Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

แป้งในหม้อไม่หมด น้ำมันในไหไม่ขาด

วันที่ 30/5/2008

พระเจ้าทรงกระทำการอัศจรรย์ในชีวิตของฉันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะมองเห็นไม่ชัดเจนนักในด้านรูปธรรม แต่มันเด่นชัดในด้านนามธรรม ช่วงเวลาเช่นนี้เองที่ทำให้ฉันเติบโตในพระคุณของพระเจ้ามากขึ้น

ตอนนี้ทุกอย่างดูดีและลงตัวไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องการสอน เรื่องการรับใช้ ยกเว้นเรื่องเงินเท่านั้นที่ยังคงไม่ลงตัว ทว่าสิ่งเหล่านี้ก็มิได้ทำให้ฉันสะดุดกับการเดินตามพระเจ้าแต่อย่างใด ฉันเชื่อเสมอว่าพระสัญญาของพระเจ้านั้นเป็นจริงทุกประการ “พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง” (รม.8:28)

ปัญหาเรื่องเงินเกิดขึ้นเนื่องจากการซื้อคอนโด โดยเงินเดือนที่ได้รับจะสามารถให้แม่และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของบ้านแม่ที่ดอนเมือง ผ่อนคอนโด และจะมีเงินเหลือใช้ในแบบสบายๆ แต่เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นของการย้ายเข้าคอนโด ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์และตบแต่งไปหลายอย่าง จึงมีหนี้สินในส่วนนี้เพิ่มเข้ามา แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นการผ่อนศูนย์เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องทะยอยใช้ในแต่ละเดือน และก็เพียงพอ เพราะก่อนจะจ่ายได้คาดคะเนไว้แล้ว…แต่อะไรที่ไม่คิดก็มักจะเกิดขึ้นได้ เช่น หากเดือนไหนมีซองมาก งานแต่ง งานศพ (ดีนะ ที่เราตัดซองผ้าป่าออกไปได้) หรือเดือนไหนที่แม่ขอพิเศษ ก็จะเริ่มมีปัญหาแล้ว

วันที่ 16 พ.ค. 2008 พระเจ้าตรัสชัดเจนถึงการเลี้ยงดูอันสัตย์ซื่อของพระองค์ใน [1พกษ.17:16] “แป้งในหม้อก็ไม่หมดน้ำมันในไหก็ไม่ขาด” ขอบคุณพระเจ้า และพระเจ้าได้ทรงย้ำชัดด้วยการให้ฉันระลึกถึงภาพการเลี้ยงดูชาวอิสราเอลในถิ่นทุรกันดาร ฉันจึงได้อธิษฐานดังนี้

“ข้าแต่พระบิดาเจ้า พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และสูงสุด พระองค์ทรงสร้างฟ้า สวรรค์ และแผ่นดินโลก พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ พระองค์ทรงสร้างข้าพระองค์ พระองค์ทรงเลี้ยงดูข้าพระองค์ดุจเลี้ยงแกะ พระองค์จะทรงนำข้าพระองค์นอนลงในทุ่งหญ้าเขียวสด ที่ริมน้ำแดนสงบ พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงเลี้ยงดูชาวอิสราเอลในถิ่นทุรกันดารฉันใด พระองค์ก็จะทรงเลี้ยงดูข้าพระองค์ฉันนั้น พระองค์เจ้าข้า
ยามหิวโหย พระองค์ทรงโปรดประทานอาหาร
ยามกระหาย พระองค์ทรงประทานน้ำดื่ม
ยามร้อน พระองค์ทรงประทานเสาเมฆ
ยามหนาวเหน็บและมืดมิด พระองค์ทรงประทานเสาเพลิง
ยามป่วยไข้ พระองค์ทรงประทานการรักษา
ยามถูกศัตรูรุกราน พระองค์ทรงประทานชัยชนะ
ยามประสบปัญหา พระองค์ทรงประทานหนทางแก้ไข

พระบิดาเจ้าข้า ข้าพระองค์วางใจในพระองค์ ข้าพระองค์รอคอยพระองค์ ขอทรงโปรดฟังคำวิงวอนของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอมอบทุกสิ่งในชีวิตไว้ในอุ้งพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า…อาเมน”

วันที่ 18 พ.ค. 2008 พระเจ้าได้ทรงตรัสผ่าน ศบ.ขณะเทศนาอีกครั้ง ถึงการเลี้ยงดูผู้รับใช้พระเจ้าอย่างอัศจรรย์ “แป้งในหม้อก็ไม่หมด น้ำมันในไหก็ไม่ขาด” รวมถึงภาพที่พระเจ้าทรงเลี้ยงดูอิสยาห์ผ่านฝูงกา และการที่อิสยาห์เป็นแบบอย่างในการอธิษฐานวิงวอนต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า

วันที่ 19 พ.ค. 2008 วันนี้ทีมอธิษฐานทั้ง 24 หน่วยของนิมิตใหม่ (แต่บางหน่วยติดธุระ) ได้ไปรวมตัวกันที่บ้าน ดร.ปิยะรัตน์ แถวพัฒนาการ ฝนตกหนักมาก และตกนานด้วย จนน้ำท่วมเข้ารถพี่ตุ๊กตา เราต้องวิดน้ำออกจากรถกัน แต่ก็ขอบคุณพระเจ้าสำหรับฝนที่ตกหนักมาก เป็นการย้ำพระสัญญาของพระเจ้า และทำให้ระลึกถึงพระพรของพระเจ้าที่จะหลั่งไหลลงมาดุจดังสายฝน…ขณะขับรถกลับนั้น รถอาการไม่ค่อยดี และโดนน้ำท่วมด้วย จึงอธิษฐานกันอย่างหนัก ขอพระเจ้าช่วยเราฝ่าผืนน้ำออกไปได้เหมือนที่ทรงนำชาวอิสราเอลข้ามแม่น้ำจอร์แดน และปากเราก็ท่องไปว่า “น้ำมันในถังก็จะไม่ขาด เงินในกระเป๋าก็จะไม่หมด”…ด้วยพระคุณของพระเจ้า ทรงปกป้องรถไว้ไม่ให้เกิดอันตรายก่อนหน้านี้ แต่ยางได้แตกตอนใกล้จะถึงบ้าน แต่พี่ตุ๊กตาก็ขับกลับบ้านด้วยความปลอดภัย และนึกไม่ออกเลยว่าหากยางแตกระหว่างทาง และไกลบ้าน ในขณะที่ฝนก็ตกเรื่อยๆ นั้น จะเกิดอะไรขึ้น

วันที่ 20 พ.ค. 2008 อ่านหนังสือ ฟังพระสุรเสียง โดย ซินดี้ จาคอป พออ่านถึงข้อความต่อไปนี้ ก็เหมือนกับประโยคนั้นเข้ามาปะทะฉันอย่างจัง พระเจ้าตรัสว่า “พระเจ้าจะทรงนำข้าพระองค์ข้ามแม่น้ำจอร์แดน” ซึ่งในหนังสืออธิบายว่าหมายถึง คุณกำลังจะเข้าสู่พระพรใหญ่ของแผ่นดินที่ทรงสัญญาไว้ของคุณ มันอาจจะหมายถึงว่า คุณกำลังเข้าสู่จุดมุ่งหมายใหญ่ของชีวิต หรือคุณกำลังจะสู้กับคนยักษ์บางคน…และอีกประโยคหนึ่งที่สะดุดคือ “เจ้าจะได้รับเท้าหลังของกวางตัวเมียเพื่อปีนไปบนที่สูง” คือก็ไม่ค่อยได้เจอกวางที่เป็นกวางจริงสักเท่าไร เจอแต่คนชื่อกวาง เลยนึกภาพไม่ค่อยออก แต่ในหนังสืออธิบายว่า “พระเจ้าจะทรงให้ความบริสุทธิ์ของหัวใจและความคิดแก่คุณ เพื่อทำสิ่งที่พระองค์ทรงกำหนดให้คุณทำ การทรงเรียกจากพระเจ้าในชีวิตของคุณนั้นสูง พระเจ้าจึงทรงชำระและทำให้คุณบริสุทธิ์ เพื่อทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ” ขอบคุณพระเจ้า

วันที่ 21 พ.ค. 2008 วันนี้กลุ่ม Cell The Shepherd ของเราคนน้อยมาก ขาประจำก็มีพี่ตุ๊กตา พี่เอก และฉัน แต่เรามีแขกมาร่วมด้วย คือ น้อง และ อร (รุ่นน้องที่บริษัท) เราอธิษฐานขอพระเจ้าจะทรงเปิดใจให้อรรับพระเยซูเข้ามาประทับในชีวิต…เรามีพิธีมหาสนิทด้วย

วันที่ 22 พ.ค. 2008ได้อ่านหนังสือเรื่อง “นี่คือพระสุรเสียงแน่หรือ” และได้พูดถึงลาซารัส ซึ่งเราก็เห็นจริงดังว่า ด้วยพระเยซูไม่ได้บำบัดรักษาให้ลาซารัสหายป่วย แต่พระองค์รอคอยจนกระทั่งลาซารัสสิ้นชีวิตไปแล้ว ต่อจากนั้นพระองค์จึงได้ตรัสเรียกลาซารัสให้ฟื้นขึ้นจากความตาย ในการเรียกให้ลาซารัสฟื้นขึ้นมานี้ นำสง่าราศีมาสู่พระเจ้าได้มากกว่าการที่จะบำบัดรักษาให้หายป่วย…ชีวิตของฉันก็เป็นเช่นนั้น ฉันได้ตายแล้วจากตัวเก่า จากตัวบาป และฉันได้ฟื้นขึ้นอีกครั้งจากความตายนั้น เพื่อรับชีวิตนิรันดร์จากพระองค์ เมื่อฉันเชื่อ ฉันก็จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า [ยน.11:40] พระเยซูตรัสกับเธอว่า "เราบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่า ถ้าเจ้าเชื่อเจ้าก็จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า"

วันที่ 23 พ.ค. 2008 ช่วงเช้างานไม่ค่อยยุ่ง สบายๆ จนต้องไปของานแผนกอื่นทำ เพราะถ้าอยู่เฉยๆ จะนั่งหลับ แต่พอก่อนเที่ยงเลยมาตลอดทั้งวันค่อนข้างยุ่ง ยิ่งเจ้านายนะ ยุ่งสุดๆๆๆๆ ฉันนึกในใจว่าดีนะที่ฉันเป็นลูกน้อง ยุ่งยังไงก็คงไม่สุดๆ เหมือนคนเป็นนาย เวลากินก็ไม่ได้กิน เวลานอนก็ไม่ได้นอน เพราะสมองคิดแต่เรื่องงาน ไม่เหมือนฉันเวลานอนก็ได้นอน เวลากินก็ได้กิน หลายครั้ง ไม่ใช่เวลากินก็ยังกินเล้ย! และก็สุขใจอะไรจะปานชะนี้

นายรู้สึกปวดหัวและเจ็บที่ต้นคอ และเครียดมาก ฉันก็อธิษฐานให้เงียบๆ ขอพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของเราช่วยเจ้านายที่รักของฉันด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอพระเจ้าเปิดใจของเจ้านายให้รับพระองค์เข้ามาประทับในชีวิต

วันที่ 29 พ.ค. 2008 โอ้โห! ตอนบ่ายเปิดกระเป๋า น้ำตาเล็ดเลย มีตังค์อยู่ประมาณ 40 บาท โอ-พระเจ้า!!! ทรงทำอะไรกับชีวิตของลูกเนี่ย ป้ายน้ำตาแหมะๆ…แต่สักพักนึงก็รู้สึกว่า Great Joy! (ตามแบบ Dr.Mathew) จงชื่นชมยินดี จงชื่นชมยินดี และเต้นโลดในทุกสถานการณ์…เป็นบททดสอบว่า ในสภาพแบบนี้จะชื่นชมยินดีได้หรือไม่! พระบิดาเจ้าข้า มันทรมานเหลือเกิน แต่เอานะ พระสัญญาของพระเจ้าเป็นจริงทุกประการ…OK ฉัน ชื่นชมยินดี!!!

ชวนแม่ไว้เพื่อไปร่วมงานของ Dr.Mathew ที่ BEC Tero ซึ่งตอนแรกแม่ปฏิเสธ แต่ต่อมาพระเจ้าก็หันใจแม่ ให้ตอบรับ เมื่อฉันโทรไปชวนอีกครั้งหนึ่งในช่วงบ่าย…พระเจ้าทรงกำลังทำงานในหัวใจของแม่ แม่โยกซ้ายโยกขวาไปกับเราด้วย ฉันขอให้แม่เอ่ยพระนามพระเยซู แม่ก็ทำ โบกไม้โบกมือกับชาวบ้านอีกตะหาก โบกจนเหนื่อยหอบ (พุงแม่ใหญ่ ยืนนานแล้วเมื่อย…อิอิ) แต่การที่แม่ไปวันนั้นก็หนุนใจฉันมากเลย

พระวจนะของพระเจ้าที่ผ่าน Dr.Mathew มายังเราก็คือ พระบิดาบนสวรรค์ทรงมั่งคั่งยิ่งนัก ดังนั้น ในฐานะที่เราเป็นลูกของพระองค์ เราจะขัดสนได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด…ฉันรับสิ่งนี้ด้วยความเชื่ออย่างสุดจิตสุดใจ เอาว่ะ ถึงแม้เงินในกระเป๋ามันจะบ่มี แต่ว่าฉันมีพระเจ้านะ ฉันเป็นลูกของพระเจ้า และมีสิทธิ์รับมรดกร่วมกับองค์พระเยซูคริสต์…Dr.Mathew กล่าวถึงตอนที่พระเยซูสาปต้นมะเดื่อ แต่ว่ามันก็ยังยืนต้นสง่าอยู่ได้ จนสาวกสงสัยว่าพระเยซูจะสิ้นฤทธิ์ซะแล้ว และเริ่มไม่แน่ใจว่าพวกเขาติดตามท่านผู้นี้มา ผิดคนหรือเปล่า แต่ในท้ายที่สุด พวกเขาได้เห็นว่าต้นมะเดื่อมันตายจริงๆ แต่มันตายมาตั้งแต่รากเลย ซึ่งก็เหมือนปัญหาของเรา บางทีเรายังเผชิญปัญหาอยู่ เรายังเห็นปัญหาอยู่ แต่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของเรากำลังทรงทำการอัศจรรย์ ปัญหาใหญ่น้อยของเราค่อยๆ ได้รับการคลี่คลายมาตั้งแต่ราก เพื่อในท้ายที่สุดแล้ว เราจะเป็นยิ่งกว่าผู้พิชิต ผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นได้อย่างสิ้นเชิง ถ้าเราสังเกตต้นไม้ทั่วไป เวลามันตาย มันจะตายจากข้างบนก่อน ใบจะค่อยๆ ร่วง และค่อยๆ ลามไปถึงราก แต่ถ้ามันได้รับสารชูกำลัง มันก็อาจจะฟื้นขึ้นมาใหม่ได้ แต่ถ้าเมื่อไรมันตายตั้งแต่รากแล้วละก็ มันไม่มีทางที่จะฟื้นขึ้นมาใหม่ได้เด็ดขาด

ก็ให้แม่ออกค่ารถเองคะ แล้วคุณลูกก็พาคุณแม่เดินซะพุงลดเลย

วันที่ 30 พ.ค. 2008
วันนี้เงินเดือนออก แต่หนี้เพียบเลย ต้องจ่ายค่านู่น ค่านี่ ค่านั่น สารพัด…ทำยังไงดีละเนี่ย…ขอบคุณพระเจ้า วันนี้มีโอกาสคุยกับเจ้านาย เพราะมีผู้บริหารที่บริษัทคนหนึ่งได้รับการเสนอหุ้นจากบริษัทซึ่งเป็นคู่ค้าของเรา พี่เค้าก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะซื้อได้หรือเปล่า เพราะกลัวผิดจรรยาบรรณ ฉันเลยนำเรื่องนี้ไปถามนาย ว่าคิดยังไง ซึ่งนายก็บอกว่าไม่ผิดหรอก เพราะว่าธุรกิจนั้นเป็นธุรกิจขายกระดาษ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท และผลประโยชน์ทับซ้อนก็จะเกิดขึ้นยาก แต่โดยส่วนตัวของนายแล้ว ในฐานะผู้บริหารระดับสูง และเป็นกรรมการของบริษัทด้วย ก็ไม่ซื้อแน่นอน จริงๆ แล้วไม่ผิดอะไร แต่เพื่อไม่ให้ใครครหาได้…ฉันจึงได้โอกาสเล่าให้นายฟังว่าฉันกำลังหางานพิเศษทำ และเป็นที่มาของการพูดคุยในประเด็นดังกล่าว และท้ายที่สุด นายมีใบหน้ายิ้มแย้ม และกล่าวว่า นายคิดหาวิธีที่จะเพิ่มรายได้ให้ฉันอยู่แล้ว อยากให้ไปช่วยงานในธุรกิจอื่นในช่วงเสาร์อาทิตย์ด้วย แต่คิดว่าฉันคงไม่ไหว เพราะทุกวันนี้ก็ทำงานเหนื่อยอยู่แล้ว การพักผ่อนจึงเป็นสิ่งจำเป็น แต่นายพอใจผลงานที่ผ่านมาของฉันมาก นายจึงจะเพิ่มเงินเดือนให้อีก ในจำนวนที่สามารถครอบคลุมรายจ่ายของครอบครัวได้…ฮาเลลูยา!!! ฉันจึงถามต่อว่า ฉันต้องทำงานอะไรเพิ่มหรือเปล่า นายบอกว่าไม่ต้อง เพราะฉันทำงานเกินความคาดหมายเสมอมา ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มหรอก ขอให้มีความสุขในการทำงาน และไม่ต้องเอาสมองไปคิดเรื่องไร้สาระประเภทเงินๆ ทองๆ อีกต่อไป…เย้!!! อยากจะกระโดดตรงนั้นเลย เมื่อวานฉันยังร้องไห้อยู่เลย แต่วันนี้ฉันชื่นชมยินดี [สดด.30:5] “…การร้องไห้อาจจะอ้อยอิ่งอยู่สักคืนหนึ่ง แต่ความชื่นบานจะมาเวลาเช้า” พระเจ้ายิ่งใหญ่จริงๆ…พระสัญญาของพระเจ้าไม่เคยล้มเหลว แต่กลับสำเร็จ และเป็นจริงทุกประการ

ภาระผูกพันด้านหนี้สินของฉัน จะหมดภายในเร็วๆ นี้ ฉันไม่ต้องกังวลเรื่องเงินๆ ทองๆ อีกต่อไป ขอบคุณพระเจ้า…พระองค์ทรงให้มากกว่าที่เราทูลขอ พระองค์ทรงมีน้ำพระทัยล้ำลึก พระองค์ทรงให้มากกว่าลำพังสติปัญญาของเราจะคิดหรือนึกได้เสียอีก “อัศจรรย์เรื่องเงินเป็นเรื่องเล็ก” เป็นคำพูดของ อ.ซิดนีย์

สรรเสริญพระเจ้า!

ด้วยรักในพระคริสต์

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมาก ๆ นะครับ