มารธา-มารีย์

เพลงที่ผุดขึ้นมาให้ร้องในเช้าวันนี้คือ “พระองค์ทรงสมควร” Wow! ด้วยว่า “พระองค์ทรงสมควรจะได้รับการสรรเสริญ พระองค์ทรงสมควรที่จะรับการโมทนา เพราะพระองค์แสนดี และไม่มีใครเหมือน พระองค์ทรงสมควรที่จะรับการสรรเสริญ” แล้วพระบิดาก็ทรงค่อยๆ สำแดงแผนงานของพระองค์กับฉัน ด้วยเรื่องราวของ 2 ศรีพี่น้อง มารธาและมารีย์

[ลก.10:39] มารธามีน้องสาวชื่อมารีย์ และมารีย์ก็นั่งใกล้พระบาทพระเยซูฟังถ้อยคำของพระองค์ด้วย พระองค์ทรงตรัสกับฉันชัดเจนให้เป็นแบบมารีย์ ที่มีชีวิตอยู่เพื่อพระคริสต์ โดยให้พระองค์เป็นที่หนึ่งในชีวิตจริงๆ และไม่ยอมให้สิ่งอื่นใดมาขัดขวางการเข้าเฝ้าพระคริสต์ของฉันได้ “พระองค์เจ้าข้า ลูกรักพระองค์ รักพระองค์มากกว่าสิ่งใด รักพระองค์มากกว่าที่ผ่านมา ลูกปรารถนาอยู่แทบพระบาทของพระองค์ทุกลมหายใจของลูก…ลูกรักพระองค์มากกว่าอาชีพการงาน มากกว่าครอบครัว มากกว่าชื่อเสียงเงินทอง มากกว่าเพื่อนฝูง มากกว่าการรับใช้ มากกว่าสิ่งอื่นใด คือ พระบิดาของลูก”

พระคำวันนี้ทำให้ฉันนึกย้อนไปถึงสิ่งที่ฉันทำเมื่อไม่นานมานี้ คือ ทุ่มเทกับงานรับใช้มาก ทำเกือบทุกวันหลังเลิกงาน รวมทั้งเสาร์อาทิตย์ด้วย จนร่างกายเหนื่อยล้า สมองเชื่องช้า จิตวิญญาณเฉื่อยชา เพราะไม่ได้ติดสนิทกับพระเจ้า ตอนนั้นแค่อธิษฐานและอ่านพระคัมภีร์ให้ผ่านไปวันๆ ตามหน้าที่ เหมือนมารธา ที่องค์พระคริสต์อยู่ตรงหน้า พระองค์เสด็จมาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน ไฉนเธอจึงสาละวนนัก เห็นสิ่งอื่นสำคัญกว่าพระเยซู เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังต่อว่าน้องสาวของเธอที่ไม่ช่วยงาน และอาจจะเกินเลยพาลโกรธพระเยซูไปด้วย

มารีย์เป็นแบบอย่างในการจัดลำดับความสำคัญ ที่ให้องค์พระคริสต์เป็นที่หนึ่งในชีวิต พระองค์สำคัญที่สุด และชีวิตของมารีย์นั้นเป็นชีวิตที่ทุ่มเทกายใจ วิญญาณ เพื่อพระคริสต์อย่างแท้จริง เธอนมัสการพระเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจของเธอ เธอถวายสิ่งที่มีค่าที่สุดและดีที่สุดแด่องค์พระเยซู ดังใน [ยน.12:3] มารีย์เอาน้ำมันหอมนารดาบริสุทธิ์หนักประมาณครึ่งกิโลกรัม ซึ่งมีราคาแพงมากมาชโลมพระบาทพระเยซู และเอาผมของเธอเช็ดพระบาทของพระองค์ เรือนก็หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นน้ำมันนั้น…

“โอ พระเจ้า ขอทรงโปรดยกโทษให้ลูกด้วย ที่ลูกเห็นสิ่งอื่นสำคัญกว่าพระองค์ ลูกทำงานรับใช้พระองค์ ลูกเตรียมหลายสิ่งเพื่อพระองค์ เหมือนมารธาที่พยายามเตรียมอาหาร เตรียมบ้าน เพื่อต้อนรับพระองค์ แต่ลูกไม่ได้ใส่ใจว่าพระประสงค์ที่แท้จริงของพระองค์ในชีวิตของลูกคืออะไร…คือการ เข้าเฝ้าพระองค์ ติดสนิทพระองค์ บอกรักพระองค์ นมัสการพระองค์ทุกวัน…พระองค์คือสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูก”

แล้วในเรื่องของการรับใช้ล่ะ จะทำอย่างไร เราจะช่วยกันและกันอย่างไร?
พระเจ้าทรงตรัสกับฉันด้วยพระธรรมอพยพ [อพย.17:10] โยชูวาก็ทำตามคำสั่งของโมเสส ออกสู้รบกับพวกอามาเลข ส่วนโมเสส อาโรน และเฮอร์ ก็ขึ้นไปบนยอดภูเขานั้น [อพย.17:11] โมเสสยกมือขึ้นเมื่อไร อิสราเอลก็ได้เปรียบเมื่อนั้น ท่านลดมือลงเมื่อไร พวกอามาเลขก็เป็นต่อเมื่อนั้น [อพย.17:12] แต่มือของโมเสสเมื่อยล้า เขาทั้งสองก็นำก้อนหินมาวางไว้ให้โมเสสท่านนั่ง อาโรนกับเฮอร์ก็ช่วยยกมือท่านขึ้นคนละข้าง มือของท่านก็ชูอยู่จนตะวันตกดิน…พระพรที่ได้จากพระธรรมข้อนี้คือ เราต่างล้วนเป็นอวัยวะในพระกายของพระคริสต์ ในคริสตจักรของพระคริสต์ ซึ่งมีพระองค์เป็นศิลามุมเอก เราต่างมีหน้าที่ของตน และต่างต้องช่วยเหลือกันและกัน…เมื่ออยู่ในคริสตจักร เราต้องเชื่อฟังผู้นำ ดังโยชูวาเชื่อฟังโมเสส ออกไปสู้รบกับชนอามาเลข …เออ คิดดูสิว่าหากโมเสสผู้ชราออกไปรบนั้น สภาพจะเป็นเช่นไร ก็ต้องมีคนอย่างโยชูวาออกไปเป็นแม่ทัพสู้อยู่เบื้องหน้า แต่ก็ต้องมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด คือ โมเสส และโมเสสเอง แม้จะเป็นผู้นำ ก็ยังต้องการผู้ช่วยที่ดี แน่นอนว่าโมเสสไม่สามารถยกมือของตนได้ทั้งวันทั้งคืน ซึ่งทำให้โมเสสต้องขอบคุณพระเจ้าที่มีอาโรน และเฮอร์ คอยสนับสนุนค้ำจุนโมเสส จนทำให้โยชูวาสามารถปราบชนชาติอามาเลขสำเร็จ…เห็นแล้วว่า จะขาดคนใดคนหนึ่งหรืออวัยวะหนึ่งไปไม่ได้เลย


ตอนเย็นก็เข้ากลุ่ม Alpha course เหมือนเดิม สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์เกือบสุดท้ายแล้ว วันนี้น้องเจิน เจิน รุ่นน้องที่ทำงานไปด้วย เราหวังใจว่าเจินเจินจะเปิดใจรับพระกิตติคุณของพระเจ้า






เกมส์วันนี้ นำโดยหมอวี ไม่รู้สรรหาเกมส์อะไรมาเล่น บ้าชะมัดเลย มันสนุกมาก!…พี่น้ำนำนมัสการด้วยเพลง “เราจะสร้างประชากรเพื่อการสรรเสริญ และ ในเวลา” จากนั้น แม่ Anne เป็น Speaker แบ่งปันเรื่องคริสตจักร…และเราก็ถ่ายรูปหมู่กัน

พี่ป๊อบกับพี่น้ำให้เกียรติไปพักที่คอนโด เราจึงได้นมัสการพระเจ้าร่วมกัน พี่น้ำแบ่งปันพระคำให้กับพี่ป๊อบ…พี่ป๊อบตื่นเต้นในการเดินกับพระคริสต์มาก มีเรื่องมาเล่าให้เราฟังเยอะแยะเลย…ฮาเลลูยา

ด้วยรักในพระคริสต์
จาก กล้วยน้ำว้า
25/9/2008