Custom Search By Google

Custom Search

ฟีลิปปี 4:13
ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

Philippians 4:13
I can do all things in him that strengtheneth me.

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ตราดรำลึก

8/11/2008 กรุงเทพฯ-ตราด

ตะแน่ว ตะแน่ว แต่ว แต่ว…แล้วพี่อิ๋วกับฉัน 2 พี่น้องนักเดินทางก็ออกจากบ้านเวลาประมาณ 8 โมง ขึ้นรถทัวร์ที่ท่ารถเอกมัย รอบ 9.30 น. เพื่อไปแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสที่พี่ป๊อบรับบัพติศมาที่ตราด ถึงตราดประมาณ 14.30 น. พี่ป๊อบยิ้มหน้าแป้นในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น สวมหมวก สวมแว่นตาดำสุดเท่ห์มารับเราที่สถานีรถประจำทาง พี่ป๊อบพักอยู่กับเพื่อนรักซึ่งเป็นพยาบาลอยู่ในโรงพยาบาลตราด มีชื่อน่ารักว่า น้ำฝน กับโอ๋…เมื่อเก็บข้าวของแล้วเราก็พบกับอาหารมื้อแรก โดยสาวลูก 3 ชาวกัมพูชาที่แต่งงานกับหนุ่มไทย เปิดร้านอาหารเวียดนามชื่อ “เต็งอาหารเวียดนาม” ตามชื่อสาวเจ้า ที่หน้าตาสะสวย อัธยาศัยดี ทำอาหารอร่อย พี่ป๊อบไปตีซี้กับพี่เต็งไว้เรียบร้อยแล้ว และมีแนวโน้มในความตกลงเสรีทางการค้าด้วยกันในอนาคต หลังทานอาหารเราก็ไม่ลืมที่จะอวยพรให้กับพี่เต็งและครอบครัว
เราแวะเยี่ยม คจ.ตราด ซึ่งโดยการนำของพระเจ้า ที่นั่นกำลังจัดค่ายเด็ก เราจึงได้พบผู้ใหญ่และเด็กหลายคนกำลังทานอาหารเย็นกันอย่างเอร็ดอร่อย จากนั้นเราก็ได้นั่งคุยกับ อ.ซู ซึ่งเป็นชาวเขาที่ปัจจุบันพระเจ้าเจิมตั้งให้เป็นศิษยาภิบาลของคริสตจักร ระหว่างนั้นเราก็ฟังเด็กๆ ซ้อมเพลงนมัสการกันอย่างสนุกสนาน เป็นภาพประทับใจที่พบเห็นได้ง่าย ณ ที่แห่งนี้…เมื่อเราขึ้นไปที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องนมัสการ ก็พบพี่น้องกลุ่มหนึ่งกำลังซ้อมนมัสการอยู่ ภาพที่เห็นคือ ทุกคนนมัสการพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณและความจริง ทีมนมัสการประกอบไปด้วยน้องๆ วัยรุ่น นักศึกษา คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา และบางคนก็ยังไม่บรรลุวัยทำบัตรประชาชนเลย ขอบคุณพระเจ้าเป็นที่สุด การนมัสการที่เกิดขึ้นจึงไม่มีช่องว่างระหว่างวัย หรือช่องว่างใดๆ มากั้นขวาง เพราะเราทั้งหลายนั้นล้วนมีพระเจ้าองค์เดียวกัน [อฟ.4:3-6] จงเพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งพระวิญญาณทรงประทานนั้นด้วยสันติภาพเป็นพันธนะ มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว เหมือนมีความหวังใจอันเดียวที่เนื่องในการที่ทรงเรียกท่าน มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของคนทั้งปวง ผู้ทรงอยู่เหนือคนทั้งปวง และทั่วคนทั้งปวง และในคนทั้งปวง …หลังจากพี่ๆ ป้าๆ ซ้อมนมัสการแล้ว น้องใช้ อนุชนที่เข้มแข็งของคริสตจักรได้นำน้องๆ ขึ้นมานมัสการด้วยกัน พระเจ้าสถิตอยู่ท่ามกลางพวกเรา เด็กๆ สิบกว่าคน รวมถึงผู้ใหญ่บางท่านก็ค่อยๆ ล้มลงด้วยฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าทรงสำแดงพระสิริของพระองค์แก่เรา
 แสงพระสิริ
พระสิริพระเจ้างามเจิดจรัส กระจ่างชัดแพรวพราวสกาวแสง
งามหยดย้อยพริ้งพรายประกายสำแดง ตะลึงแลกระแสแสงละมุนละไม
แสงใดใดไหนจะเทียบเปรียบพระเจ้า แสงนพเก้ามณีจินดาหาเทียบไม่
แสงสุรีย์แสงจันทราผ่องอำไพ ไฉนเลยจะเทียบได้แสงพระองค์
พระสิริส่องแสงสู่โลกหล้า แสงฤทธาแวววาวตาสูงค่ายิ่ง
แสงบริสุทธิ์เปล่งรัศมีสู่สรรพสิ่ง แสงสัตย์จริง แสงสง่าคือบิดาเรา

พี่ป๊อบพาเราไปทานเต้าทึงที่ตลาดโต้รุ่ง และพาขับรถเที่ยวชมเมืองเล็กน้อยก่อนกลับเข้าที่พัก จริงๆ กะว่าจะแวะงานวัดซักกะหน่อย แต่ว่าคนเยอะมาก หาที่จอดรถลำบาก เราก็เลย…ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า!

9/11/2008 ตราด-กรุงเทพฯ
แสงสุรีย์ทาทาบทองที่ท้องฟ้า เขาบรรทัดงามจับตาทอดยาวไกล
เอ้กอี้เอ้กเสียงไก่ขันรับวันใหม่ นกน้อยใหญ่ร้องเสียงใสบินไปมา
จิ้งจกน้อยร้องทักที่รักตื่น สุดสดชื่นด้วยกลิ่นไอไพรพนา
เจ้าข้าวตังส่งเสียงเห่าเพราะเป็นหมา เราตื่นมาเจรจาถ้อยพาที
แล้วพากันไปหาของมารองท้อง รถไม่ต้องนะน้อง พี่เดินได้
ตลาดสด อาหารเราอยู่ไม่ไกล แค่เลี้ยวซ้ายจากโรงพยาบาลเดินผ่านไป
ตื่นตะลึงอาหารทะเลมากใหม่สด เราก็อดกดชัตเตอร์เสียมิได้
เก็บมาฝากภาพเมืองตราดในดวงใจ เราแวะซื้อผลไม้กลับมากิน

พี่อิ๋วเดินนำหน้าส่งโปสการ์ด พี่ป๊อบก็เดินนวยนาดมุ่งตามหลัง
รอคอยนะว่าใครจะได้รับบ้าง คงไม่ต้องโดนตกค้างอยู่หลายเดือน
เรากินไปคุยไปหัวใจสุข สุดสนุกเล่นกับหมากับน้องพี่
ได้เวลาไปนมัสการพอดิบพอดี พี่ป๊อบรี่ตรงไปที่รถ ขับรถไป
ขอบพระคุณพระเจ้าที่เราได้นมัสการร่วมกับพี่น้องที่ คจ.ตราด ซึ่งนำนมัสการโดย น้องใช้ ทั้งมีการถวายเพลงพิเศษโดยคณะนักร้องเด็ก ในเพลง “บ้านหลังนี้” ซึ่งเพลงดังกล่าวมีท่อนที่สัมผัสหัวใจมากคือ “จากนี้ สัญญาว่าจะรับใช้ สุดตัวและสุดใจ สุดกำลังที่มี” Wow! นี่เป็นคำสัญญาของเด็กๆ ซึ่งพระเจ้าทรงสดับพระกรรณและทอดพระเนตรด้วยความโปรดปราน…จากนั้น อ.ซู ศิษยาภิบาลได้แบ่งปันพระวจนะด้วยการเทศนาในหัวข้อที่ว่าด้วยความหมายและความสำคัญของพระคัมภีร์ [ฮบ.4:12] เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตายและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย…หากจะกล่าวโดยสรุป คือ พระคัมภีร์นั้นเป็นสิ่งที่ขาดเสียมิได้ หากว่าเราขาดพระวจนะของพระเจ้า เราทั้งหลายก็ต้องตายทางฝ่ายวิญญาณ ด้วยว่าพระคัมภีร์เปรียบเสมือน อาหาร ไฟ โคม น้ำนม น้ำผึ้ง ทองคำ กระจก ค้อน ดาบ และเมล็ดพืช เหตุนี้เอง คริสเตียนจึงต้องอ่านพระคัมภีร์ทุกวัน ด้วยเหตุผล 5 ประการ คือ
1. พระคัมภีร์เป็นพระดำรัสของพระเจ้า
2. พระคัมภีร์สำแดงให้เราเห็นว่าพระเจ้าเป็นอย่างไร
3. พระคัมภีร์ช่วยให้เราเข้าใจความจริงเกี่ยวกับมนุษยชาติและโลกนี้
4. พระคัมภีร์สอนเราเกี่ยวกับน้ำพระทัยพระเจ้า และแผนการของพระองค์
5. พระคัมภีร์หนุนใจ
การนมัสการโอบล้อมไปด้วยพระสิริของพระเจ้า ความรักของพระองค์ฝังลึกในจิตใจของทุกคน พระวิญญาณบริสุทธิ์เคลื่อนไหวได้เต็มขนาด ฤทธิ์เดชของพระเจ้าแตะต้องหัวใจของผู้คนจนไม่อาจกลั้นน้ำตาแห่งความซาบซึ้งไว้ได้ พี่น้องได้รับการโอบกอดจากพระเจ้า และจากกันและกัน
 อ้อมกอดรักพระเจ้า
อ้อมเอยอ้อมกอดรัก อบอุ่น
อ้อมไอละมุนละไมรัก หลงไหล
อ้อมพระทรวงซาบซึ้งรัก ปักใจ
อ้อมพระทัยบริสุทธิ์ งดงาม
อิ่มเอมรักอ่อนหวาน อบอวล
กรุ่นกลิ่นนวลหอมซึ้ง ซาบซ่าน
อ้อมกอดรักของพระเจ้า ชื่นบาน
เป็นพระพรในวิญญาณ รื่นรมย์เอย
การนมัสการระหว่างเวลา 9.00-11.00 น. เสร็จสิ้นลง หลังจากนั้นจึงเป็นชั้นเรียนรวีแยกตามวัย ต่อด้วยการรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งมื้อนี้เป็นขนมจีนแสนอร่อย ตบท้ายด้วยมะละกอ ผลไม้เพื่อความงาม
พี่ป๊อบพาเราแวะมาเก็บของที่ห้องพัก และพาไปชายหาด ในพิธีบัพติศมา…พี่ป๊อบก้าวลงน้ำด้วยความมั่นใจ วางใจให้พระเจ้านำชีวิต ทิ้งตัวเก่าไว้ที่ทะเลลึก กลายเป็นคนใหม่ที่จะไม่หันหลังกลับ แต่จะมุ่งหน้าบากบั่นไปสู่หลักชัยในองค์พระคริสต์ [ฟป.3:14] ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบน ให้เราไปรับ
น้ำฝน พยาบาลคนสวยไปร่วมพิธีบัพติศมาด้วย และรับอาสาขับรถแทนพี่ป๊อบ พาเราไปส่งที่สถานีขนส่ง รอบ 16.30 เราถึงเอกมัยเวลา 21.30 และถึงที่พักโดยสวัสดิภาพในเวลาประมาณสี่ทุ่มเศษๆ
ขอบคุณ Alpha Class ที่ทำให้เราสามพี่น้องรู้จักกัน ขอบคุณพี่ป๊อบที่เป็นผู้จุดประกายการเดินทางแห่งพระพรให้กับเราครั้งนี้ ขอบคุณพี่อิ๋ว พี่สาวที่แสนดีที่ร่วมเดินทางไปด้วยตลอด ขอบคุณพยาบาลน้ำฝนและโอ๋ สำหรับมิตรภาพอันงดงาม ขอบคุณคริสตจักรตราดที่หนุนใจเราด้วยความรัก ขอบคุณที่ทำให้เราได้ชื่นชมความงามในนิเวศของพระเจ้า และได้ตะลึงงันกับการอัศจรรย์แห่งองค์พระเจ้าร่วมกับท่าน และขอบคุณที่สุดของที่สุด คือ องค์พระเจ้าของเรา ผู้ทรงพระชนม์อยู่ตั้งแต่นิรันดร์กาล จนถึงนิรันดร์กาล
พระบิดาเจ้าข้า พระองค์ทรงสร้างเรามาด้วยความรัก ตามพระฉายาของพระองค์ เพื่อนมัสการพระองค์ และทรงเรียกเราทั้งหลายให้รับใช้พระองค์…พระองค์เจ้าข้า เราขอถวายทั้งสิ้นที่มีอยู่ภายในเรา และทุกสิ่งในการครอบครองของเรา เพื่อรับใช้พระองค์ เพื่อให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะสูงสุด แต่เพียงองค์เดียว

ไม่มีความคิดเห็น: