.133:1] ดูเถิด ซึ่งพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ก็เป็นการดี และน่าชื่นใจมากสักเท่าใด

บทเรียนจาก Commander มาดเข้มทั้ง 5 หนุ่ม
พระเจ้าทรงรักลูกของพระองค์ทุกคน และทรงเข้าใจ ใส่ใจดูแลแต่ละคนอย่างเฉพาะเจาะจงเป็นการส่วนตัว ดังนั้น ประสบการณ์ของแต่ละคนในเหตุการณ์เดียวกัน อาจแตกต่างกันไป แต่สำหรับฉันนั้น ได้รับบทเรียนจาก Commander มาดเข้มทั้ง 5 ท่าน ดังนี้
 การเชื่อฟังและปฏิบัติตาม ผบ.อย่างไม่มีเงื่อนไข บอกเราว่าต้องเชื่อฟังพระเจ้าในทุกทางของเรา [สภษ.3:6] จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า และพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น
 ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ต้องขออนุญาต ผบ.ทุกครั้ง บอกเราว่า จะทำอะไรก็ตามต้องร้องทูลต่อพระเจ้า พระผู้ทรงเป็นเจ้าชีวิตเรา [สดด.57:2] ข้าพเจ้าร้องทูลต่อพระเจ้าองค์ผู้สูงสุด ต่อพระเจ้าผู้ทรงกระทำการให้สำเร็จเพื่อข้าพเจ้า
 ต้องท่องคำขวัญให้ได้อย่างคล่องแคล่ว ขึ้นใจ ไม่ขาด ไม่เกิน เช่นเดียวกับการที่เราต้องภาวนาพระคำพระเจ้าและรักษาพระบัญญัติของพระองค์ ไม่มากกว่าหรือน้อยกว่า หากว่าตามพระบัญชาของพระองค์ [ยชว.1:8] อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากปากของเจ้า แต่เจ้าจงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้นทุกประการ แล้วเจ้าจะมีความจำเริญ และเจ้าจะสำเร็จผลเป็นอย่างดี

 ไม่ตอบสนองเกินขอบเขต บอกเราว่า เราควรทำในส่วนของเราเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นพระเจ้าจะทรงกระทำ [ฉธบ.32:35] การแก้แค้นและการตอบสนองเป็นของเรา รอเวลาเมื่อเท้าของเขาจะลื่นพลาด เพราะว่าวันหายนะของเขามาใกล้แล้ว และกรรมจะมาถึงเขาโดยเร็วพลัน
 ต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจาก ผบ.เฝ้าดูเราอยู่ เหมือนกับที่พระเจ้าทรงทอดพระเนตรดูเราอยู่ ดังนั้นเราต้องไวและระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อจะไม่พลาดน้ำพระทัยของพระองค์ [อฟ.6:18] จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา ทั้งนี้จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่าง จงอธิษฐานเพื่อธรรมิกชนทุกคน
 การตรงต่อเวลา ทุกอย่างถูกกำหนดในกรอบเวลาของ ผบ. เราจึงต้องทำตามคำสั่งอย่างถูกต้องครบถ้วน และทันเวลา เช่น ภายในเวลาที่จำกัด ต้องอาบน้ำ กินข้าว เข้านอน เป็นต้น [ยรม.8:7] แม้ว่านกกระสาดำบนฟ้า ยังรู้จักเวลากำหนดของมัน และนกเขา นกนางแอ่น และนกกรอด ได้รักษาเวลามาของมัน…
 การใส่ใจห่วงใยผู้อื่น ไม่ใช่แค่เพียงว่าเราจะดูแลไม่ให้ตัวเองถูกลงโทษ แต่เราต้องดูแลผู้อื่นด้วย ทั้งในทีมและนอกทีม ความรอดก็เช่นกัน มิใช่ว่าเรารอดคนเดียว แต่ความรอดต้องไปถึงผู้อื่นด้วย ต้องรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง [รม.13:8] อย่าเป็นหนี้อะไรใคร นอกจากความรักซึ่งมีต่อกัน เพราะว่าผู้ที่รักเพื่อนบ้าน ก็ได้ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติครบถ้วนแล้ว
 ทำอะไรต้องทำอย่างเต็มที่ สุดความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการชงกาแฟ จัดอาหารว่าง ทำความสะอาด ร้อง เล่น เต้น กิน หรือแม้แต่การแสดงเพลงเชียร์ด้วยท่าช้อนลูกน้ำซึ่งนำทีมโดยพี่อิ๋วหัวหยิก (ฮามากคะ ขอบอก)[มก.12:30] และพวกท่านจงรักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน ด้วยสุดความคิดและด้วยสิ้นสุดกำลังของท่าน และปฏิบัติต่อพี่น้องด้วยความชื่นชมยินดี เสมือนหนึ่งปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า [สดด.2:11] จงปรนนิบัติพระเจ้าด้วยความยำเกรง และจงเกษมเปรมปรีดิ์จนเนื้อเต้น
 กำลังซาบซึ้งตรึงใจ ร้องห่มร้องไห้กัน ฉับพลันพวกเราก็ต้องรีบเก็บอาการซึ้งอย่างกระทันหัน เพราะพี่ ผบ.มาดเข้มเริ่มปฏิบัติการ โฮ…ไม่น่าเลย แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่บอกเราว่า เราต้องพร้อมเสมอสำหรับการเสด็จมาขององค์พระเจ้า ด้วยเราไม่รู้จริงๆ ว่า พระองค์จะเสด็จมาเมื่อไร [วว.3:3] เหตุฉะนั้นเจ้าจงระลึกว่าเจ้าได้รับและได้ยินอะไร จงกระทำตามและกลับใจเสียใหม่ ถ้าเจ้าไม่เฝ้าระวัง เราจะมาหาเจ้าเหมือนอย่างขโมย และเจ้าจะไม่รู้ว่าเราจะมาหาเจ้าเมื่อไร
 ทุกอย่างที่ ผบ. สั่งมานั้น หากเราปฏิบัติตามได้ครบถ้วนไม่บกพร่อง เราก็จะไม่โดนลงวินัย ไม่มีกากบาทที่ป้ายชื่อขอเรา แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะมีกากบาทกันหมดเลยนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไร เราจะเป็นคนนั้น เหมือนที่พี่ชายจากสุพรรณบุรีพูดว่า “จะไม่ยอมให้พระเจ้าลงวินัย กากบาทเขาเด็ดขาด” [กท.3:24] เพราะฉะนั้นธรรมบัญญัติจึงควบคุมเราไว้จนพระคริสต์เสด็จมา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ
.....สรรเสริญ สรรเสริญ สรรเสริญ.....

ไม่มีความคิดเห็น: