Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

จงจดจ่อต่อพระเจ้า

สรรเสริญพระเจ้าสำหรับเช้าวันใหม่ที่ชุ่มช่ำด้วยพระเมตตาหลั่งมา
ฝนตกชุกปลายฤดู!

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระคำของพระองค์ที่มีมาถึงฉันในวันนี้

สภษ.6
16มีหกสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงเกลียด มีเจ็ดซึ่งเป็นที่น่าเกลียดน่าชังสำหรับพระองค์
17ตา ยโส ลิ้นมุสา และมือที่ทำโลหิตไร้ผิดให้ตก
18จิตใจที่คิดแผนงานโหดร้าย เท้าซึ่งรีบวิ่งไปสู่ความชั่ว
19พยานเท็จซึ่งหายใจออกเป็นคำมุสา และคนผู้หว่านความแตกร้าวท่ามกลางพวกพี่น้อง
พระบิดาเจ้าข้า เราจะทำในสิ่งที่ชอบพระทัยพระองค์ [รม.12:2] อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม

เราเป็นทหารของพระคริสต์ เราสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระองค์
จะทำในสิ่งที่ซาตานเกลียด 2 สิ่ง ฮ่า ฮ่า คือ การอธิษฐานวิงวอน และการเป็นผู้รับใช้ที่ถ่อมใจ

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับข้อพระคัมภีร์ที่จะแบ่งปันในกลุ่มเซล The Shepherd วันนี้ คือ คลส.3:1-4 ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย ขอพระเจ้ามา 2-3 วันแล้ว สำหรับข้อที่จะนำมาแบ่งปันให้ตรงกับเหตุการณ์ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และก็มีข้อพระคัมภีร์เข้ามามากมายเลย แต่ก็ยังรู้สึกว่า ไม่ใช่นะ จนกระทั่งเมื่อเช้าอ่านไปอ่านมา และพระเจ้าทรงนำให้ไปเปิดพระคัมภีร์ฉบับอมตธรรม ทั้งๆ ที่โดยปกติแล้วจะอ่านฉบับ 1971 ซึ่งถือเป็นฉบับมาตรฐานที่นิยมใช้กันทั่วไป
ในฉบับอมตธรรมเป็นดังนี้

โคโลสี ฉบับอมตธรรม การดำเนินชีวิตอันบริสุทธิ์
3:1 ในเมื่อทางให้ท่านทั้งหลายเป็นขึ้นกับพระคริสต์แล้วก็จงให้ใจของท่านจดจ่อกับสิ่งที่อยู่เบื้องบน ที่ซึ่งพระคริสต์ประทับอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์พระเจ้า
3:2 จงให้ความคิดของท่านจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เบื้องบนมิใช่ฝ่ายโลก
3:3 เพราะท่านตายแล้ว และบัดนี้ชีวิตของท่านถูกซ่อนอยู่กับพระคริสต์ในพระเจ้า
3:4 เมื่อพระคริสต์ผู้ทรงเป็นชีวิตของท่านปรากฎ เมื่อนั้นท่านก็จะปรากฎพร้อมกับพระองค์ในพระสิริด้วย

โคโลสี King James Version : จงแสวงหาสิ่งที่อยู่เบื้องบน
3:1 ถ้าท่านรับการทรงชุบให้เป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์แล้ว ก็จงแสวงหาสิ่งซึ่งอยู่เบื้องบนในที่ซึ่งพระคริสต์ทรงประทับข้างขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า
3:2 จงฝังความคิดของท่านไว้กับสิ่งทั้งหลายที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่กับสิ่งทั้งหลายซึ่งอยู่ที่แผ่นดินโลก
3:3 เพราะว่าท่านได้ตายแล้วและชีวิตของท่านซ่อนไว้กับพระคริสต์ในพระเจ้า
3:4 เมื่อพระคริสต์ผู้ทรงเป็นชีวิตของเราจะทรงปรากฏ ขณะนั้นท่านก็จะปรากฏพร้อมกับพระองค์ในสง่าราศีด้วย

โคโลสี พระคัมภีร์ฉบับแปลไทย 1971 โดยสมาคมพระคริสต์ธรรมคัมภีร์
3:1 ถ้าท่านรับการทรงชุบให้เป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์แล้ว ก็จงแสวงหาสิ่งซึ่งอยู่เบื้องบนในที่ซึ่งพระคริสต์ทรงสถิตอยู่ คือประทับข้างขวาของพระเจ้า
3:2 จงเอาใจใส่สิ่งที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่สิ่งซึ่งอยู่ที่แผ่นดินโลก
3:3 เพราะว่าท่านได้ตายแล้ว และชีวิตของท่านซ่อนไว้กับพระคริสต์ในพระเจ้า
3:4 เมื่อพระคริสต์ผู้ทรงเป็นชีวิตของเราทรงปรากฏ ขณะนั้นท่านก็จะปรากฏพร้อมกับพระองค์ในศักดิ์ศรีด้วย

พระเจ้าทรงสอนสิ่งนี้กับฉันแบบเข้มข้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28/9/08 ที่ผ่านมา ประเด็นที่กระแทกใจอย่างมากคือ โคโลสี 3:2 เหตุเกิดเนื่องจาก ฉันจะรู้สึกว่าผิวฉันไม่สวย ก็อยากสวย จึงไปทายารักษาใบหน้าเมื่อคืนวันศุกร์ พอวันเสาร์ก็เกิดอาการแดงขึ้นมา และก็แสบๆ คันๆ ซึ่งฉันไม่ได้ตกใจ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นฤทธิ์ของยา แต่มีสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจคือ “ความอาย” ก็ได้แต่อธิษฐานขอพระเจ้าทรงเจิมยาที่ใช้นี้ ให้การรักษาได้ผล และขอที่จะไม่มีใครทักฉันเรื่องใบหน้า เพราะถ้าถูกทักก็จะคิดมาก แต่ถ้าไม่ถูกทัก ก็จะผ่านเลยไป…ก็ขอบคุณพระเจ้า เมื่อวันเสาร์ที่เข้าไปสอนหนังสือเด็กที่ชุมชนสระแก้ว ก็ไม่มีใครทักฉันเรื่องใบหน้าเลย…วันเสาร์ผ่านไปได้แล้ว

เช้าวันอาทิตย์ตื่นขึ้นมา หน้าแดงมากๆ ลอกด้วยบางส่วน ก็ไม่อยากไปโบสถ์เลย แบบว่าอายเขาน่ะ กลัวคนทัก แต่ขอบคุณพระเจ้าที่สุดท้ายฉันก็ไปโบสถ์ เพราะคิดถึงการนมัสการร่วมกับพี่น้อง ไม่อยากพลาดการนมัสการ คิดไว้ในใจว่าเมื่อนมัสการเสร็จก็จะกลับทันที ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น และไม่เข้าร่วมพบปะกับทีมอธิษฐาน 24 หน่วยด้วย และในวันนั้นที่โบสถ์ฉันแทบไม่มองหน้าใครเลย หลบหน้าชาวบ้านตลอด เมื่อนมัสการเสร็จฉันก็เผ่นแน่บลงมา โดยไม่เข้าไปทักทายใคร เดินบันไดลงมา แต่เนื่องจากถ้าหากเดินลงจากชั้น 5 ฝั่งลิฟต์มาเรื่อยๆ จนถึงที่ทานข้าวด้านล่างนั้น คนจะใช้เส้นทางนี้มาก ฉันเลยเลี้ยวตรงชั้น 3 เพื่อเดินลงบันไดอีกฝั่งหนึ่ง แต่ ไอ๋หยา! เสียงพี่ตุ๊กตาเรียกจากด้านหลัง ฉันเลยต้องหยุด พี่ตุ๊กตานั่งอยู่น้องแพท และ Esther เรากำลังจะอธิษฐานเผื่อพี่เอกที่จะสอบเนติบัณฑิต ฉันก็เลยไปไหนไม่ได้ และก็นัดกับพี่ตุ๊กตาว่าจะมาคุยกันต่อด้านล่าง เราแยกกันสักพักหนึ่ง เพราะพี่ตุ๊กตาติดธุระบางอย่าง ฉันเลยไปรอข้างล่างบริเวณบ่อบัพติศมา ก็กะว่าคุยกับพี่ตุ๊กตาเสร็จก็จะรีบกลับ…เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พี่น้ำหัวหยิกนั่นเอง “น้องอยู่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ!” แล้วพี่น้ำก็ลงมาหว่านล้อมหนุนใจให้ฉันเข้าร่วมประชุมกับทีม 24 หน่วย ซึ่งฉันก็ยืนกรานอยู่สักพักหนึ่ง พี่น้ำและฉันอยู่ในกระบวนการ Inner Healing ซึ่งกันและกัน พี่น้ำจึงรู้ว่าฉันมีปัญหาตรงนี้อยู่ ในเรื่องของใบหน้า ซึ่งเป็นจุดอ่อนของฉัน และในสิ่งที่เป็นจุดอ่อนนี่แหละที่พระเจ้าทรงต้องการพังมันให้ทลายลง ฉันตอบพี่น้ำไปว่าไม่ได้หนีนะ แค่จะรีบกลับบ้าน ใช้เวลากับพระเจ้า ฉันอยากอยู่คนเดียว (ดู ดู้ ดู…ดูฉันทำ ทำไมถึงตอบแบบนั้นได้) แต่พี่น้ำตื้อ ไม่ยอมให้กลับ และบอกว่าถ้าน้องไม่อยู่นั่นคือน้องหนีนะ สอบตกนะ และไม่มีใครมองน้องจากภายนอกหรอก พี่ว่าน้องน่ารักดีออก หน้าแดงเป็นสง่าราศีของพระเจ้า และพี่น้ำก็ทั้งดึงทั้งผลักด้วยวิธีการต่างๆ จนฉันยอมที่จะขึ้นไปประชุม พอดีพี่ตุ๊กตาลงมา จึงยังขึ้นไปไม่ได้ แต่ฉันก็ยืนยันกับพี่น้ำว่า ไปหมายถึงไป จริงก็บอกว่าจริง ใช่ก็บอกว่าใช่ แล้วพี่น้ำก็ยึดกระเป๋าฉันเป็นหลักประกัน เดินตัวปลิวขึ้นไปชั้น 5 ก่อน…แต่ฉันก็ไม่ได้คุยกับพี่ตุ๊กตาอยู่ดี เพราะต้องรีบขึ้นไปประชุมทั้งคู่ และก็ตกลงกันว่าจะคุยกันหลังเลิกประชุม

ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงนำให้ฉันได้ไปประชุมร่วมกับพี่น้องในวันนั้น หากไม่ไป คงพลาดบางอย่างไปอย่างน่าเสียดาย…หลังประชุม ก็มานั่งรอพี่ตุ๊กตาด้านล่าง พอพี่น้ำมาก็ดึงตัวไปเจรจา “ไหนบอกว่าหลุดและไม่คิดเรื่องนี้แล้วไง” และพี่น้ำก็เทศนาย่อยๆ ให้ฟัง ฉันก็เอ่อ อ่า และฉับพลัน ในขณะที่พี่น้ำหันไปคุยกับคนอื่น ฉันก็ได้รับคำตอบและต้องรีบสารภาพกับพระเจ้าในทันที ฉันบอกว่าฉันรักพระเจ้า ฉันไว้ใจพระองค์ พระองค์มองฉันที่หัวใจ พระองค์ไม่เคยสนพระทัยว่าฉันจะอาบน้ำหรือเปล่า แต่งตัวยังไง รูปร่างหน้าตาเป็นยังไง จะรวยหรือจะจน พระองค์ทรงรักฉันอย่างที่ฉันเป็น และฉันก็ซาบซึ้งในความรักของพระองค์เสมอมา ทันใดนั้น ใจฉันก็ฟ้องผิด เพราะว่าฉันสามารถไว้วางใจพระเจ้าได้ เข้าเฝ้าพระเจ้าได้ในทุกสภาพ ในทุกสถานการณ์ หน้าตาจะแดงๆ บวมๆ ลอกๆ ฉันก็เข้าเฝ้าพระเจ้าได้อย่างมั่นใจ แต่ทำไมฉันไม่ไว้วางใจพี่น้อง ฉันตัดสินไปเองว่าพี่น้องจะชื่นชอบฉันจากหน้าตาของฉัน ฉันไม่ไว้วางใจความรักของพี่น้อง และที่ฉันบอกว่าฉันรักพระเจ้าและไว้วางใจพระเจ้า แต่ฉันไม่ไว้วางใจพี่น้องทั้งหลายซึ่งพระเจ้าทรงสร้างขึ้นและให้เขาเหล่านั้นมีส่วนในชีวิตของเราเลยหรือ…Wow! ฉันทำอะไรอยู่นี่ คิดอะไรอยู่นี่ ฉันผ่านอะไรมาได้ตั้งหลายอย่าง จากศัตรูที่อยู่ภายนอก แต่ฉันจะมาแพ้ศัตรูที่อยู่ภายในหรือ?...สุดท้ายฉันก็ยอมจำนน สารภาพความบาปผิดกับพี่น้ำและพี่น้อง ตอนหลัง ต้ากับโบว์ลิ่งก็มานั่งด้วย และทุกคนก็ร่วมกันอธิษฐานเผื่อฉัน

เรายกโขยงไปกินไอศกรีมสเวนเซ่นกัน โดยพระเจ้าทรงเลี้ยงดูผ่านกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินไม่ขาดของพี่น้ำ ณ ร้านไอติม ทุกคนได้แบ่งปันและขอบคุณพระเจ้า ฉันจึงได้แบ่งปันเรื่องราวของฉันกับพี่น้อง เนื่องจากฉันจดจ่ออยู่ที่ตัวเอง มองเหตุการณ์ด้วยสายตาแบบชาวโลก ไม่ได้จดจ่อไปที่พระเจ้าเบื้องบน ยืดตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ได้ให้พระเจ้าเป็นใหญ่ เหตุการณ์เช่นที่กล่าวมาจึงเกิดขึ้น…ขอบคุณพระเจ้า เราสามารถขอบคุณพระองค์ได้ในทุกกรณี เมื่อฉันสารภาพ พระองค์ทรงอภัย และทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลดีในทุกสิ่ง

พระธรรมโคโลสี อมตธรรม, King James, 1971
3:2 จงให้ความคิดของท่านจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เบื้องบนมิใช่ฝ่ายโลก
3:2 จงฝังความคิดของท่านไว้กับสิ่งทั้งหลายที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่กับสิ่งทั้งหลายซึ่งอยู่ที่แผ่นดินโลก
3:2 จงเอาใจใส่สิ่งที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่สิ่งซึ่งอยู่ที่แผ่นดินโลก

ในวันอาทิตย์ช่วงเย็น พี่แมม ยายรุณ พี่น้ำ และฉัน ได้มีโอกาสไปนมัสการและหนุนใจพี่จิ๋มที่บ้านรังสิต…ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงใช้คนเล็กน้อยอย่างฉัน หากฉันอ่อนแอ ไม่หลุดกับจุดอ่อนที่เผชิญ ศัตรูของเราคงหัวเราะเยาะ และฉันก็คงไม่สามารถไปช่วยใคร หรือหนุนจิตชูใจใครได้…ขอบคุณพระเจ้า วันอาทิตย์จบลงอย่างสวยงาม ด้วยการขอบพระคุณพระเจ้า

โดย กล้วยน้ำว้า
วันที่ 1/10/2008

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับคำพยานที่หนุนใจเป็นอย่างมาก
แม้ผ่านไปหลายปีที่พระวจนะของพระเจ้าไม่เคยล้าสมัย
ขอให้มีความสวยและเต็มไปด้วยสง่าราศีจากพระเจ้านะ
sathukun