Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เชิญสาธุการพระเยซู

[O come let us adore Him]
วันที่ 14/12/2008
หัวข้อเทศนาโดย ศบ.เล็ก ของเราในวันนี้ ประทับใจฉันสุดๆ ฉันชอบคำนี้มากๆ เลย “เชิญสาธุการพระเยซู” ลองจินตนาการดูสิคะ เมื่อเราเข้าเฝ้าพระเจ้า เมื่อเราถวายสาธุการแด่พระองค์ เมื่อเราได้พบพระพักตร์ของพระองค์หน้าต่อหน้า หัวใจเราคงเต้นโลด มือไม้คงสั่นด้วยเก็บอาการตื่นเต้นไว้ไม่ไหว น้ำตาคงไหลอาบแก้มด้วยซาบซึ้งใจ เราคงก้มกราบที่แทบพระบาทพระองค์ด้วยความยินดี และคงจะแทรกตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของพระองค์…มีอะไรอีกนะ ที่เราปรารถนาจะทำ เมื่อเราพบพระองค์บนสวรรคสถาน
หลักใหญ่ใจความของบทเทศนาวันนี้เน้นไปที่การเข้าเฝ้าพระเจ้านั่นเอง ทุกครั้งที่เราเข้าเฝ้าพระเจ้า เราจะไม่เข้าเฝ้าแบบมือเปล่า แต่เราจะเข้าเฝ้าพระองค์ด้วยหัวใจ
1. เข้าเฝ้าด้วยใจแสวงหา [seeking]
2. เข้าเฝ้าด้วยใจเชื่อ [believing]
3. เข้าเฝ้าด้วยใจถวาย [giving]
4. เข้าเฝ้าด้วยใจยินยอม [surrendering]
เมื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกไปเชิญชวนชาวโลกให้เข้ามาสาธุการพระเยซูร่วมกับเรา บ่ายวันนี้มีการแยกทีม Caroling ออกเป็น 2 ทีม คือ โรงพยาบาลจุฬา โดยพยาบาลแอ๊ด และ ชุมชนสระแก้ว โดยพี่ตุ๊กตา
ณ ชุมชนสระแก้ว เราแบ่งทีม Caroling ออกเป็น 3 ทีม โดยมีพี่น้องส่วนหนึ่งนำกิจกรรมและดูแลเด็กๆ อยู่บริเวณสระน้ำสีเขียวสดของชุมชน น้ำในสระเป็นสีเขียว ช่างเหมาะเจาะสำหรับเทศกาลคริสตมาสอะไรเช่นนี้


ทีมที่ฉันไปด้วยนั้น นำโดย ศบ.เล็ก และมีพี่อิ๋วเป็นมือกีตาร์ หิ้ว Takamine เดินตามด้วยหัวใจเริงร่า ศบ.เล็ก นำพาเราทุกคนออกไปด้วยรอยยิ้ม เรานำพาสันติสุขไปยังชุมชน เราได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนหลายครัวเรือน มีการวางมืออธิษฐาน มีการหนุนใจ นำเสียงเพลงแห่งฑูตสวรรค์เปล่งเสียงประสานออกไป เสียงเพลงกังวานก้องเหนือย่านฟ้าอากาศของชุมชนสระแก้ว พระเจ้าของเราสถิตอยู่ด้วย
เมื่อกลับมาแล้ว ก็พบว่าเด็กๆ กำลังเล่นเกมส์กันอยู่ จากนั้นจึงมีการแจกอาหารเป็นแฮมเบอเกอร์ไส้ต่างๆ พร้อมน้ำดื่ม แล้วจึงได้แบ่งเด็กๆ ออกเป็นกลุ่ม ให้พี่ๆ ดูแล หนุนใจ และร่วมใจกันอธิษฐาน ตบท้ายด้วยการแจกของขวัญคริสตมาส ก่อนจากลาด้วยความชื่นชมยินดี และความรักเปี่ยมล้นหัวใจ
ในกลุ่มที่ฉันนำเด็กอธิษฐาน ฉันถามเด็กๆ ว่า ต้องการให้ฉันอธิษฐานทูลขอต่อพระเจ้าเพื่อน้องแต่ละคนในเรื่องใดบ้าง น้องบางคนก็ตอบไม่ได้ ส่งยิ้มฟันหลอเลย แต่หลายคนบอกว่า “ขอให้มีความสุข” บ้างก็ว่า “ขอให้เรียนเก่ง” แต่มีน้องทอย เด็กชายจอมซนคนหนึ่ง ทำให้ฉันประทับใจเป็นพิเศษ ในช่วงแรกนั้น ทอยไม่อยู่กับที่เลย เดี๋ยวลุก เดี๋ยวนั่ง เดี๋ยวเดิน และบางครั้งก็หันไปแกล้งเพื่อน แย่งของเพื่อน แต่น้องทอยกลับบอกฉันว่า “อธิษฐานขอการยกโทษให้กับทอย” เมื่อถามต่อเพื่อค้นว่าเพราะอะไรทอยจึงต้องการให้อธิษฐานแบบนั้น ทอยตอบว่า “เพราะว่าทอยดื้อ ทอยชอบแกล้งเพื่อน” อ้าว! ทำผิดแบบรู้ตัวนี่นา ฉันจึงซักไซร้ไล่เลียงอีก เมื่อรู้ว่าไม่ดีแล้วทำไมยังทำอีก คำตอบของทอยทำให้ฉันสะท้านใจมาก ทอยตอบว่า “อยูที่บ้าน ทอยโดนแม่ตี เมื่ออยู่นอกบ้านทอยจึงแกล้งเพื่อน” เมื่อถามสาเหตุว่าทำไมจึงโดนแม่ตี ทอยให้เหตุผลว่า ที่บ้านนั้นพี่มักจะได้ของจากแม่ก่อนเสมอ เมื่อทอยอยากได้บ้างจึงมีเรื่องทะเลาะกับพี่ และเมื่อใดที่ทะเลาะกัน แม่ก็จะตีทอยเสมอ…โอ พระบิดาที่รัก พระองค์ทรงมองลงมาเห็นหัวใจของเด็กน้อยผู้นี้ หัวใจเขาบอบบางอ่อนไหว เขาต้องการความรัก ซึ่งที่บ้านเป็นแหล่งความรักสำคัญสำหรับทุกคน แต่เมื่อไม่ได้รับความรักอย่างถูกต้องและเต็มที่ สิ่งนี้จะเป็นสิ่งกำหนดพฤติกรรมของเด็ก และจะเป็นสิ่งกำหนดอนาคตของเขาเลยทีเดียว สำหรับครอบครัวของทอยเราไม่ทราบพื้นฐานของครอบครัวนี้ และทอยอาจจะผิดจริงก็ได้ คุณแม่จึงตี แต่เด็กกลับรู้สึกเก็บกดจนต้องมาระบายกับเพื่อน ฉันคิดว่าผู้ใหญ่นั่นแหละที่ต้องรับผิดชอบ ครอบครัวที่อบอุ่นและแข็งแกร่งด้วยความรักเป็นรากฐานสำคัญของเด็กจริงๆ [สภษ.22:6] จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาจะไม่พรากจากทางนั้น ….ในคริสตจักรของเราก็เช่นกัน คริสตจักรเปรียบเสมือนครอบครัวใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยมวลสมาชิกจำนวนมาก บ้างก็เป็นพ่อ แม่ ลูก พี่ น้อง บ้างก็มีหลายบทบาทในตัวเอง ซึ่งเมื่อทุกคนแสดงบทบาทของตนอย่างเต็มกำลัง ช่วยกันเอาใจใส่ดูแลเด็ก (ทั้งเด็กฝ่ายร่างกาย และเด็กฝ่ายวิญญาณ) เด็กๆ เหล่านั้นก็จะกลายเป็นคริสเตียนคุณภาพ ฉายแสงแห่งความรักออกไปได้อย่างเต็มกำลัง และแน่นอนว่า จะเป็นเหตุให้คนอีกจำนวนมากภายนอกคริสตจักรของเรา สรรเสริญพระเจ้า สาธุการพระเยซู

ไม่มีความคิดเห็น: